แต่ละวันโลกใบนี้สร้างขยะขวดพลาสติกมหาศาล เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนมากซื้อมาดื่มเพียงครั้งเดียวก็ทิ้งเป็นขยะ ซึ่งไม่ต่างไปจากการใช้หลอดพลาสติก ถุงหิ้วก๊อบแก๊บ ซึ่งเป็นพลาสติกที่เรามักใช้ครั้งเดียวก็ทิ้ง (Single-Use Plastic) ทำให้เกิดขยะบนบกและทะเลเพิ่มพูนมากขึ้นทุกวัน
สองทางออกเพื่อใช้แก้ไขปัญหาขยะที่ต้นทางและปลายทาง ซึ่งหลายคนทราบกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่นำมาใช้อย่างจริงจังนัก
1. ตั้งตู้กดน้ำดื่มสาธารณะ (เพื่อขจัดขวดต้นทาง) ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของเอกชน (จ่ายเงิน) หรือของรัฐ (ฟรี) หลายประเทศเพิ่มจุดกดน้ำเพื่อให้ผู้คนลดสร้างขยะขวดพลาสติก ในเมืองไทยหลายคนพกขวดน้ำของตัวเอง แต่ดันหาที่กดน้ำยากเหลือเกิน โดยเฉพาะที่กดน้ำสาธารณะในไทยก็มีนะแต่กลับไม่เป็นที่นิยม เพราะยังไม่เชื่อมั่นในความสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ
2. ตู้คืนขวดแลกเงิน หรือแลกค่าโดยสาร เป็นต้น (เพื่อขจัดขวดปลายทาง) หลายประเทศเริ่มมีที่คืนขวดแลกเงิน รางวัล หรือค่าโดยสารเพื่อจูงใจให้คนหันมารีไซเคิลขยะ และทิ้งให้ถูกที่ ตัวอย่างเช่น เยอรมนี ไต้หวัน ญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย ตุรกี เดนมาร์ก เป็นต้น ส่วนประเทศไทยของเราก็เริ่มมีให้เห็นบางสถานีบริการน้ำมัน อย่างบางปั๊ม ปตท.
อย่างไรก็ตาม การสร้างตู้กดน้ำดื่มจนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการจำหน่ายน้ำดื่มจากขวดแน่นอน แต่ถ้าไม่ทำปัญหาขยะขวดพลาสติกก็คงจบสิ้นยาก
ก่อนจะก้าวไปถึงจุดนั้น ผู้บริโภคในบ้านเรายังไม่ตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมกันมากนัก เนื่องจากปัญหาทิ้งขยะขวดพลาสติก และขยะอื่นๆ ก็ยังทิ้งกันไม่ลงถัง ส่วนสถานที่ใดจัดให้มีถังแยกทิ้งขยะ คงไม่ต้องบอกว่า “ส่วนใหญ่ยังทิ้งกันอย่างสับสนอลหม่าน สรุปว่าต้องไปคัดแยกขยะกันใหม่อยู่ดี”