ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมการอำนวยการ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานพิธีเปิดค่ายกิจกรรมเพื่อเยาวชนสืบสานปณิธาน ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ค่าย “ป๋วย เรนเจอร์ จูเนียร์”ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษา 4- 6 โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพ จำนวน 50 คน
ค่ายกิจกรรม “ป๋วย เรนเจอร์ จูเนียร์” เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้รู้จักธรรมชาติ เรียนรู้วิธีดำรงชีพในชนบทอย่างปลอดภัย ได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตชนบท และเกษตรกรรมพื้นฐาน อันเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตการอยู่ร่วมกัน และการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อสร้างและปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ กล้าคิด กล้าทำความดี เพื่อประเทศชาติต่อไป อันเป็นปณิธานของดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
ค่ายกิจกรรมฯ ประกอบด้วย ฐานการเรียนรู้แต่ละเรื่องให้เด็กได้ลงมือปฎิบัติเองทุกเรื่อง ทั้งเป็นกลุ่ม และทำคนเดียว ให้เด็กได้สรุปบทเรียนที่ตนได้เรียนรู้ทุกวัน และให้เด็กได้ฟังเรื่องราวการทำดีของผู้ใหญ่ในอดีต เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในการสืบสานต่อไปในอนาคต โดยกิจกรรมในค่ายออกแบบสำหรับเยาวชนระดับประถม ปีที่ 4- 6 ที่กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ และเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง มีความกล้าคิด กล้าลองเด็กๆจะใช้เวลาในค่าย 3 วัน เพื่อเรียนรู้ชีวิต และได้รับความสนุกสนานจากฐานกิจกรรมธรรมชาติต่างๆ ภายในศูนย์การเรียนรู้ชุมชนป๋วย อึ๊งภากรณ์ อาทิ ฐานทักษะชีวิต ฐานความสูงเปลี่ยนชีวิต ฐานสะพานเชือกข้ามน้ำ รักข้ามคลอง ฐานถ้ำสมบัติ ไปจนถึงการลงมือปลูกข้าว ดำนา เก็บผัก ก่อนลงมือปรุงอาหารเอง ในฐานพ่อครัวจูเนียร์ นอกจากนี้เด็กนักเรียนจะได้ออกไปทัศนศึกษานอกศูนย์การเรียนรู้ฯเพื่อสัมผัสธรรมสวยงามของ จ.ชัยนาท อาทิ สวนนก เขื่อนเจ้าพระยา เป็นต้น
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ค่ายป๋วย เรนเจอร์ จูเนียร์ ริเริ่มขึ้นเพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์และองค์ความรู้สิ่งรอบตัวให้แก่เยาวชนไทยรุ่นใหม่ โดยรุ่นแรกได้คัดเลือกเด็กนักเรียนระดับประถมวัย 9-11 ปีที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น กล้าคิด กล้าลอง เข้ารับการอบรมครั้งละไม่เกิน 50 คน ระยะเวลา 3 วัน 2 คืนให้ทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้ ทำกิจกรรมต่างๆ และแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ สำหรับโรงเรียนแรกที่ตอบรับคำเชิญส่งเด็กนักเรียนเข้าร่วมค่ายดังกล่าว คือ โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพ ที่ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เรียนจบมา และได้รับเชิญให้กลับไปสอนหนังสือให้แก่เด็กๆ นอกจากนี้ อัตชีวประวัติของดร.ป๋วยยังได้รับการบรรจุในบทเรียนของนักเรียนโรงเรียนนี้อีกด้วย
ด.ช.ธนบดี อัศวสืบสกุล หรือ“โฟกัส” นักเรียนชั้นป.6 โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ หนึ่งในนักเรียนที่มีโอกาสเข้าค่ายป๋วยเรนเจอร์ จูเนียร์ ครั้งแรก กล่าวว่า ตัดสินใจมาเพราะอยากสัมผัสชีวิตชนบท และกิจกรรมสนุกๆ ที่ได้ทำทำให้ได้รู้จักวิถีชุมชนมากขึ้นนอกจากที่เคยเรียนมา คิดว่าชนบทไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด และชาวชนบทมีความอดทน และตั้งใจจริง และได้เรียนรู้ชีวิตอาจารย์ป๋วย
ด.ช.จักรภัทร จิระวันชัยกูล หรือ “ปลาวาฬ” นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ บอกถึงความประทับใจว่า อีกอยากมาค่ายนี้ เพราะอยากฝึกความเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี กิจกรรมในค่ายสอนให้เรารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ส่วนกิจกรรมที่ประทับใจที่สุด คือการดำนาปลูกข้าว ตอนแรกคิดว่าคงทำไม่ได้ แต่เมื่อได้ลองทำดู รู้สึกว่าไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจของเรา
ด.ช. ณัฐ แม้นหิรัญ หรือ “บิว” ชั้นป.6 โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ รองหัวหน้าวงดุริยางค์ของโรงเรียน บอกว่า มาค่ายเพราะอยากมาเรียนรู้การดูแลและการฝึกน้องๆ วงดุริยางค์ทั้งรุ่นปัจจุบันจำนวน 30-40 คน และน้องรุ่นใหม่ๆ ที่เข้ามา เพื่อให้น้องๆ มีระเบียบวินัย และประทับใจฐานดำนามากที่สุด เพราะอยากรู้ว่าการทำนาจะยากขนาดไหน ชาวนาต้องลำบากแค่ไหนกว่าจะได้ข้าวมาแต่ละเม็ด
นอกจากฐานกิจกรรมการให้เด็กๆ ได้สัมผัสชีวิตชนบทในรูปแบบต่างๆ ทั้งการให้อาหารสัตว์เลี้ยง ปลูกผัก และดำนา ยังมีฐานกิจกรรมต่างๆ ที่ภายในศูนย์การเรียนรู้ได้นำมาจัดสรรไว้ภายในศูนย์ฯ ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเข้าใจวิถีชุมชนชนบทมากขึ้น
สำหรับค่ายต้นแบบในปี 2561 เกิดขึ้นได้จากการสนับสนุนของเอกชน 7 ราย ได้แก่ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซ่า จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท โงวฮก จำกัด บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท น้ำตาลนครเพชร จำกัด เพื่อจัดกิจกรรมให้เด็กๆ จำนวน7 ค่ายกิจกรรม โดยโรงเรียนถัดไป ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล โรงเรียนกุหลาบวิทยา โรงเรียนวัดอ้ออีเขียว จ.ราชบุรี โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง และโรงเรียนสุขานารี เป็นต้น
ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2510 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นผู้นำในการก่อตั้งร่วมกับคณะบุคคลในภาคราชการ และเอกชน ด้วยความมุ่งมั่นที่บูรณะและพัฒนาให้ประชาชนในชนบทไทยมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ศูนย์การเรียนรู้ฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 33 ไร่ บนถนนฝ่ายน้ำล้น ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จังหวัดชัยนาท มีเรือนพักอำนวยความสะดวก รองรับผู้เข้าอบรมสัมมนาประมาณ 122 คนต่อครั้ง มีห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่รวม 3 ห้อง เป็นแหล่งเผยแพร่แนวคิดและวิธีปฎิบัติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ และองค์ความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ ภายในประกอบด้วยอาคารต่างๆ เพื่อรองรับการฝึกอบรม และกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงฐานกิจกรรม แปลงสาธิต และเกษตรอินทรีย์