เมื่อเร็วๆ นี้ เบทาโกรขยายตลาดสู่ภูมิภาคในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดโรงงานแปรรูปไก่แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในจังหวัดมหาสารคาม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร
สมศักดิ์ บุญลาภ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร สายงานปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า เบทาโกรมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ประชาชนและชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น ในราคาที่เป็นธรรม จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปไก่แห่งใหม่ที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และการศึกษา จึงเหมาะสมในการเป็นจุดยุทธศาสตร์ เพื่อขยายตลาดไปสู่ผู้บริโภคในภูมิภาคที่ต้องการอาหารคุณภาพ และมีทางเลือกมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์จากโรงงานแปรรูปไก่แห่งใหม่นี้ จัดจำหน่ายในชื่อแบรนด์เบทาโกร ส่งจำหน่ายในจังหวัดมหาสารคามและพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก ทั้งผ่านช่องทางในร้านเบทาโกร ช็อป และตลาดสด รวมทั้งส่งให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม โรงพยาบาล และสถานศึกษาในพื้นที่
สำหรับโรงงานแปรรูปไก่มหาสารคาม นับเป็นโรงงานแปรรูปไก่แห่งที่ 5 ของเครือเบทาโกร เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนมกราคม พ.ศ 2562 แล้วเสร็จสมบูรณ์และดำเนินการผลิตได้เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 โดยมีมูลค่าการลงทุน 180 ล้านบาท มีกำลังการผลิตจำนวน 40,000 ตัวต่อวัน หรือประมาณ 1,000,000 ตัวต่อเดือน ปัจจุบันถือเป็นโรงงานแปรรูปไก่แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในจังหวัดมหาสารคาม
โรงงานแปรรูปไก่แห่งนี้เป็นไปตามมาตรฐานกรมปศุสัตว์ ขับเคลื่อนโดยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจปศุสัตว์และการแปรรูปเนื้อสัตว์ ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีระบบการผลิตและการจัดการด้วยมาตรฐานและคุณภาพ ภายใต้นโยบายอาหารคุณภาพและปลอดภัยของเครือเบทาโกร จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่และชิ้นส่วนไก่ที่ผลิตจากโรงงานแปรรูปไก่มหาสารคาม สด สะอาด มีคุณภาพสูงและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
“นอกจากนี้ ผมหวังว่าการดำเนินงานของโรงงานแปรรูปไก่มหาสารคาม จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน ทั้งยังเป็นการสร้างงาน ส่งเสริมด้านอาชีพให้แก่คนท้องถิ่นให้เกิดการเพิ่มผลผลิตและมูลค่าเพิ่ม การกระจายรายได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน และดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนรอบโรงงาน ซึ่งถือเป็นแนวทางในการขยายธุรกิจของเครือเบทาโกรตลอดเวลาที่ผ่านมา”