ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ เมืองที่หนาวที่สุดในโลกอย่าง ยาคุตสค์ (Yakutsk ) ตั้งอยู่ทางตะวันออกของภูมิภาคไซบีเรีย ในรัฐซาฮา ของรัสเซีย อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงจนแทบไม่อยากเชื่อว่าจะร้อนได้ถึง 32 เซลเซียส (89 ฟาเรนไฮต์)
พูดได้ว่าอุณหภูมิสูงพอๆ ประเทศในเขตร้อน อย่างประเทศไทยเลยทีเดียว เป็นอีกสัญญาณเตือนที่บอกว่าภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตมนุษย์ทั่วโลกแล้ว และไม่ใช่เรื่องอยู่ไกลตัวมนุษย์อีกต่อไป
ตลอดช่วงสามเดือนในฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยของเมืองยาคุตสค์ตกอยู่ราว -40 องศาเซลเซียส จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหนาวที่สุดในโลก แน่นอนว่าสถานที่อื่นมีอุณหภูมิที่สุดขั้วรุนแรงกว่า ยกตัวอย่าง หมู่บ้านโอมยาคอนที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองนี้ไป 925 กิโลเมตร ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 500 คน อุณหภูมิหนาวเย็นที่สุดที่เคยวัดได้อยู่ที่ -88 องศาเซลเซียส หรือแม้แต่ในทวีปแอนตาร์กติกาซึ่งในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิประมาณ -76 องศาเซลเซียส แต่ทั้งสองสถานที่ก็ไม่ได้มีสรรพสิ่งเพียบพร้อมในฐานะ “เมือง” เช่นยาคุตสค์
เมืองยาคุตสค์แห่งนี้มีผู้อยู่อาศัยมากถึง 280,000 คน เนื่องจากในฤดูหนาวพื้นดินจะเย็นจนเป็นน้ำแข็ง ดังนั้นอาคารส่วนใหญ่จึงถูกสร้างให้ยกขึ้นสูงอีกชั้นหนึ่งจากพื้นดิน
อย่างไรก็ตามลึกลงไปที่ใต้ผืนดินของเมืองนี้คือขุมสมบัติอันมีค่า ที่แม้แต่อากาศอันหนาวเหน็บก็ไม่ใช่อุปสรรค เมืองแห่งนี้คือสถานที่ตั้งของเหมืองเพชรที่มีการผลิตเพชรคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 5 ของโลก นอกจากนั้นยังผลิตก๊าซธรรมชาติ, น้ำมัน, ทองคำ, เงิน และแร่อื่นๆ อีกมากมาย
คนพื้นเมืองยาคุตสค์ มักจะบอกถึงความหนาวเย็นยะเยือกว่า “นั่งอยู่ในตู้เย็นยังอุ่นกว่า”
แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา อากาศแปรปรวนเป็นอย่างมากคลื่นความร้อน (Heatwave) ที่ปกคลุมทางตอนเหนือของรัสเซีย ส่งผลให้ธารน้ำแข็ง ( Buluus Glacier) บางส่วนละลายกลายเป็นชายหาด (โชคดีที่ glacier จำนวน 1000 hecter ตั้งอยู่บน permafrost ทำให้น้ำแข็งส่วนมากไม่ละลาย )เหตุการณ์ดังกล่าวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม ผู้คนแปลกใจเพราะไม่เคยพบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
ในภาพผู้คนอาจจะดูสนุกสนาน แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะสะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์เรื่องโลกร้อนแย่ลงเร็วมากขนาดไหน คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ IPCC เตือนว่า เรามีเวลาแค่ 10 ปีในการลดอุณหภูมิ ไม่ให้เพิ่มเกิน 1.5 องศาเซนเซียส ( แต่เพิ่มไปแล้ว 1องศาเซนเซียส) ก่อนที่สภาวะอากาศจะเสียหายถาวร งานวิจัยเผยว่าปี 2050 น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำทะเลอาจสูงขึ้น 1.5 ฟุต ส่งผลให้เมืองหลายแห่งต้องจมน้ำ หนึ่งในนั้นมีกรุงเทพมหานครด้วย
มนุษย์จำเป็นต้องช่วยกันเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราเอง โดยการลดอุปโภคบริโภคที่สร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (carbon foot print) ประหยัดพลังงาน , รีไซเคิล , ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และส่งต่อความรู้นี้ไปยังคนจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนยังสามารถทำได้ตอนนี้
ข้อมูลอ้างอิง #TooYoungTooDie #Climatechange #Fridaysforfuture #Climatestrike #globalwarming
https://siberiantimes.com/…/the-worlds-most-unusual-beach-…/
https://ngthai.com/cultures/6973/yakutsk-the-coldest-city/