ประชาชนในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองหลัก มักใช้ชีวิตดำเนินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ตารางงานที่แน่นขนัดแต่ละวัน แถมยังต้องเสียเวลากับสภาพการจราจรบนท้องถนนนานๆ พอมีการเข้ามาเติมเต็มของบริการ Food Delivery หรือ การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน ก็ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันให้ง่ายและสะดวกสบายขึ้น
แต่ทุกคนอาจมองข้ามปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นตามมาด้วย จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเราเองในที่สุด นั่นคือ “กองขยะพลาสติกจำนวนมหาศาล” ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
บริการสั่งและส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันในประเทศไทยนับวันยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะสั่งผ่าน Grab Food, GET!, Line Man และ Food Panda เป็นต้น ด้วยโมเดลการทำรายได้คือการคิดค่าส่งตามระยะทาง ไปจนถึงการบวกค่าอาหารจากราคาหน้าร้าน บางเจ้าทำโปรโมชันดึงดูดลูกค้าด้วยการเหมาค่าส่งเป็นเรทเดียวในราคาที่ย่อมเยา หรือให้คูปองและส่วนลดพิเศษบ่อยๆ
บริการส่งอาหารถึงที่ผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวเติบโตอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดขยะพลาสติกเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างน่ากลัว ในขณะที่ไม่มีนโยบายจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ตั้งแต่ต้นปี จนถึงเดือนเมษายน 2019 เฉพาะราย Grab Food ทำสถิติส่งอาหารให้ลูกค้าแล้วมากกว่า 4 ล้านครั้ง โดยคาดการณ์ว่ายอดการสั่งอาหารจะเพิ่มสูงขึ้นไปแตะ 20 ล้านครั้งภายในปีนี้ นับเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านครั้งในปีที่แล้วชนิดก้าวกระโดด ซึ่งทางบริษัทก็วางแผนที่จะขยายการให้บริการส่งอาหารจากเดิมที่ซึ่งให้บริการเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น ไปครอบคลุมพัทยา หาดใหญ่ และนครราชสีมา
จากการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน 1 ครั้ง สำหรับ 1 เมนู ทำให้เกิดการใช้ขยะพลาสติกมากกว่า 5 ชิ้นขึ้นไป เช่น เมนูข้าวมันไก่ 1 กล่อง ประกอบไปด้วย กล่องข้าว ช้อมพลาสติก ส้อมพลาสติก ถุงใส่ช้อมส้อม ถุงน้ำจิ้ม ถุงน้ำซุป ถุงพลาสติกใหญ่สำหรับใส่อาหารทั้งหมด ในขณะที่การสั่งเครื่องดื่ม อาจทำให้เกิดขยะที่มากกว่าแก้วพลาสติก 1 ใบ เนื่องจากการสั่งกลับบ้านจะต้องแยกน้ำแข็งใส่แก้วพลาสติกอีกใบ ฝาครอบแก้ว หลอด และถุงพลาสติกเพื่อใช้ในการหิ้ว
ทั้งนี้ การบรรจุอาหารให้เมสเซนเจอร์ไปส่งลูกค้าขึ้นอยู่กับการออกแบบและการตัดสินใจของร้านอาหาร เนื่องจากลูกค้าหันมาสั่งอาหารวิธีนี้มากขึ้น ทำให้รายได้ของร้านอาหารบางร้านขึ้นอยู่กับยอดการสั่งออนไลน์ ดังนั้นร้านอาหารจำนวนมากจึงเลือกที่จะใช้หีบห่อพลาสติกหลายชั้นเพื่อให้แน่นหนาที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจในกรณีที่อาหารหก รั่ว หรือซึม
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคเกิดความตื่นตัวเรื่องปริมาณขยะพลาสติกที่เกิดจากการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันกันมากขึ้น อย่างกรณีของร้านชานมไข่มุก Fire Tiger ที่แพ็กชานมไข่มุกแยกชิ้นออกมาเป็นพลาสติกถึง 8 ชิ้น ก็ทำให้เกิดกระแสการต่อว่าต่อขาน จนทางร้านออกมาแถลงการณ์ว่าจะคิดหามาตรการแก้ไข และหันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยการเปลี่ยนแก้วพลาสติกเดิมมาเป็นแก้วแบบย่อยสลายได้ 100%
ปัจจุบัน ในบ้านเราเริ่มรับรู้เรื่องการช่วยกันลดจำนวนขยะพลาสติกเพิ่มสูงขึ้นกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา หลายหน่วยงาน เช่น 7-11 ที่ครั้งหนึ่งเคยขึ้นชื่อเรื่องการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้งในปริมาณมหาศาล เช่น ถุงพลาสติก หรือ หลอด ก็หันมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างจริงจัง ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อย่างเครือเซ็นทรัล หรือเทสโก้ โลตัส ซึ่งใช้นโยบายส่วนลดเป็นแรงจูงใจให้ลูกค้าไม่รับถุงก็เริ่มออกนโยบายที่ชัดเจนและเข้มงวดมากขึ้น
แต่ดูเหมือนว่าปัญหาของขยะพลาสติกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องจากการมาถึงของแอปพลิเคชันสั่งอาหารจะยังไม่ได้รับการพูดถึงเท่าที่ควร นี่ยังไม่นับรวมถึงการชอปปิ้งออนไลน์ของสินค้าในประเภทอื่นๆ ที่มาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกจำนวนมาก
ควรแก้ไขอย่างไรดี?
ในยุคที่ผู้ใช้งานค้นพบว่าเทคโนโลยีการสั่งอาหารสามารถอำนวยความสะดวกได้เพิ่มขึ้นมาก การจะไปบอกให้ผู้บริโภคลดใช้บริการก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ดี ปริมาณขยะพลาสติกจาก Food Delivery สามารถลดลงได้จาก 2 ทาง คือ บริษัทผู้ผลิตแอป และด้านผู้บริโภค โดยการทำให้ขยะที่ผลิตออกมานั้นสามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐด้วย
อีกหนทางเพื่อลดขยะพลาสติกที่ต้นทาง เพียงผู้ผลิตแอปเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะรับพลาสติกอะไรบ้าง แม้จะดูเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่อันที่จริงก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้
ถึงตอนนี้บางร้านค้าในแอปพลิเคชันสั่งอาหาร เริ่มมีตัวเลือกนี้ใส่เข้าไปพร้อมออเดอร์อาหารได้แล้ว แต่ยังเกิดข้อผิดพลาดบ้าง เช่น ลูกค้าใส่ตัวเลือกไม่รับช้อนส้อมพลาสติกไปแล้ว แต่ทางร้านอาหารก็มีเผลอหยิบยัดใส่เข้ามาให้อยู่ดี อย่างไรก็ตาม การให้ตัวเลือกไม่รับช้อนส้อมพลาสติกหรือพลาสติกชิ้นอื่นๆ ควรเป็นตัวเลือกของทุกร้านที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
เครดิตข้อมูลอ้างอิง https://vantage.in.th/2019/05/food-delivery-generates-plastic-waste/?fbclid=IwAR2sNM4J7DUU5WIRO7hJ5ZTGDRe0bem-D_h_zvsh5_7PPVE1FRXJl_-CZic