“เรากำลังเข้าสู่จุดเริ่มต้นของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิต แต่พวกคุณกลับพูดถึงแต่เรื่องของเงิน พวกคุณกล้าดีอย่างไร คุณขโมยความฝันและชีวิตวัยเด็กของพวกเราไป”
นี่คือสุนทรพจน์อันทรงพลังของ Greta Thunberg ทั้งหมด ที่งานประชุม UN ที่ New York ตอกหน้าเหล่าผู้นำโลกที่ยังพยายามไม่พอในการแก้ปัญหาโลกร้อน
หนูไม่ควรจะมาอยู่ตรงนี้ หนูควรจะไปเรียนหนังสือที่อีกฟากของมหาสมุทร พวกคุณกล้าดีอย่างไรขโมยความฝันและชีวิตวัยเด็กของพวกเราไป ผู้คนกำลังล้มตาย และโลกของเรากำลังจะพังพินาศ เรากำลังเข้าสู่จุดเริ่มต้นของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิต แต่พวกคุณกลับพูดถึงแต่เรื่องของเงิน นิยายเพ้อฝันการเติบโตของเศรษฐกิจ พวกคุณกล้าดีอย่างไร
เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนแจ่มแจ้ง แต่พวกคุณทำเป็นมองไม่เห็น และบอกพวกเราว่า คุณพยายามเต็มที่แล้ว ทั้งๆที่นโยบายทางการเมืองต่างๆไม่ไปไหน คุณบอกว่าคุณเข้าใจพวกเราและทราบถึงความเร่งด่วน แต่ไม่ว่าหนูจะโกรธและเศร้าขนาดไหน ถ้าคุณเข้าใจถึงสถานการณ์ดีแต่ยังไม่ลงมือเปลี่ยนแปลง คุณก็ไม่ต่างอะไรกับคนชั่วคนนึง
ความคิดที่จะลดการเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งนึง มีโอกาสแค่ 50%เท่านั้นที่จะช่วยให้อุณหภูมิโลกเพิ่มไม่ถึง 1.5C และป้องกันการเสียหายอย่างถาวรของสภาพอากาศ คุณอาจจะคิดว่า 50% นี้มันโอเค แต่อย่าลืมว่ามันอาจจะแย่กว่านี้เพราะเรายังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ คุณทิ้งภาระไว้ให้คนรุ่นของหนูต้องกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์กว่าพันล้านตันที่คุณทิ้งเอาไว้ให้เราทั้งๆที่ตอนนี้แทบจะไม่มีเทคโนโลยีทำสิ่งเหล่านี้ได้เลย
จากข้อมูลของ IPCC intergovernmental Panel on Climate Change โอกาสในการอยู่รอดของพวกเรามี 67% ตามตัวเลขนี้ เราสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่บรรยากาศได้อีกเพียง 420 gigatonnes เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2018 ณ ตอนนี้เหลือแค่ 350 gigatonnes คุณกล้าดีอย่างไรมาบอกว่า ปัญหาขนาดนี้สามารถแก้ไขได้โดยการดำเนินชีวิตแบบปกติ และใช้เทคโนโลยีนิดๆหน่อยๆ ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้ Carbon Budget ที่เรามีเหลืออยู่จะหายไปภายในเวลา 8 ปีครึ่ง
ทุกวันนี้ยังไม่มีทางออกของปัญหา ตัวเลขเหล่านี้น่ากลัวมาก แต่คุณก็ยังไม่โตพอที่จะยอมรับและบอกความจริงกับประชาชน คุณทำให้พวกเราผิดหวัง พวกเราคนรุ่นใหม่จะจับตามองพวกคุณ และถ้าพวกคุณยังล้มเหลวอีก เราจะไม่มีวันให้อภัยพวกคุณ และเราจะไม่ยอมให้พวกคุณรอดตัวไปได้อีก ตอนนี้ทุกคนในโลกจะต้องรู้ความจริง และต้องมีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม
สุนทรพจน์อันทรงพลังของ Greta Thunberg ต่อหน้าผู้นำโลกที่การประชุม UN เมื่อวันที่ 23 กันยายน ตอกย้ำเหล่าผู้นำโลกที่ยังพยายามแก้ไขปัญหาโลกร้อนไม่พอ
รายงานทางวิทยาศาสตร์มากมายบอกว่าหากเรายังปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศอย่างทุกวันนี้ โลกจะอุณหภูมิสูงขึ้นเกิน 1.5 C ภายในเวลาแค่ 10 ปี หรืออาจเร็วกว่านั้น สภาพอากาศจะเสียหายถาวร เกิดความแห้งแล้ง พายุรุนแรง อากาศร้อนเกินอยู่อาศัย น้ำแข็งขั้วโลกละลาย มีหลายเมืองที่จะต้องจมน้ำ หลายคนยังไม่รู้ถึงความน่ากลัวและหายนะของภาวะโลกร้อน วิธีที่เร็วที่สุดคือผู้นำโลกต้องหาทางออกคือการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศและประชาชนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตที่สร้างcarbon footprint เราไม่สามารถใช้ชีวิตตามใจชอบอย่างเดิมได้อีกต่อไปแล้ว หากเราต้องการที่จะอยู่รอด
ข้อมูลอ้างอิง เพจ Too Young to Die ,https://youtu.be/v33ro5lGHQg ,https://www.theguardian.com/commentisfree/2019/sep/23/world-leaders-generation-climate-breakdown-greta-thunberg