“เหล็กก่อสร้างสยาม” ในเครือ“ทาทา สตีล” ชูความพร้อมความปลอดภัยโรงงาน ขานรับมาตรการแก้วิกฤตโรงงานจากหน่วยงานรัฐ ย้ำเหตุระเบิดโรงงานนิคมมาบตาพุดปลอดสารเคมีรั่วไหล ไร้ผู้บาดเจ็บรุนแรง เหตุการณ์วิกฤตเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เตรียมเชิญหน่วยงานรัฐสื่อมวลชน และชุมชนโดยรอบเข้าตรวจสอบความพร้อม เพื่อเรียกความมั่นใจของคนในชุมชนกลับมาอีกครั้ง
นายพรชัย ตั้งวรกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เหล็กก่อสร้างสยาม จำกัด หนึ่งในบริษัทผลิตเหล็กในเครือ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทได้เร่งแก้ปัญหาวิกฤต”เตาหลอมเหล็กระเบิด”เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเรียกความมั่นใจของชุมชนโดยรอบ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยปฏิบัติตามมาตรการแก้ไขตามมาตรฐานโรงงานอย่างเคร่งครัด
โรงงานได้ปฏิบัติตามมาตรการของการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดในการจัดการเหตุการณ์ในภาวะฉุกเฉินแล้ว อันได้แก่ การระงับยับยั้งและควบคุมเหตุการณ์ผิดปกติ หรือภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างเต็มกำลังความสามารถ การหยุดกิจกรรมกระบวนการผลิตบริเวณเตาหลอมไฟฟ้า ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กลับมาดำเนินการผลิตได้อีกครั้ง การปรับปรุงระบบแจ้งเหตุและรายงานสถานการณ์ ไปยังศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมภายคุณภาพภายในเวลาที่กำหนด การจัดตั้งทีมสอบวิเคราะห์สาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจัดทำมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ โดยได้รับการรับรองรายงานดังกล่าวจากหน่วยงานที่ให้การรับรองความปลอดภัย (Third Party) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจัดทำกำหนดการซักซ้อมมาตรการแก้ไขภาวะฉุกเฉินและควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเป็นแนวทางการจัดการในอนาคต
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายทางทรัพย์สิน เช่น หลังคา ผนังอาคารโรงงานในส่วนการผลิตเหล็กแท่งบางส่วน และสิ่งสำคัญคือส่งผลด้านร่างกาย มีพนักงานโรงงานได้รับบาดเจ็บ 4 คน โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุดโดยการเร่งนำส่งโรงพยาบาลเอกชนของจังหวัดระยอง ปัจจุบันผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน มีอาการปลอดภัย สามารถกลับบ้านได้แล้ว ส่วนอีก 1 คนอยู่ในระยะพักฟื้นจากแผลไฟไหม้และการบาดเจ็บที่แขนอยู่ที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ พนักงานที่ได้รับบาดเจ็บได้รับสิทธิการลาป่วยโดยได้รับค่าจ้างตามปกติ และบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด นอกจากนี้ ยังได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกที่ให้การรับรองด้านมาตรฐานความปลอดภัยแล้วว่าไม่พบสารเคมีรั่วไหล อันจะส่งกระทบต่อชุมชน อย่างไรก็ตาม บริษัทรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความกังวลใจต่อชุมชน และคาดหวังให้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบทเรียนสำคัญในการป้องกันและพัฒนาการดำเนินงานในอนาคต
ลำดับต่อไป บริษัทเตรียมเรียนเชิญหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบการปฏิบัติการแก้ไขและป้องกันของโรงงาน ตามมาตรฐานที่สอดคล้องกับการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และมาตรฐานโรงงานในระดับสากล เพื่อตอกย้ำจุดยืนการเป็นโรงงานที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อชุมชน