กระทรวงอุตสาหกรรมบูรณาการภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่อำเภอสะเดาและอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แก้ไขปัญหาน้ำเสียพื้นที่ คลองอู่ตะเภา คลองแห อย่างจริงจัง 3 เดือน เห็นผลเป็นรูปธรรม ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำในคลองบริเวณที่มีโรงงานอุตสาหกรรมพบว่ามีค่าดีกว่าค่ามาตรฐาน
กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อตรวจติดตามงานและพบปะ รับฟังปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการปล่อยน้ำเสียลงคลองอู่ตะเภาและคลองแห พร้อมกำชับหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่เข้าพูดคุย ช่วยเหลือ และแนะนำแนวทางแก้ไขปัญหา นำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในการบำบัดน้ำเสียกับสถานประกอบการ และขอความร่วมมือสถานประกอบการร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยให้เวลาอีก 3 เดือนต้องเห็นผลงานชัดเจนนั้น
ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่องและดีขึ้นเป็นลำดับ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่อำเภอสะเดา และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลาลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ ประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และแนะนำแนวทางแก้ไขปัญหานำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในการบำบัดน้ำเสียกับสถานประกอบการ พร้อมมอบหมายเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ตรวจกำกับดูแลโรงงานในพื้นที่ให้ประกอบกิจการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเด็ดขาด
นอกจากนี้ในส่วนของจังหวัดสงขลา แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดในจังหวัดสงขลาเป็นที่ปรึกษา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ โดยอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา และผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสงขลา ร่วมเป็นคณะกรรมการและเลขานุการ
นอกจากมาตรการทางกฎหมายแล้วกรมโรงงานอุตสาหกรรม ยังได้จับมือโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 52 โรงงาน ที่ตั้งอยู่บริเวณคลองอู่ตะเภา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการจิตอาสารักษ์แม่น้ำ พร้อมประสาน Big Brother ในพื้นที่สงขลา (บริษัท SCG จำกัด) มอบทุ่นกักขยะลอยน้ำให้กับเทศบาลเมืองคลองแหเพื่อดักจับขยะในบริเวณลำคลอง
ทั้งนี้ จากการดำเนินงานอย่างจริงจังของทุกภาคส่วน ใน 3 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้คุณภาพน้ำในคลองอู่ตะเภาบริเวณที่มีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ใกล้เคียงมีคุณภาพดี โดยผลการวัดค่าน้ำพบว่ามีค่าดีกว่าค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดินประเภทที่ 4 โดยการวัด มีค่าบีโอดี (Biochemical Oxygen Demand: BOD) ซึ่งใช้วิเคราะห์ปริมาณความสกปรกของน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ เฉลี่ย 1.34 มิลลิกรัม/ลิตร ซึ่งค่ามาตรฐานกำหนดไม่เกิน 4.0 มิลลิกรัมต่อลิตร (เดิมผลการตรวจวัด ปี พ.ศ. 2561 ครั้งที่ 1 มีค่าบีโอดี (BOD.) เฉลี่ย 3.27 มิลลิกรัม/ลิตร และ ปี พ.ศ. 2561 ครั้งที่ 2 มีค่าบี โอ ดี(BOD.) เฉลี่ย 3.75 มิลลิกรัม/ลิตร)
“ปัญหาสิ่งแวดล้อม ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน หยุดปล่อยน้ำเสียลงคลอง ทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และประชาชนในพื้นที่ต้องมีจิตสำนึกในการพิทักษ์สายน้ำ เพื่อให้ทุกภาคส่วนอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน” กอบชัยฯ กล่าวทิ้งท้าย
หมายเหตุ : น้ำในแหล่งน้ำผิวดินประเภทที่ 4 คือแหล่งน้ำที่ได้รับน้ำทิ้งจากกิจกรรมบางประเภทและสามารถเป็นประโยชน์เพื่อ 1) การอุปโภคและบริโภคโดยต้องผ่านการฆ่าเชื้อโรคตามปกติและผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำเป็นพิเศษก่อน 2) การอุตสาหกรรม