xs
xsm
sm
md
lg

“ชอปช่วยชาติ” ได้ลดภาษี ซื้ออะไรคุ้มค่าที่สุด / ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง หอสมุดแห่งชาติ หน่วยงานส่งเสริมการอ่าน และบรรดาสำนักพิมพ์ชั้นนำและร้านหนังสืออิสระ อาทิ ก็องดิด/ เคล็ดไทย ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์/ ดำรงค์ พิณคุณ/ นานมีบุ๊คส์/ บัณฑิตแนะแนว/ บ้านพระอาทิตย์/ บีทูเอส (B2S)/ เบเกอรี่บุ๊ค/ ประพันธ์สาสน์/ แปลน ฟอร์ คิดส์/ พาส เอ็ดดูเคชั่น/ มติชน/ ยิปซี/ ลายเส้น/ วิริยะธุรกิจ/ ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย/ ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์/ สกายบุ๊กส์/ ห้องเรียน/ อมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์/ อุ๊คบี/ เอเซียบุ๊คส์ รวมพลังในงานแถลงข่าว ช้อปหนังสือช่วยชาตื เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 กันอย่างคับคั่ง และต่างให้ความเห็นตรงกันว่า มาตรการครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของนโยบายจากภาครัฐที่จะสนับสนุนวงการหนังสือในระยะยาว ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้วงการหนังสือกลับมาคึกคักขึ้นอีกด้วย
(จากซ้าย) นางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร (ที่ปรึกษาอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม) นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร (ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม) นางสุชาดา สหัสกุล (นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย) คุณทนง โชติสรยุทธ์ (กรรมการบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)) และคุณธนะชัย สันติชัยกูล (ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย) ถ่ายภาพร่วมกันบริเวณหน้างานแถลงข่าวกับม็อกอัพถุงช้อปปิ้งยักษ์
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 กระทรวงวัฒนธรรมเข้าร่วมการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ “ของขวัญปีใหม่ นำความเป็นไทยสู่ใจประชาชน” ณ บริเวณหน้าตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี (จากซ้าย)  เลขานุการกรม (นายอิสระ ริ้วตระกูลไพบูลย์) เลขานุการรัฐมนตร (นายปรารพ เหล่าวานิช) อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (นายชาย นครชัย) นายกรัฐมนตรี (นายประยุทธ์ จันทร์โอชา) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายวีระ โรจน์พจนรัตน์) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม (นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร)
ขณะนี้ใกล้เทศกาลต้อนรับปีใหม่ ถ้าจะใช้โอกาสได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากรายการโปรโมชัน “ชอปช่วยชาติ” วงเงิน 15,000 บาท ซื้อสินค้าที่กำหนด มีคำถามว่าจะซื้ออะไรคุ้มสุด

ขอแนะนำเต็มที่เลยครับว่าให้ “ซื้อหนังสือ” จะใส่กระเช้าของขวัญหรือห่อด้วยกระดาษสวยๆ มอบแก่คนที่รักและนับถือ หรือซื้อเพื่อตัวเองก็ยังได้ เป็นการสนับสนุนโครงการมอบหนังสือเป็นของขวัญ (Book for Gift)

ธุรกิจหนังสือมีรายการให้เลือกซื้อตามร้านหนังสือหรือสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต มีบริการจัดหมวดหมู่ให้เลือกได้ตามความนิยมชมชอบ ทั้งประเภทความรู้ (เช่น การจัดการธุรกิจ ดูแลสุขภาพ ดูแลต้นไม้ ดอกไม้ ฯลฯ) ความบันเทิงเริงรมย์ (เช่น นวนิยาย การท่องเที่ยว) พัฒนาความคิดและจิตใจ (เช่น ปรัชญา ศาสนา วัฒนธรรม)

หนังสือจึงเป็นของขวัญของฝากที่มีมูลค่า แม้ว่ายุคนี้สามารถอ่านได้จากรุปแบบ E-book ก็ตาม แต่คนจำนวนไม่น้อยรวมทั้งผมเองก็ยังชอบจับต้องรูปเล่มหนังสือที่หยิบเปิดอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา

ตอนนี้ร้านหนังสือต่างๆ พากันจัดรายการ จัดชุดหนังสือของขวัญและให้ส่วนลดต้อนรับบรรยากาศปีใหม่กันทั่วหน้า เมื่อนำใบเสร็จที่มียอดซื้อหนังสือไปลดหย่อนภาษีได้อีก ก็เป็นการรับโปรโมชัน 2 ชั้น

ดังนั้น หากบริษัทหรือองค์กรของรัฐและหน่วยราชการ จะสนับสนุนจัดซื้อหนังสือเป็นของขวัญแก่ผู้เกี่ยวข้อง หรือซื้อ​ไปบริจาคห้องสมุด​ หรือองค์กรสาธารณะกุศล​เช่น​ มูลนิธิกระจกเงา​ มูลนิธิ​เด็ก​ เป็นต้น ก็จะเป็นการดี 2 ชั้นเช่นกัน

ยิ่งเมื่อคำนึงถึงหลักการสำคัญของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ที่ระบุว่า ….

