แม็คโคร ตอกย้ำห้างใหญ่ “ทำไม! ไม่กล้างดแจกถุงหูหิ้ว”

ขณะที่ กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างชงเรื่องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หนุนให้ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต เก็บค่าถุงพลาสติกใบละ 1-2 บาทจากลูกค้า หวังลดปริมาณขยะพลาสติกในประเทศให้ได้ผลจริง
เมื่อย้อนกลับไปมองนโยบายลดใช้ถุงพลาสติกของศูนย์การค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่อย่าง “แม็คโคร” ที่มีนโยบายชัดเจนในเรื่องการไม่ให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้ามาเป็นเวลานานเกือบ 3 ทศวรรษ จึงเป็นห้างค้าส่งรายแรกในประเทศไทยที่แสดงจุดยืน “ไม่มีถุงพลาสติกให้ลูกค้า”

ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 29 ปีที่ผ่านมา แม็คโครตั้งมั่นอยู่บนพันธกิจในการเป็น “คู่คิดธุรกิจคุณ” โดยดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนเป็นที่ทราบกันดีสำหรับลูกค้าว่า แม็คโครเป็นห้างค้าส่งที่จำหน่ายสินค้าแบบยกลัง หรือเป็นแพ็คขนาดใหญ่ และไม่มีบริการถุงพลาสติก แม้กระทั่งในระยะหลังที่จำหน่ายปลีกมากขึ้นก็ตาม เราก็ไม่มีบริการถุงพลาสติกแต่อย่างใด ซึ่งเราต้องขอขอบคุณลูกค้าที่เข้าใจและให้การสนับสนุนในมาตรการนี้เสมอมา มาวันนี้ที่มีการรณรงค์ลดพลาสติกกันมาก เราจึงมีความภูมิใจที่แม็คโคร และลูกค้าสมาชิกผู้ประกอบการของเราทุกคน ได้มีส่วนช่วยในการลดขยะพลาสติกให้แก่โลก โดยการไม่ใช้ถุงพลาสติกถึงเดือนละประมาณ 16.5 ล้านใบ หรือ 198 ล้านใบต่อปี”
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและส่งเสริมให้กับผู้ประกอบการใส่ใจสิ่งแวดล้อม แม็คโครได้คัดสรรสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ซึ่งผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติ เช่น ชานอ้อย เยื่อไผ่ เยื่อไม้บริสุทธิ์ ปลอดภัยไร้สารพิษ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในหลากหลายรูปแบบกว่า 60 รายการ อาทิ จาน ชาม ถ้วย แก้ว กล่อง ฯลฯ ที่เหมาะต่อการใช้งานของผู้ประกอบการ ด้วยการทำโปรโมชั่นราคาพิเศษ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มพื้นที่จำหน่ายสินค้าภาชนะและบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบย่อยสลายได้ เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น
ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม แม็คโครขอเชิญชวนประชาชนคนไทยทุกคน มาช่วยกันลดใช้ถุงพลาสติกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง หากจำเป็นควรเปลี่ยนเป็นถุง หรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบย่อยสลายได้ เพราะปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทุกคนในชุมชนต้องร่วมกันป้องกันและแก้ไข สร้างความตระหนักรู้และปลูกจิตสำนึกให้คนไทยหันมาใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มาก ถ้าเราทุกคนยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภค และการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบและยั่งยืน เราคงไม่สามารถที่จะกู้วิกฤติขยะพลาสติกให้กับประเทศไทยและสังคมโลกโดยรวมได้
สำหรับบางแผนกที่มีการใช้ถุงพลาสติกอยู่บ้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น แผนกอาหารสด แม็คโครก็ได้นำมาตรการต่างๆ มาใช้ เพื่อลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก เช่น การเปลี่ยนชนิดถุงพลาสติก เพื่อลดปัญหาถุงฉีกขาดและการซ้อนถุง ที่ทำให้ลดจำนวนการใช้ถุงพลาสติกลงได้ถึงประมาณ 30%

