บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด จับมือ 3 องค์กรพันธมิตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในการร่วมพัฒนาการเกษตรไทยควยคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ผ่านโครงการ “เกษตรปลอดการเผา Zero Burn”
เตรียมพร้อมจัดงานสัมมนาครั้งใหญ่แห่งปี Argi Forum 2019 เวทีระดมความรู้และแนวมางส่งเสริมเกษตรกรไทยทำเกษตรปลอดการเผา
ประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ประเทศไทยมีพื้นที่กการปลูกข้าวปีละประมาณ 70 ล้านไร่ โดยในแต่ละปีจะมีฟางข้าวเหลือทิ้งในนาเฉลี่ย 27 ล้านตัน ตอซังข้าวตกค้างอยู่ในนาประมาณ 18 ล้านตัน ทำให้เกิดปัญหาการเผาจากภาคการเกษตร จนกลายเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมลพิษจากฝุ่นละออง กรมการข้าวจึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
พร้อมทั้งการมีส่วนร่วมในชุมชนโดยมีหน่วย Mobile Unit หน่วยเคลื่อนที่ของกรมการข้าว 52 หน่วย ในการให้ความรู้ความเข้าใจการบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้จากนาหลังการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง การไม่เผาตอซังและฟางข้าว ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ ลดต้นทุนการบำรุงรักษาพืชและดินให้กับเกษตรกร โดยเริ่มดำเนินการนำร่องก่อนในพื้นที่ 6 จังหวัดที่มีการเผาทางการเกษตรสูง ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี, จังหวัดอ่างทอง, จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, จังหวัดสิงห์บุรี, จังหวัดชัยนาท และจังหวัดปทุมธานี
นอกจากนี้ ยังได้มีการต่อยอดความร่วมมือกับ 3 องค์กรพันธมิตรทางการเกษตรร่วมกับสยามคูโบต้า จัดงานสัมมนา Argi Forum 2019 เวทีเสวนาใหญ่ระดับประเทศ เพื่อระดมความรู้และแนวทางพัฒนาส่งเสริมเกษตรกรไทยในโครงการ “เกษตรปลอดการเผา Zero Burn” ภายใต้แนวคิด The World of Unburnt Farm โดยมีวิทยากรจากทุกภาคส่วนมาร่วมถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กระตุ้นให้เกษตรกรไทยร่วมใจทำเกษตรปลอดการเผา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองและร่วมขับเคลื่อนภาคการเกษตรกรให้ยั่งยืน
สำหรับงานสัมมนาจะจัดในวันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2562 ณ ฮอลล์ 5 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 8.30 - 15.00 น. โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงได้แก่ 1. ปฐกถาพิเศษจากผู้แทนภาครัฐด้านนโยบายและโครงการสนับสนุนเกษตรปลอดการเผาเพื่อการเกษตร 2. Showcase Best Practice สัมภาษณ์เกษตรกรต้นแบบในการปลูกข้าวและอ้อยแบบปลอดการเผา และ 3. Panel Discussion เสวนาภายใต้หัวข้อ “Argi Circular Economy” พร้อมชมนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยว เช่น ฟางข้าว ตอซังข้าว ใบอ้อย ใบข้าวโพด จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรผู้เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม และประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมงาน ตระหนักเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการทำเกษตรที่ไม่เผาทำลายวัสดุเหลือใช้หลังการเก็บเกี่ยว