“การเตรียมพร้อมด้านกำลังคนและการเสริมสร้างศักยภาพของประชากรในทุกช่วงวัย มุ่งเน้นการยกย่องระดับคุณภาพทุนมนุษย์ของประเทศ หล่อหลอมให้คนไทยเป็นคนดี มีสุขภาวะที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัยและมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมส่วนรวม สามารถพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยและทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ได้”

การอ่านเป็นพื้นฐานสำคัญเบื้องต้นที่จะนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าวได้ ด้วยการหล่อหลอมความใฝ่รู้ตั้งแต่วัยเด็กจนเติบโต ความงดงามของรูปแบบวรรณศิลป์และเนื้อหาที่เสริมสร้างความรู้และสติปัญญา จะช่วยหล่อหลอมความเป็นคนดีและเก่งได้
Asia Books ขานรับมาตรการช้อปช่วยชาติ ลดภาษีสูงสุดได้ถึง 15,000 บาท พร้อมจัดโปรโมชั่น Very Gift: Time for Giving เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท รับสิทธิ์จับคูปองส่วนลดสูงสุดถึง 300 บาท!! รวมถึงส่วนลดต่างๆ อีกมากมาย ติดตามโปรโมชั่นสุดพิเศษเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ค AsiaBooks
ผู้ร่วมงานแถลงข่าว ช้อปหนังสือช่วยชาติ ขณะร่วมเฟรมกับน้องอินทร์ หนอนน้อยดุ๊กดิ๊ก มาสคอตประจำสำนักพิมพ์อมรินทร์ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา
หากยอมรับและตระหนักรู้กันว่า รัฐจำเป็นต้องสร้างเสริมยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรไทยตั้งแต่ “จากครรภ์มารดา จนถึงเชิงตะกอน” ดังที่ อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เคยเขียนไว้ในบทความอมตะของท่าน

การส่งเสริมการอ่านและความรอบรู้ ก็เป็นกลยุทธ์ที่รัฐต้องมีนโยบายและมาตรการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันส่งเสริม ตั้งแต่ระดับบุคคล ครอบครัว องค์กรเอกชน องค์กรรัฐและผู้บริหารภาครัฐทุกระดับ

ธุรกิจการผลิตและจำหน่ายหนังสืออาจถูกมองว่า “เป็นเพียงธุรกิจประเภทหนึ่ง” การคิดเช่นนี้ก็อาจ “ไม่ผิด” แต่ “ไม่ใช่” สินค้าธรรมดาทั่วไป เพราะหนังสือเป็นผลิตภัณฑ์สื่อประเภทหนึ่งที่รัฐต้องมีนโยบายสร้างกลไกและมาตรการที่เอื้อต่อการเป็น “สื่อสร้างสรรค์” การเรียนรู้และสร้างค่านิยมที่ดี จนมีผลต่อพฤติกรรมที่ใฝ่ดีและใฝ่พัฒนา

หวังว่า “การปฏิรูปการศึกษา” ยุครัฐบาลใหม่จะเป็นความหวังที่เป็นจริงที่จะมีการส่งเสริมการงานและการสร้างวัฒนธรรมการอ่านที่ใส่เข้าไปในระบบการเรียนและการประเมินผลของหลักสูตรตั้งแต่ระดับเด็กเล็กจนถึงขั้นมหาวิทยาลัย
สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จัดกระเช้าหนังสือมอบแด่นายกรัฐมนตรี นายประยุทธ์ จันทร์โอชา
ข้อคิด...

มาตรการของรัฐบาลในการ “ส่งเสริมการอ่าน” โดยผ่านกลยุทธ์กระตุ้นเศรษฐกิจ “ชอปช่วยชาติ” งวดส่งท้ายปี 2561 ที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้จนถึง 15 มกราคม 2562 ผมอยากจะเรียกว่า “นโยบายการคลังเพื่อการส่งเสริมคุณภาพคนไทย”

ขณะที่รัฐบาลนี้กำหนดวิสัยทัศน์เชิงนโยบายThailand 4.0 ที่จะขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมเพื่อให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพและก้าวทันยุคดิจิทัล

แต่การจะเกิด “ประเทศไทย 4.0” ได้นั้น จะต้องสร้างให้มี “คนไทย 4.0” ที่เป็นพลังสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่พร้อมเป็น “โอกาส” ไม่ใช่เป็น “อุปสรรค”

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย จึงได้รับลูกรณรงค์ให้ “อ่านสร้างชาติ” เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและโชคดีที่รัฐบาลนี้สนใจ

การที่รัฐบาลอนุมัติมาตรการนี้จึงเป็นความฉลาดที่สนับสนุนโครงการที่มีคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพราะภาษีที่ลดหย่อนไปแก่ผู้ซื้อหนังสือ ก็จะได้ภาษีธุรกิจเข้ารัฐบาลมากกว่าภาษีที่ลดหย่อนไป เพราะห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain)

นักเขียน นักแปล นักออกแบบ นักวาดภาพประกอบและธุรกิจการพิมพ์ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การส่งเสริมการอ่าน” เป็นการสร้างเสริมความคิด ความรอบรู้ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

หวังว่าจะมีมาตรการภาษีเพื่อพัฒนาสังคม ในการสร้างคุณภาพคนอย่างต่อเนื่องและส่งเสริม “การอ่าน การใฝ่เรียนรู้” สั่งสมกลายเป็นวัฒนธรรมอยู่ในคุณสมบัติของคนไทย

suwatmgr@gmail.com