ความรุนแรงและความซับซ้อนของปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบด้านทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ไม่ว่าปัญหาฝุ่น PM 2.5 ภัยพิบัติธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยแล้ง น้ำเสีย ขยะล้นเมือง และวิกฤติสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อต่อเศรษฐกิจ สังคมและความเป็นอยู่ของมนุษย์ รวมทั้งระบบนิเวศทางธรรมชาติ
ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวล้วนจะต้องอาศัยความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อม มีเจตนารมณ์ที่จะมีส่วนร่วมในแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ โดยได้ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชนและองค์กรระหว่างประเทศตลอดเวลาที่ผ่านมา
การทำงานของสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2536 ปีนี้จึงครบรอบปีที่ 28 ในปีนี้ ที่ผ่าน TEI ได้มุ่งเน้นการศึกษาวิจัยองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม และผลักดันให้เกิดการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการจัดการส่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบบนพื้นฐานของข้อมูล อันเป็นรากฐานสำคัญสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
งานสำคัญๆ ที่ดำเนินการที่ได้ดำเนินการมา อาทิ การรับรองฉลากสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ ฉลากเขียว ฉลากลดคาร์บอน การขับเคลื่อนงานด้านการผลิตการบริการ และการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับต่างๆ มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ในการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมศึกษา แผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะพลาสติก การจัดการทรัพยากรป่าไม้ การจัดการขยะอาหาร การจัดการพลังงานไฟฟ้าจากขยะ ประชาสังคมในการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง โครงการศึกษาจัดทาแนวทางปฏิบัติที่ดี ตัวชี้วัดแลการจัดการะความหลากหลายทางชีวภาพ การรับรองการลดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การฝึกอบรมบุคลากรสิ่งแวดล้อม ประจำโรงงาน การพัฒนาสิ่งแวดล้อมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานใหม่ BCG (B เศรษฐกิจชีวภาพ Bio Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy และเศรษฐกิจสีเขียว Green Economy)
ขณะเดียวกัน TEI ทำงานร่วมกับภาคเอกชน โดย ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือ (TBCSD) ในการร่วมขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการและดำเนินโครงการมีส่วนร่วมภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในจัดการขยะและขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน (PPP Plastics)
ปัจจุบัน TEI ยังมุ่งทำงานร่วมทำงานกับทุกภาคส่วนในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ อีกทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย แหล่งข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบแทนสังคม และการสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อให้เกิดความตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และในก้าวต่อไป TEI จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ และภูมิภาค ช่วยสร้างสังคมที่เป็นมิตรกับสิงแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการร่วมผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับกระแสโลก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และ การพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นต้น
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ยังได้ทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ หลายหน่วยทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านทาง JICA รัฐบาลเยอรมันผ่าน GIZ สหภาพยุโรป ธนาคารโลก UNDP UNEP IUCN ในขณะเดียวกันได้ทำงานในระดับพื้นที่ เพื่อต้องการสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับชุมชนและเป็นต้นแบบในเรื่องต่าง ๆ เช่น การจัดการขยะมูลฝอย การจัดการทรัพยากรป่าไม้
ส่วนอีกบทบาทที่สำคัญของ TEI คือการให้ข้อเสนอแนะภาคส่วนต่าง ๆ ในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันสถาบันฯ โดยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมของประเทศและในภูมิภาคอย่างจริงจัง
บทความโดย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา
ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย