xs
xsm
sm
md
lg

เปลี่ยนพลาสติกให้เป็น “จีวรรีไซเคิล” แนวทางรักษ์โลก-บำรุงศาสนาที่วัดจากแดง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทุกวันนี้ การรณรงค์รีไซเคิล และการลดใช้พลาสติก ดูจะเป็นเรื่องที่คนไทยคุ้นเคย และใส่ใจกันมากขึ้น ทั้งด้วยความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เมื่อเร็วๆ นี้ สังคมออนไลน์ มีการส่งต่อ บอกบุญที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ด้วยการร่วมบริจาคขวดน้ำและพลาสติกที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อนำไปทำจีวร ได้ที่วัดจากแดง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ต้นทางบุญที่ดูแปลกใหม่ต่อชาวพุทธ
พระมหาประนอม ธมฺมาลังฺกาโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดจากแดง เล่าให้ฟังว่า ก่อนเริ่มต้นนั้น เห็นว่าขยะประเภทพลาสติกในวัดมีปริมาณมาก จึงพยายามมองหาช่องทางในการรีไซเคิลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พอได้เห็นตัวอย่างเสื้อรีไซเคิลของญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดจากประเทศไต้หวัน จึงเกิดประกายแนวคิดว่า ในเมื่อเสื้อผ้ารีไซเคิลทำได้มานานแล้ว ทำไมจะทำเป็นจีวรจากการรีไซเคิลพลาสติกไม่ได้
ได้มีโอกาสไปพูดคุยหาแนวทางดังกล่าวกับทาง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด มหาชน ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีใครทำ และหาช่องทางการผลิตจนได้โรงงานที่จะทำการผลิตเส้นใย
‘สำหรับทำเสื้อผ้าหนาได้ แต่จีวรต้องบาง สวมใส่ไม่ร้อนด้วย จึงต้องหาคุณสมบัติผ้าที่จะทำจีวร มันจะยากกว่าเล็กน้อย ด้วยความที่จีวรมีคุณสมบัติเป็นผ้าบาง ต่างจากเสื้อผ้าทั่วไป และจีวรมีสีเดียว มีข้อจำกัดมากกว่าเสื้อผ้าปกติ แต่สุดท้ายก็ได้ทดลองจนทำออกมาได้ด้วยดี ได้สีตามที่ต้องการ’

