สจล.พัฒนานวัตกรรมประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อต่อยอดการคัดกรองบุคคลก่อนเข้าอาคารให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสริมศักดิ์ อยู่เย็น คณบดีวิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สจล. ร่วมกับห้องวิจัยอิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และ Thai Echo Group พัฒนานวัตกรรมประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อต่อยอดการคัดกรองบุคคลก่อนเข้าอาคารให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
ภาพ-ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนจะเป็นสีแดง สีเหลือง สีเขียว พร้อมรายงานผลอุณหภูมิของแต่ละคนแบบเรียลไทม์
นวัตกรรมดังกล่าวมีหลักการทำงาน 3 ข้อ ได้แก่ 1) การตรวจวัดอุณหภูมิด้วยระบบ AI โดยระบบจะตรวจจับจุดที่อุณหภูมิสูงสุดบนใบหน้าเพื่อความแม่นยำ ใช้เวลาในการตรวจวัดอุณหภูมิเพียง 5 วินาที โดยมีระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนจะเป็นสีแดง สีเหลือง สีเขียว พร้อมรายงานผลอุณหภูมิของแต่ละคนแบบเรียลไทม์ ซึ่งผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศา จะมีสัญญาณแจ้งเตือนดังขึ้น เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์นำตัวบุคคลดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคเพิ่มเติม
ภาพ-ระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ
2) ระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ ผู้ที่ผ่านการคัดกรอง หรือมีอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 37.5 องศา จะสามารถผ่านไปยังจุดพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยน้ำยาฆ่าเชื้อดังกล่าวสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่า 95% และเป็นน้ำยาที่ใช้ในโรงพยาบาล จึงมีความปลอดภัยในการใช้งาน และเมื่อผู้ใช้งานผ่านจุดพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติทั่วร่างกายเป็นเวลา 10 วินาทีแล้ว จึงสามารถผ่านประตูทางเข้าได้
ภาพ- การใช้งานประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ
3) ระบบการทำงานรวดเร็วและอัตโนมัติ กระบวนการคัดกรองและฉีดพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งหมดของประตูสแกนอุณหภูมิ AI ใช้เวลาไม่เกิน 15 วินาที อีกทั้งไม่ใช้คนในการคัดกรอง ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อระหว่างผู้คัดกรองและผู้ใช้งาน
การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันก้าวผ่านไปให้ได้