เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวเอธิโอเปีย (ทวีปแอฟริกา) เมื่อสามารถสร้างสถิติปลูกต้นไม้ได้มากกว่า 350 ล้านต้น ภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง (เมื่อ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา) จากความสำเร็จในครั้งนี้ ตั้งเป้าหมายต่อ ปลูกต้นไม้อีก 4,000 ล้านต้น ให้ทันก่อนสิ้นหน้าฝน
สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความตระหนัก และความร่วมมือของผู้คนทั่วประเทศที่พร้อมใจกันลุกขึ้นมาปลูกต้นไม้ (ในพื้นที่กว่า 1,000 แห่ง) หลังจากพื้นที่ป่าทั่วประเทศลดเหลือเพียง 4% จาก 35% ภายในเวลาเพียง 100 ปี
โครงการนี้มีชื่อว่า Green Legacy เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายสีเขียวของนายกรัฐมนตรี อาบีย์ อาเหม็ด (Abiy Ahmed) ที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนในประเทศหันมาปลูกต้นไม้และใช้เวลาว่างกับต้นไม้มากขึ้น เพื่อต่อสู้กับปัญหาระดับโลกเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งของประเทศ
การร่วมแรงร่วมใจปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ ยังทำลายสถิติที่อาสาสมัครชาวอินเดีย 800,000 คน ช่วยกันปลูกต้นไม้ทั่วประเทศมากกว่า 50 ล้านต้น เมื่อปี 2016 ได้อีกด้วย
ในช่วงเช้าของวันที่ 29 ก.ค. นายกฯ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 150 ล้านต้น แต่พอครบกำหนด 12 ชั่วโมง กลับทำได้ดีกว่าที่คาดยอดการปลูกต้นไม้เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้อย่างท่วมท้น ชาวเอธิโอเปียปลูกต้นไม้ได้ 353,633,660 ต้น จึงวางเป้าหมายต่อไปของโครงการ คือ การปลูกต้นไม้ 4,000 ล้านต้น ให้ทันก่อนที่หน้าฝนจะหมดลง
ทั้งนี้ เอธิโอเปียเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของแอฟริกา มีประชากรราว 100 ล้านคน เมื่อ 10 ปีก่อนหน้า ประเทศเอธิโอเปีย ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 170 จาก 177 ของประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แต่เมื่อไปดูโฉมหน้าของประเทศ เอธิโอเปียในปัจจุบันมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ประเทศนี้ได้รับสมญานามว่าเป็น China of Africa เพราะการพัฒนาแบบก้าวกระโดด และไร้ซึ่งปัญหาเงินเฟ้อ สงคราม และคอรัปชั่น อย่างที่เคยเป็นมา
สำหรับการต้นไม้ 1 ต้น สามารถผลิตก๊าซออกซิเจน ที่เพียงพอต่อมนุษย์ 2 คน/ปี และยังช่วยดูดซับสารพิษและดักจับฝุ่นหลายชนิดมากกว่า 1.4 กิโลกรัม/ปี
ข้อมูลอ้างอิง https://www.flagfrog.com/ethiopia-plants-trees-in-12-hours/