เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ไทยแพน) โพสต์ชวนประชาชนและสื่อมวลชนร่วมขบวนแสดงพลังไปกับตัวแทนเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร โดยเตรียมตัวเข้าพบตัวแทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากพรรคชาติไทยพัฒนา และกระทรวงเกษตรฯ จากพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ทั้งสองกระทรวงมีตัวแทนนั่งอยู่ในคณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะแบนหรือไม่แบนการใช้สารพิษกำจัดศัตรูพืชอันตราย - พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต
วันนี้ (อังคารที่ 8 ตุลาคม 2562 เวลา 16.00 น.) ขอพบผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัตถุอันตราย ทั้งนี้เพื่อนำเสนอปัญหาและข้อเสนอในการแก้ปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ได้ปนเปื้อนในผืนดินและแหล่งน้ำ จนสร้างผลกระทบต่อประชาชนทั้งในท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป
ส่วนวันพรุ่งนี้ (พุธที่ 9 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น.) เครือข่ายฯจะเดินทางเข้าพบ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรับฟังความคืบหน้าในการดำเนินการยกเลิกสารพิษร้ายแรง ตามที่รมว.เกษตรฯ ได้แจ้งต่อประชาชน พร้อมนำเสนอแนวทางการสร้างทางเลือกเพื่อส่งเสริมระบบเกษตรกรรมที่ยั่งยืน มีมาตรการในการสนับสนุนเกษตรกรที่จำเป็นต้องใช้สารเคมีให้ปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบเกษตรกรรมและอาหารที่ปลอดภัย
"สุริยะ" ยันขอรักษาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
ตามที่มีรายงานข่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงถึงจุดยืนการยกเลิกการใช้สารเคมีวัตถุอันตรายทางการเกษตร 3 สาร พาราควอต ไกลโฟเซส คอร์ไพริฟอส และจะขอเชิญนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ทุกท่านพร้อมแบน 3 สาร มาแถลงข่าวร่วมกันนั้น
“ขอให้บอกพร้อมแถลงจุดยืนร่วม 3 รมต. ทุกที่ทุกเวลา”
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ผมขอตอบรับและยินดีอย่างยิ่ง พร้อมทุกที่ ทุกเวลาขอให้นัดมา เนื่องจากโดยส่วนตัวต้องการหาทางออกเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะมีผลกระทบด้านสุขภาพและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน แต่ก็ต้องทำให้พี่น้องเกษตรกรอยู่ได้ด้วย ซึ่งตลอดเวลาผมก็ได้ทำงานร่วมกันกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว
มติเอกฉันท์ ให้ยกระดับสารเคมีทั้ง 3 ชนิด เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 มีผล 1 ธ.ค.นี้
เมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม 2562) คณะทำงานเพื่อพิจารณาความคิดเห็นของส่วนรัฐ ผู้นำเข้า เกษตรกร และผู้บริโภค ตามบัญชานายกรัฐมนตรี มีมติเอกฉันท์แบบเปิดเผย ให้ยกระดับสารเคมีทั้ง 3 ชนิด เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 คือ ห้ามนำเข้า จำหน่าย และใช้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันเตรียมดันต่อเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาเห็นชอบโดยเร็ว ทั้งนี้คณะทำงานเพื่อพิจารณาความคิดเห็นของส่วนรัฐ ผู้นำเข้า เกษตรกร และผู้บริโภค ต่อการยกเลิกคลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต “ ที่ รมช.มนัญญา นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน โหวตมติเอกฉันท์แบบเปิดเผย ให้ยกระดับสารเคมีทั้ง 3 ชนิด เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 คือ ห้ามนำเข้า จำหน่าย และใช้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 นี้ ซึ่งจะนำข้อสรุปการประชุมครั้งนี้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในสัปดาห์นี้ ก่อนเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาโดยเร็ว คาดไม่เกิน 27 ตุลาคมนี้
พร้อมระบุกรรมการวัตถุอันตรายที่เป็นสัดส่วนของกระทรวงเกษตรฯ จะมีการโหวตแบบเปิดเผยและยึดมติคณะทำงานชุดนี้ ไม่กังวลคณะกรรมการวัตถุอันตรายเห็นต่าง เพราะเคยระบุไว้ว่า หากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนออย่างไรก็จะเห็นตามนั้น
รมช.มนัญญา.ระบุว่ากรมวิชาการเกษตร ได้เตรียมทางเลือกทดแทน ที่เป็นวิธีธรรมชาติและการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรเพื่อกำจัดศัตรูพืชช่วยเหลือเกษตรแล้ว โดยหากคณะกรรมการวัตถุอันรายมีมติเห็นชอบให้ยกเลิก สต๊อกสารเคมีที่เหลือตามร้านค้าต่างๆ ต้องส่งคืนให้บริษัทเอกชนที่นำเข้า โดยไม่กังวลหากโดนเอกชนฟ้อง และจะไม่ทอดทิ้งข้าราชการที่ทำเพื่อประชาชน