งานจัดระหว่างวันที่ 30 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2562 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตร สมาคมสถาปนิกสยามฯ และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ผู้จัดงานนำเสนอแนวคิด “กรีน อยู่ ดี : Living Green” หวังดันสถาปนิกและธุรกิจก่อสร้าง ใช้แนวคิดการออกแบบอย่างยั่งยืนฝ่าวิกฤติสิ่งแวดล้อม เผยไทยเป็นผู้นำการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมสีเขียวแห่งอาเซียน
อัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “งานสถาปนิกในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 33 เพื่อแสดงถึงศักยภาพ และนำเสนอผลงานความก้าวหน้าทางสถาปัตยกรรม สร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทวิชาชีพสถาปนิกที่มีต่อสังคม ผ่านนิทรรศการและกิจกรรมมากมายของสมาคมฯ ที่จัดมาอย่างต่อเนื่องกว่าสามทศวรรษ โดยในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมงานกว่า 4 แสนคน
การจัดงานในแต่ละปี ทางสมาคมฯ ได้กำหนดแนวคิด (concept) ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อต้องการให้สะท้อนถึงกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกในขณะนั้น ซึ่งแนวคิดในการจัดงานปีนี้คือ “กรีน อยู่ ดี : Living Green” นำเสนอการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการออกแบบเพื่อวิถีชีวิตที่ยั่งยืน
ด้าน ดร.อัจฉราวรรณ จุฑารัตน์ ประธานจัดงานสถาปนิก ’62 กล่าวเสริมว่า “ปัญหาความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ภาวะโลกร้อน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของคนทุกคนบนโลก เป็นปัญหาสำคัญที่คนในทุกสาขาอาชีพต้องให้ความสำคัญร่วมหาทางออกอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาชีพสถาปนิก ที่การทำงานส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เมืองและชุมชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่ออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ วิธีการก่อสร้าง ฯลฯ
“กรีน อยู่ ดี : Living Green” จึงเป็นการนำเสนอแนวคิดการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมและงานออกแบบที่ยั่งยืน นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผนวกกับเทคโนโลยี เพื่อสร้างโซลูชั่นที่เหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน ผ่านการจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการและกิจกรรมให้ความรู้มากมาย
“นับเป็นครั้งแรกของงานสถาปนิกที่จะสร้าง “ประสบการณ์สีเขียว” (Green Experience) ให้กับผู้ชม ด้วยแนวคิดการออกแบบเพื่อความยั่งยืนในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในการก่อสร้างนิทรรศการต่างๆการออกแบบแสงภายในพื้นที่การจัดแสดงที่เหมาะสมเพื่อลดการใช้พลังงาน แนวคิดการลดขั้นตอนการใช้กระดาษในการทำงานระหว่างผู้จัดงานและผู้แสดงงาน ระบบการจัดการกับขยะที่เกิดขึ้นภายในงาน และการนำวัสดุที่เกิดขึ้นจากการจัดงานไปใช้ใหม่หลังจบงาน”ดร.อัจฉราวรรณ กล่าวในที่สุด
ด้านการใช้พื้นที่จัดแสดงงานกว่า 60,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือส่วนผู้แสดงสินค้า ที่รวมแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 850 ราย และ ส่วนพื้นที่กิจกรรมของสมาคมสถาปนิกฯ ซึ่งประกอบไปด้วย นิทรรศการธีมงาน (Thematic Exhibitions) และพื้นที่กิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น
นิทรรศการ “Green Building Showcase” แนวคิดการออกแบบอาคารสีเขียวจากนักออกแบบชั้นนำของเอเชีย นิทรรศการ “ภูมิปัญญาจาก 3 ภูมิภาคสู่ปัจจุบัน” นำเสนอนวัตกรรมท้องถิ่นที่อาจเป็นคำตอบของการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนในอนาคต นิทรรศการ “Go Zero Waste ชีวิตใหม่ ไร้ขยะ” นิทรรศการ “Innovative Green Products” รวมวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นิทรรศการกิจกรรมประกวดงานออกแบบระดับนานาชาติ ASA International Design Competition 2019 เวทีสำคัญสำหรับสถาปนิกรุ่นใหม่ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 280,000 บาท โจทย์การออกแบบของปีนี้คือ Uncanny Sustainability ค้นหาไอเดียการสร้างสรรค์งานออกแบบที่ยั่งยืนและแตกต่างจากรูปแบบเดิมๆ งานนี้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจทั่วไปจากทั่วโลกร่วมส่งผลงาน ไม่ได้จำกัดแค่สถาปนิกเท่านั้น
นอกจากนี้ภายในงานยังจัดกิจกรรมสันทนาการที่ให้ความเพลิดเพลินสำหรับประชาชนทั่วไป เวิร์กช็อปให้ความรู้ภาคปฏิบัติ, เวทีกลาง พื้นที่สาธารณะสำหรับพักผ่อน ให้ผู้ชมงานได้สนุกสนานกับการแสดง และกิจกรรมน่าสนใจที่หมุนเวียนไปตลอดการจัดงาน, “หมอบ้านอาษา” ที่ตอบปัญหาสารพัดเรื่องบ้านและการออกแบบให้แก่ประชาชนทั่วไป
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ “ASA Forum 2019” งานสัมมนาสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ ฟังทอล์กดีๆ จากบริษัทสถาปนิกชั้นนำทั้งในไทยและทั่วโลก โดยปีนี้มีสถาปนิกและนักออกแบบที่มีชื่อเสียงมาร่วมบรรยายบนเวทีอย่างคับคั่ง อาทิ Atelier Ten สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอาคารชั้นสูงจากนิวยอร์ก, สถาปนิกจากบริษัท Foster + Partners, Eco Architect, S/T/U/do เป็นต้น
การจัดงานสถาปนิก’62 ครั้งนี้ ผู้จัดงานผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) สถานเอกอัครราชทูตออสเตรีย สถาบันอาคารเขียวไทย และองค์กรเอกชนที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดยั่งยืนอีกหลายราย เป็นการจัดงานแสดงด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในภูมิภาค คาดว่าจะดึงดูดผู้ชมมากกว่าปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าร้อยละ 25