หลังจากได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมลพิษจากมนุษย์ ทำให้ “ทะเลสาบอูรูอูรู” หรือ Uru Uru Lake ในประเทศโบลีเวีย ซึ่งเคยเป็นแหล่งที่มีระบบนิเวศวิทยาอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม กลับกลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยขยะและของเสีย โดยเมื่อปี 2016 ทะเลสาบแห่งนี้เผชิญภัยแล้ง ทำให้ระดับน้ำลดต่ำอย่างมาก ขณะที่ แม่น้ำที่ไหลมาลงในทะเลสาบได้นำพาขยะมากมายทั้งขยะพลาสติกต่างๆ ของเล่น ยางรถ ฯลฯ รวมทั้ง น้ำในพื้นที่นี้ยังปนเปื้อนจากอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ที่อยู่ใกล้เคียง
กระทั่งเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาสาสมัครหลายร้อยคนมารวมตัวกันมาเก็บขยะเพื่อทำความสะอาดทะเลสาบแห่งนี้ โดยหวังว่าจะช่วยฟื้นฟูความสวยงามกลับคืนมา และย้ำเตือนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้สามารถแก้ไขได้ตั้งแต่ต้นทาง หากมนุษย์ให้ความสำคัญและใส่ใจอย่างแท้จริง เพราะขยะต่างๆ ที่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่นั้นเกิดมาจากมนุษย์เป็นจุดเริ่ม
Limbert Sanchez จากศูนย์นิเวศวิทยาและชนพื้นเมือง (CEPA) กล่าวว่า “มลพิษจากขยะกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าทะเลสาบอูรูอูรูกำลังจะตาย”
Alex Dessard อินฟลูเอ็นเซอร์ในโซเชียลมีเดียของฝรั่งเศส หนึ่งในอาสาสมัครที่ช่วยเก็บขยะในทะเลสาบอูรูอูรู กล่าวว่า “เราต้องตระหนักถึงขยะที่มาสะสมอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว และมองไปในอนาคต ฉันคิดว่าถ้าเราช่วยกันเก็บขยะก็จะทำให้สถานที่แห่งนี้กลับมาสวยงาม”
ที่มา - สำนักข่าวรอยเตอร์ส
https://www.reuters.com/article/us-bolivia-environment/made-of-plastic-cleaning-up-bolivias-uru-uru-lake