ใครยังไม่ทราบถึงบรรยากาศการจับจ่ายสินค้าในห้างแม็คโคร ขอบอกว่าลูกค้าสมาชิกผู้ประกอบการที่ซื้อแพ็กขนาดใหญ่ ยกกล่อง ยกลัง เขาก็จะยกสินค้าใส่รถเข็นแล้วนำมาถ่ายใส่รถของลูกค้าเลย จึงไม่ต้องใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วเหมือนลูกค้าขายปลีก อย่างไรก็ตาม ส่วนค้าปลีกทั้งของสดของแห้ง เครื่องใช้ส่วนตัว เครื่องใช้ภายในบ้าน ทางห้างก็ไม่มีถุงหูหิ้วใส่ให้ลูกค้าฟรีๆ เหมือนกับห้างอื่น ถ้าอยากจะใส่ก็ต้องซื้อถุงผ้าที่มีแขวนจำหน่ายอยู่ใกล้ๆ แคชเชียร์ ส่วนใครไม่อยากเสียเงินค่าถุงผ้าก็จะต้องพกเตรียมไปด้วย หรือไม่ก็ต้องหอบหิ้วสินค้าออกไปแบบไม่มีถุงหูหิ้ว

คลังหนุน ทส.เคาะห้างค้าปลีก เก็บค่าถุง
สำหรับแนวทางที่กระทรวงการคลังได้เสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณานั้น ได้มีการเสนอให้ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีกรายใหญ่ เรียกเก็บเงินการขอใช้ถุงพลาสติกจากลูกค้าใบละ 1-2 บาท ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ที่ลูกค้าจะต้องเสียเงินซื้อถุงพลาสติกเพิ่มหากต้องการใช้ไว้ใส่ของที่ซื้อ โดยมาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการกระตุ้นให้ประชาชนลดใช้ถุงพลาสติก ด้วยการเตรียมตะกร้า กระเป๋า หรือถุงผ้า ก่อนไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าแทน โดยหากมีการใช้จริงจะสามารถลดปริมาณขยะพลาสติกในประเทศได้มาก เพราะปริมาณถุงพลาสติกที่ใช้จากห้าง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีกรายใหญ่ถือมีสัดส่วนการใช้พลาสติกมากของประเทศ
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ยังต้องรอการพิจารณากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ขณะเดียวกันอาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดการทำธุรกิจของตัวเอง เนื่องจากปกติคนไทยจะเคยชินกับการได้ใช้ถุงพลาสติกฟรี แต่หากมีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจเลือกไปซื้อสินค้าในร้านค้าอื่นที่ให้ถุงพลาสติกฟรีแทนได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องรถกระทรวงทรัพยากรฯ พิจารณาอีกครั้ง
ถึงวันนี้ ขยะพลาสติก คงไม่ได้เป็นแค่วาระแห่งชาติสำหรับประเทศไทยเท่านั้น แต่กลายเป็นวาระแห่งโลกเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะประเทศไทย ถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ ทั้งปัญหาขยะล้นเมือง ทำให้เกิดเป็นประเด็นร้อนของสังคมที่กระตุ้นให้ประชาชนคนไทยทุกคนหันมาให้ความสนใจและรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกเพื่อลดปัญหาขยะพลาสติกกันอย่างจริงจังมากขึ้น
แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีความพยายามที่จะกระตุ้นให้ประชาชนลดใช้ถุงพลาสติกมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี โดยเฉพาะในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ต่างๆ ที่มีลูกค้ามาจับจ่ายสินค้านับสิบล้านคนในแต่ละวัน ต่างก็ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อผลักดันการลดใช้ถุงพลาสติกด้วยแคมเปญต่างๆ มากมาย เพียงแต่ว่ายังคงได้รับการตอบสนองจากลูกค้าในระดับหนึ่งเท่านั้น