พระมหาประนอม อธิบายเพิ่มเติมว่า ในการทำจีวรจากการรีไซเคิล ในกระบวนการผลิตเส้นไยนั้น ได้มีการใส่ซิงค์นาโน หรือที่เรียกว่า นาโนซิงค์ออกไซด์ที่มีคุณสมับติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
แน่นอน เมื่อถูกเอ่ยว่าเป็นขยะ หลายๆ คนอาจจะรังเกียจหรือไม่ชอบใจนัก แต่หากไล่เรียงตามข้อพระวินัย ที่บัญญัติในการดำรงสมณสารูปของภิกษุสงฆ์นั้น การนำพลากสติกมารีไซเคิล ก็ตรงกับการที่เก็บผ้าบังสุกุลจีวรมาใช้นั้นเอง ซึ่งพระมหาประนอม บอกว่าในพระไตรปิกฏ ระบุชัดว่าผ้าบังสุกุลจีวรเป็นการเก็บผ้ามาจากกองขยะ นำมาเย็บมาย้อม เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันกับจีวรรีไซเคิล ก็เป็นสิ่งเดียวกันนั้นเอง
ทั้งนี้ จากการทำจีวรรีไซเคิลนี้ ถึงปัจจุบัน ทางวัดสามารถผลิตจีวรจากเส้นไยรีไซเคิลมากถึง 300 ชุดแล้วด้วยกัน โดยกระบวนการในการทำจีรรีไซเคิลนั้น ทางวัดจะทำการอัดพลาสติกทั้งหมด จนได้เป็นก้อนพลาสติก แล้วจึงส่งไปยังโรงงานแปรรูปเพื่อผลิตเป็นเส้นไย แล้วทำเป็นผ้าม้วนมาเรียบร้อย ก่อนจะส่งกลับมาที่วัดอีกครั้ง เพื่อทำการทักถอด้วยเครื่องทอผ้าแบบมือ จนเสร็จสมบูรณ์ทั้งชุด ที่เรียกว่า จีวร 5 ขันธ์ จีวร 9 ขันธ์
ที่สำคัญ เมื่อข่าวการผลิตจีวรรีไซเคิลแพร่หลายออกไปในสังคมโซเชียลและสื่อมวลชน ทำให้ผู้ที่สนใจอยากร่วมทำบุญแบบใหม่ ต่างพร้อมใจ บริจาคขวดน้ำและพลาสติกจำนวนมากให้กับทางวัด ทั้งการใช้บริการขนส่งมาถึงที่ และการใช้รถรับบริจาคของวัดไปรับ
พระมหาประนอม อธิบายว่าในการแยกขวดพลาสติก มีขั้นตอนต่างๆ สำหรับผู้บริจาคขวดพลาสติกก็ขอให้คิดแยกส่วนต่างๆ ออกจากกันมาได้เลย ฉลากขวดเราจะนำไปทำเชื้อเพลิง ตัวขวดน้ำนำไปทำจีวร ส่วนฝาขวดนั้นจะนำไปทำโต๊ะทำเก้าอี้ รวมทั้งพลาสติกอื่นๆ ก็สามารถนำมาบริจาคได้เช่นกัน เพราะทางวัดทำรีไซเคิลพลาสติกได้เกือบทุกชนิด
ในส่วนองค์ความรู้ที่เกิดขึ้น ทำให้วัดจากแดงกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ ในกระบวนการรีไซเคิลชนิดต่างๆ มีหน่วยงานที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานจำนวนมาก ทั้งนักศึกษา รวมถึงภาคเอกชนต่างๆ
และในอนาคตอันใกล้ พระมหาประนอมกำลังเขียนแผนงานขึ้น เพื่อกระจายองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์นี้ ให้กว้างขวางออกไป รวมทั้งเชิญชวนผู้ที่สนใจ ถ้าสามารถมาอบรมได้ ก็ขอเชิญมาที่วัดจากแดง และหากหน่วยงานหรือสถานที่ใด ไม่สะดวกในการมาที่วัด ก็จะนำทีมงานไปอบรมให้ถึงที่ ซึ่งในขณะนี้กำลังดำเนินการในส่วนอุปกรณ์ให้มีขนาดกระทัดรัด เหมาะแก่การเคลื่อนย้ายไปอบรมนอกสถานที่
“ในกองขยะนั้น มีทั้งขยะพลาสติก และขยะอินทรีย์ คือ เสษอาหาร เศษผัก วัดก็มีการอบรมการทำปุ๋ยอินทรีย์ให้ สามารถนำมาบดทำปุ๋ยทำแก๊สได้ ทางวัดก็อยากให้เห็นว่า ของทุกอย่าง สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ พลาสติกทุกอย่างใช้แล้วไม่ต้องทิ้งเลย ทำความสะอาด ผึ่งให้แห้งเก็บไว้ ถ้าคัดแยกเป็นก็คัดแยกเลย ถ้ายังไม่เป็นก็เก็บรวมๆ เอาไว้ ถึงเวลาสามารถมาให้สอนคัดแยกให้ หรือจะนำไปขายเองก็ได้ จะนำมาทำบุญก็ได้ ถือเป็นการทำบุญทำกุศล โดยไม่ต้องควักเงินแม้แต่บาทเดียว จะให้ซาเล้งก็ได้ ถือว่าเป็นการให้ทาน พลาสติกต่างๆเก็บสะสมไว้ เดือนหนึ่งก็มาถวายครั้งหนึ่ง วัดก็จะสอนคัดแยกให้ ก็จะได้รู้ว่าถ้าเอาไปขายได้เท่าไหร่ ถ้าทำจีวรใช้ขวดน้ำกี่ใบ ถ้าเรารู้ตรงนี้ ขยะพลาสติกทุกชนิดไม่ต้องทิ้งเลย แทนที่จะหาเงินมาทำบุญ เอาขยะนี่ล่ะ มาทำความสะอาดมาทำบุญได้ จึงอยากรณรงค์ว่าพลาสติกทุกชนิด ถ้าไม่ใช่ชนิดติดเชื้อ อย่าทิ้ง นำมาใช้ประโยชน์ได้” พระมหาประนอม กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลอ้างอิง https://www.thaiquote.org/content/222150


กำลังโหลดความคิดเห็น