xs
xsm
sm
md
lg

คำสั่งยกเลิก “พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต" ภายใน 1 ปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เพจ BIOTHAI (มูลนิธิชีววิถี) โพสต์ว่า เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.61) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่าที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลในประเด็นผลกระทบของ 3 สารเคมี คือ "พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต"
โดยที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าสารเคมีดังกล่าวมีอันตรายต่อประชาชน เห็นควรให้ยกเลิกการใช้ภายใน 1 ปี โดยในระหว่างนี้ต้องมีมาตรการควบคุมและจำกัดการใช้ ตลอดจนหาวิธีอื่นในการกำจัดศัตรูพืชทดแทน ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำแผนดำเนินการเสนอกลับใน 30 วัน ก่อนมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้งหลังช่วงปีใหม่
มติของผู้ตรวจการแผ่นดินมีผลผูกพันหน่วยงานของรัฐต้องดำเนินการตามข้อเสนอ และหากไม่ดำเนินการผู้ตรวจการจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี นั่นหมายถึงมตินี้จะกดดันให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย มิใช่เพียงแค่กรมวิชาการเกษตรเท่านั้น
ในเฟซบุ๊ค ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ซึ่งได้เข้าร่วมประชุมด้วยได้โพสต์รายละเอียดบรรยากาศการประชุมว่า
"วันนี้น่าจะเป็นวันที่คนไทยมีความสุขที่สุด จากการประชุมที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน วันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 โดยมีท่านพลเอกวิทวัส รัชตะนันท์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นประธาน มีผู้เข้าร่วมประชุมทางฝ่ายสาธารณสุข ปกป้องสุขภาพคนไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา องค์กรอิสระและตัวแทนคุ้มครองผู้บริโภค และฝ่ายที่ต้องการใช้สารเคมีพิษต่อ"
"ท่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้สรุปดังต่อไปนี้ คือ
ประการที่หนึ่ง ขอให้กระทรวงเกษตรนำไปพิจารณายกเลิกพาราควอต คลอไพรีฟอส ไกลโฟเสท ภายในหนึ่งปี
ประการที่สอง ภายในกำหนดหนึ่งปีนี้ขอให้กระทรวงเกษตรกำหนดมาตรการจำกัดการใช้ และเผยแพร่พิษภัยอันตรายต่อเกษตรกรทั้งนี้เกษตรกรในพื้นทีต้องสามารถรับรู้ได้ว่ามีพิษภัยอะไรบ้างภายในสามเดือน
ประการที่สาม กระทรวงเกษตรต้องหามาตรการในการกำจัดวัชพืช แมลง แทนสารพิษดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรต้องส่งรายงานไปยังสำนักงานพูดตรวจการแผ่นดินภายใน 30 วัน และจะมีการประชุมติดตามในเร็วที่สุด
"โดยท่านผู้ตรวจการแผ่นดินได้กล่าวย้ำหลายครั้งประเทศไทยของเราไม่ใช่ประเทศด้อยพัฒนา"
โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่ได้กำหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่และอํานาจ

1) เสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคําสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดๆ บรรดาที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม แก่ประชาชน หรือเป็นภาระแก่ประชาชนโดยไม่จําเป็นหรือเกินสมควรแก่เหตุ
2) แสวงหาข้อเท็จจริงเมื่อเห็นว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจาก การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอํานาจตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ขจัดหรือระงับความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมนั้น
3) เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงการที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน ตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ
ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ดําเนินการตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินตาม 1) หรือ 2) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบเพื่อพิจารณาสั่งการ ตามที่เห็นสมควรต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น