นอกจากการระบาดของ “ไวรัสโควิด-19”จะสร้างความหวั่นวิตกให้กับผู้คนทั่วโลก รวมทั้ง เชียงใหม่แล้ว “ปัญหาหมอกควัน” ที่ยังคงเกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ จะยิ่งซ้ำเติมการใช้ชีวิตประจำวันและสุขภาพของผู้คนมากน้อยแค่ไหน “แม่โจ้โพลล์” ได้สำรวจความคิดเห็นล่าสุดของคนเชียงใหม่
แม่โจ้โพลล์ ภายใต้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร ได้สำรวจความคิดเห็นของคนเชียงใหม่ จำนวน 705 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5 - 11 มีนาคม 2563 ในหัวข้อ “ปัญหาหมอกควัน ปัญหาซ้ำซากของคนเชียงใหม่?” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสอบถามชาวเชียงใหม่เกี่ยวกับความคิดเห็นต่อปัญหาสถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลได้ดังนี้
จากการสอบถาม “ความคิดเห็นประชาชนชาวเชียงใหม่ต่อความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน” พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.74 เห็นว่าสถานการณ์หมอกควันในปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถพบเห็นในอากาศได้ด้วยตาเปล่า รองลงมาร้อยละ 18.86 เห็นว่ามีความรุนแรงเท่าเดิม มีเพียงร้อยละ 4.40 เท่านั้นที่เห็นว่ารุนแรงลดลง
เมื่อสอบถามถึง “ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์หมอกควัน” พบว่า ร้อยละ 70.09
วิตกกังวล ในระดับมาก เนื่องจากปัญหาหมอกควันส่งผลต่อสุขภาพและกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
รองลงมา ร้อยละ 25.60 วิตกกังวล ในระดับ ปานกลาง มีเพียงร้อยละ 4.31 เท่านั้นที่ วิตกกังวล ในระดับน้อย เนื่องจาก สามารถป้องกันดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี
เมื่อสอบถาม “ความสำเร็จของมาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันของทางภาครัฐ” เช่น มาตรการห้ามเผา ฯลฯ
พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 75.25 เห็นว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหมอกควันได้ เนื่องจากยังประสบปัญหาหมอกควันและพบเห็นการลักลอบเผาในปัจจุบัน มีเพียงร้อยละ 24.75 ที่เห็นว่า สามารถแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจาก ภาครัฐมีมาตรการที่เอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหา
ด้าน “ความรู้สึกต่อสถานการณ์ปัญหาหมอกควันในปัจจุบัน” พบว่า ร้อยละ 67.58
รู้สึกเบื่อหน่าย/ชินชา รองลงมา ร้อยละ 24.28 รู้สึกเฉยๆ และร้อยละ 8.14 รู้สึกโกรธแค้นต่อสถานการณ์ดังกล่าว
เมื่อสอบถาม “ความคาดหวังต่อการลดลงของปัญหาหมอกควัน” พบว่า ร้อยละ 59.01 คาดหวังว่าปัญหาหมอกควันจะลดลง และร้อยละ 40.99 ไม่คาดหวัง
และจากการสอบถาม “ความต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการแก้ไขปัญหา”
พบว่า อันดับ 1 (ร้อยละ 76.45) ควรปรับเปลี่ยนให้เกษตรกรปลูกพืชที่จัดการง่ายและมีการกำจัดอย่างถูกวิธี อันดับ 2 (ร้อยละ 57.30) กำหนดบทลงโทษที่รุนแรงแก่ผู้กระทำผิด
จากปัญหาสถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำในทุกๆ ปี ซึ่งมักจะเกิดในช่วงเดือน พฤศจิกายน - มีนาคม โดยจากสถิติค่าฝุ่นละอองของ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ของ วันอังคาร ที่ 10 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา พบค่าฝุ่นละออก PM2.5 สูงขึ้นถึง 497 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก สาเหตุมาจากการเกิดไฟป่าที่เป็นจุดสะสมความร้อนเป็นจำนวนมากในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ปัญหาหมอกควันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
ปัญหาดังกล่าวถือเป็นปัญหาที่สะสมมาหลายปี ส่งผลเสียทั้งต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่และทำลายภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐ ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นจะต้องมีมาตรการเร่งด่วนที่จะสามารถลดปัญหาหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ให้สำเร็จ เพื่อให้ประชาชนชาวเชียงใหม่รวมทั้งนักท่องเที่ยวมีสุขภาพที่แข็งแรงจากอากาศที่บริสุทธิ์และให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงามดังเดิม