เต็ดตรา แพ้ค ร่วมกับ WWF-ประเทศไทย และ FSC™ ร่วมพูดคุยถึงแนวทางที่บรรจุภัณฑ์อาหารแห่งอนาคตจะช่วยปกป้องทั้งผู้คนและโลกไปพร้อมกันได้อย่างสมดุล ยืนยันไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างการปกป้องระบบนิเวศของโลกหรือการตอบสนองความต้องการด้านอาหารของมนุษย์เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ย้ำโซลูชั่นบรรจุภัณฑ์อาหารแห่งอนาคตควรจะต้องตอบสนองความต้องการได้ทั้งสองเรื่อง
ยิ่งยง วิทยานานันท์ ผู้บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF-ประเทศไทย) กล่าวถึงงานวิจัยฉบับล่าสุด WWF Living Planet Report 2020 ที่สอดรับกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวของประชากรและสังคมมนุษย์ ก่อให้เกิดการแสวงหาประโยชน์จากธรรมชาติที่มากเกินพอดี จนทรัพยากรธรรมชาติที่โลกมีอยู่กำลังเสื่อมโทรมลง และกำลังลดลงในอัตราที่น่าวิตก
“งานอนุรักษ์จึงเป็นวาระเร่งด่วนที่จะช่วยเยียวยา และช่วยให้อัตราการทำลายธรรมชาติเป็นไปอย่างช้าลง เพื่อให้เรายังคงสามารถรักษาทรัพยากรของโลกไว้สำหรับคนรุ่นต่อไปได้”
WWF มี 3 วัตถุประสงค์ในการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจคือ 1.สร้างความตระหนัก ถ้าประเด็นหรือหัวข้อใดยังไม่เป็นที่รู้และเข้าใจอย่างถูกต้อง เราก็จะนำความรู้ที่ถูกต้อง มานำเสนอต่อสาธารณะชน 2.ถ้าความรู้นั้นแพร่หลายแล้ว แต่ภาคธุรกิจยังไม่พร้อมปรับเปลี่ยนกระบวนการ ก็สามารถทำงานร่วมกับเราได้ โดยอาจจะสนับสนุนด้านการเงิน หรือทรัพยากรอื่นๆ 3.พร้อมทั้งหมดและมีนโยบายด้านความยั่งยืนที่เข้มแข็ง และพร้อมทำงานร่วมกับเรา เพื่อเปลี่ยนแปลงธุรกิจของเขาให้เป็นธุรกิจที่ใส่ใจเรื่องการอนุรักษ์อย่างเต็มที่
หนึ่งในประเด็นที่น่าจะสร้างความตระหนักมากขึ้น คือการใช้วัตถุดิบจากป่า โดยเฉพาะการใช้ไม้จากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ซึ่งมีการจัดการอย่างยั่งยืนทดแทนการใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้งานอนุรักษ์เข้ามาในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไปได้มากขึ้น ซึ่งการใช้วัตถุดิบที่ถูกต้องก็ทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของงานอนุรักษ์แล้ว
ปรัศนีย์ ทิพย์รักษา ผู้ประสานงาน องค์การจัดการด้านป่าไม้ ประจำภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (ประเทศไทย) หรือ Forest Stewardship Council™: FSC™ กล่าวถึงความวิตกกังวลในเรื่องนี้ว่า “เรากำลังอาศัยอยู่ในโลกที่ทรัพยากรธรรมชาติกำลังหมดลง การจัดการทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบในทุกอุตสาหกรรมเท่านั้น ที่จะช่วยให้เราหยุดยั้งและแก้ไขปัญหานี้ได้ สำหรับเยื่อและกระดาษ การนำวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC™ (Forest Stewardship Council™) มาใช้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญและมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการรับประกันว่ากระดาษที่บริษัทนำมาใช้มาจากป่าปลูกทดแทนที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน FSC ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นโซลูชั่นการจัดการป่าไม้ที่เชื่อถือได้มากที่สุด และเป็นมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของเยื่อและกระดาษที่มีการจัดหามาจากแหล่งป่าไม้ที่มีการจัดการอย่างรับผิดชอบซึ่งผ่านการรับรองโดย FSC”
