ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือพันธมิตรภาคตลาดทุน บันเทิง สังคม สร้างจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคธุรกิจและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม เปิดเวทีนำเสนอแนวคิดการแก้ปัญหาสังคม 5 ด้าน ด้วยการจัดงาน “SET Social Impact Day 2019” ภายใต้แนวคิด “Partnership for Impact Co-creation ออกแบบ ทางออก มหาชน” สร้างมิติใหม่และขยายผลการพัฒนาสังคมได้อย่างดี
การเติบโตทางเศรษฐกิจจะไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน หากการเติบโตดังกล่าวอยู่ท่ามกลางปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การผนวกแนวคิดด้านความยั่งยืนในมิติที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เข้าเป็นองค์ประกอบหลักในการดำเนินธุรกิจจึงสำคัญ
ทุกภาคส่วนสามารถสร้างโมเดลที่เป็นนวัตกรรม ด้วยการออกแบบความร่วมมือ ขยายมิติของพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนให้เกิดเป็นรูปธรรมและเติบโตไปพร้อมกัน ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ได้ร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ บริษัท ไลฟ์อีส กรุ๊ป จำกัด โครงการพอแล้วดี พร้อมทั้งองค์กรธุรกิจและภาคสังคม จัดงาน “SET Social Impact Day 2019” ปีที่4 ในวันที่ 17-18กรกฎาคม2562 ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้แนวคิด “Partnership for Impact Co-creation ออกแบบ ทางออก มหาชน”
โดยให้งานดังกล่าวเป็นเวทีสร้างจุดเชื่อมต่อการทำงานระหว่างภาคธุรกิจและภาคสังคมให้เกิดพลังและเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน รวมทั้งออกแบบการทำงานร่วมกันและเดินหน้าแก้ปัญหาสังคมใน 5 ด้าน ได้แก่ การศึกษา (Education) สุขภาพ (Heart&Health) สิ่งแวดล้อม (Environment) กลุ่มเปราะบาง (Vulnerable Group) และวิถีชุมชนและเกษตรยั่งยืน (Agriculture&Community Development) เพื่อสร้างความสมดุลให้เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องในทุกมิติของสังคม การจัดงานในปีนี้จึงขยายผลจากปีก่อนๆ จากเดิมที่สร้าง SET Social Impact Platform ให้ทำหน้าที่เป็น Impact Multiplier เชื่อมตลาดทุนและภาคธุรกิจให้ทำงานร่วมกับภาคสังคมเพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน ขณะที่ปีนี้ได้ขยายบทบาทของแพลทฟอร์มให้มีกลไกเพิ่มพลังตัวคูณการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมใน 2 มิติ คือ ขยายพันธมิตร และขยายพื้นที่
มิติการขยายพันธมิตร ใช้กลยุทธ์ 4 E ได้แก่ Entertainment การขยายพันธมิตรสู่ภาคศิลปินในฐานะผู้มีอิทธิพลและมีบทบาทต่อผู้บริโภค เพื่อผลักดันการบริโภคอย่างยั่งยืน Expert การขยายจำนวนพันธมิตรในตลาดทุนและผู้ทรงคุณวุฒิจิตอาสาที่ร่วมอุทิศความรู้ความสามารถ เพื่อสร้างนักธุรกิจเพื่อสังคมรุ่นใหม่ให้เข้มแข็งและสามารถขับเคลื่อนธุรกิจยุคหน้า Education ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาขยายความรู้และแรงบันดาลใจเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อสังคม และ Exchange Information การขยายความจริงเกี่ยวกับปัญหาสังคมร่วมกับ Media Platform สื่อมวลชนที่นำเสนอเรื่องความยั่งยืน
ส่วนมิติการขยายพื้นที่ เป็นการสร้างตัวคูณการทำงานร่วมกันในท้องถิ่น (Local-to-Local Sustainable Growth) ขับเคลื่อนความยั่งยืนโดยใช้พลังของภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา และภาคสังคมในจังหวัดต่างๆ
งานนี้ถือเป็นรูปธรรมของการเชื่อมความร่วมมือในการออกแบบแก้ไขปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมต่างๆ 3 ส่วน ได้แก่ “Impact Seminar” เป็นการเสวนาอย่างมีส่วนร่วม เพื่อออกแบบโมเดลที่ win-win ด้วยการดึงศักยภาพและไอเดียของผู้ร่วมงานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการเสวนา โดยมี 40 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมีชื่อเสียงทั้งภาคตลาดทุน บันเทิง และสังคม มีเนื้อหาครอบคลุมปัญหา 5 ด้านดังกล่าว พร้อมนำเสนอทางออกให้สังคม
“Impact Gallery” ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคม 60 บูธ นำเสนอนวัตกรรมและวิธีการทางธุรกิจในรูปแบบที่สร้างสรรค์ โดยแบ่งปัญหาและทางออกเป็น 5 มิติ พร้อมเปิดโอกาสในการจับคู่สร้างความร่วมมือ สร้างเครือข่าย และเป็นพื้นที่เจรจากับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหาสังคม ผลักดันให้เกิดการทำงานและร่วมพัฒนาศักยภาพธุรกิจเพื่อสังคมในอนาคต สร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้คนไทย
และ “Impact Market” สินค้าและบริการที่มีคุณค่าและความหมาย ผู้ร่วมงานสามารถร่วมสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคม ผ่านการอุดหนุนสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม และความเข้มแข็งให้กับชุมชน ผู้ด้อยโอกาส ตอบโจทย์การแก้ปัญหาสังคมไทยร่วมกันทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อ
SET Social Impact Day เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ SET Social Impact Platform ที่ตลท,พัฒนาขึ้นต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงภาคธุรกิจและภาคสังคม จากการนำเสนอใน Online Platform สู่การทำงานในรูปแบบ Offline ทั้งเสวนา การสร้างเครือข่าย การเจรจาธุรกิจ และการนำเสนอการทำงานในภาคธุรกิจและภาคสังคม เพื่อเชื่อมต่อและขยายผลการพัฒนาสังคมได้อย่างกว้างขวาง