เต็ดตรา แพ้ค เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ในอุตสาหกรรมนี้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC เมื่อปี พ.ศ. 2550 และในวันนี้บรรจุภัณฑ์กล่องเครื่องดื่มทั้งหมดของเต็ดตรา แพ้ค ผ่านการรับรองมาตรฐาน FSC แล้วทั้งสิ้น สำหรับในประเทศไทย บริษัทเต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเสนอบรรจุภัณฑ์กล่องเครื่องดื่มที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC มาตั้งแต่ช่วงแรกในปี พ.ศ. 2553 โดยปัจจุบัน สามารถส่งมอบกล่องเครื่องดื่มที่ติดฉลาก FSC ไปแล้วมากกว่า 26,000 ล้านกล่อง
ปฏิญญา ศิลสุภดล ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เต็ดตรา แพ้ค เชื่อมั่นในบทบาทเชิงบวกที่บรรจุภัณฑ์อาหารสามารถตอบสนองความต้องการทั้งของผู้คนและของโลกไปพร้อมๆ กันได้ บริษัทฯ มุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการสร้างสรรค์อนาคตของโลกที่ยั่งยืน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ โดยได้ดำเนินงานมาเป็นเวลาหลายปีในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ขณะนี้ เต็ดตรา แพ้ค ได้เพิ่มความพยายามอีกขั้นในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์กล่องเครื่องดื่มในอุดมคติเพื่ออนาคต ซึ่งจะเป็นกล่องเครื่องดื่มที่ใช้ทรัพยากรทดแทนได้และรีไซเคิลได้ทั้งหมด เพราะโลกกำลังต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นนี้ เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าถึงอาหารและลดปริมาณขยะอาหารให้น้อยลง พร้อมด้วยคุณสมบัติการขนส่งจัดจำหน่ายแบบไม่ต้องแช่เย็น ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้อีกด้วย
“เราได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารที่ยั่งยืนโดยยึดถือเรื่องความปลอดภัยทางอาหารเป็นสำคัญและส่งเสริมการลดปริมาณขยะอาหารมาอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีของเราช่วยยืดอายุของอาหารบนชั้นวางสินค้าและช่วยเก็บรักษาอาหารให้ปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องแช่เย็นหรือใช้สารกันบูด”
ในฐานะผู้นำเสนอโซลูชั่นการแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก บรรจุภัณฑ์กล่องเครื่องดื่มของเต็ดตรา แพ้ค ใช้วัสดุที่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ทั้งหมดและมีการนำไปรีไซเคิลเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก แต่บริษัทฯ ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ โดยยังคงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้กระดาษในกล่องบรรจุภัณฑ์ให้มากขึ้น พร้อมกับลดการใช้อลูมิเนียมและพลาสติกให้น้อยลง เป้าหมาย คือ การสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์กล่องเครื่องดื่มที่ผลิตจากทรัพยากรทดแทนได้ที่มีการจัดการอย่างรับผิดชอบทั้งหมดและรีไซเคิลได้ ซึ่งต้องนำกลับไปรีไซเคิลได้ทุกส่วนโดยไม่มีผลกระทบจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิสู่ชั้นบรรยากาศ เต็ดตรา แพ้ค เชื่อว่าบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพดังกล่าวจะช่วยรับมือกับความท้าทายในการเข้าถึงอาหาร การขาดความมั่นคงทางอาหาร และขยะอาหารได้อย่างเหมาะสม
“การพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารแห่งอนาคตไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน แต่เราจะมุ่งมั่นบนแนวทางนี้อย่างเต็มตัว เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาของเราที่ว่า ปกป้องทุกคุณค่า หรือ PROTECTS WHAT’S GOOD™ ซึ่งหมายถึงการปกป้องทั้งอาหาร ผู้คน และโลก ด้วยการสนับสนุนจากทุกฝ่ายที่ตระหนักถึงความวิตกกังวลร่วมกันเกี่ยวกับอนาคตของโลกใบนี้ เต็ดตรา แพ้ค มุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงบวกครั้งยิ่งใหญ่และเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนต่อไป”