xs
xsm
sm
md
lg

ศึกษาคุณค่า “คนไทยออยล์” บนวิถียั่งยืนสู่องค์กร 100 ปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


  • ขึ้นแท่นองค์กรที่ยั่งยืนต่อเนื่องหลายปี ทั้งเวทีมาตรฐานโลก (DJSI) และระดับประเทศ (ESG100) แถมอีกหลายรางวัลความเป็นเลิศ

  • หัวใจสำคัญคือ “ทรัพยากรบุคคล” จึงมีระบบสร้างเสริม “มืออาชีพ” และ “ทีมเวิร์ก” ให้ได้ใจและได้งานคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ

  • ต่อยอดความสำเร็จจากค่านิยมหลัก 8 หัวข้อ ที่รวมอักษรตัวแรกได้คำว่า “POSITIVE” ปีนี้เน้น 4 หัวข้อได้อักษรนำคือ ITOP เติมเต็มคุณลักษณะ “คนเก่งและดี”


 

ความสำเร็จในทางธุรกิจหากมองในมิติเก่าก็สามารถดูได้จากผลประกอบการ คือมุ่งสนองความต้องการของผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของเป็นสำคัญ แต่มุมมองของกระแสโลกยุคใหม่จะมุ่งสร้างคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อันได้แก่ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน (โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน) พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ชุมชนและสังคม

ดังนั้น หลักคิดและแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการด้วยหลักความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR (Corporate Social Responsibility) โดยเฉพาะการมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กำกับด้วยหลักธรรมาภิบาลจึงเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะได้รับการสนับสนุนจากสังคม ช่วยลดความเสี่ยงจากการกระทำผิดกฎหมาย หรือถูกต่อต้านจากสังคม
คุณภาพที่ผ่านการพิสูจน์

ผลลัพธ์การประกอบการของ บมจ.ไทยออยล์ที่ได้รับการยกย่อง ด้านความยั่งยืนจากระดับโลกและระดับประเทศ จึงเป็นการยืนยันคุณภาพองค์กรได้ดี

การผ่านเกณฑ์มาตรฐานโลกได้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนของ Dow Jones Sustainability Indices ปี 2560 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และด้วยคะแนนประเมินสูงสุดเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

“นี่เป็นเสมือนรางวัลแห่งความสำเร็จ และเป็นความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคน” อธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวยืนยันถึงทิศทางการบริหารที่เน้นสร้างคุณค่าที่สมดุล 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักธรรมาภิบาล
อธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
โลกชื่นชอบที่ให้ความสำคัญเรื่องคน

ผู้ประเมินระบบ DJSI ระบุว่าจุดเด่นที่ยอมรับผลความยั่งยืนของไทยออยล์ประการหนึ่งก็คือ “บริษัทยังคงสามารถรักษามาตรฐานความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในระดับสูงได้ ด้วยความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนและผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัท”

“โดยเฉพาะได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการดูแลแรงงาน ได้ส่งผลให้บริษัทสามารถรักษาความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนไว้ได้ และยังเพิ่มความผูกพันกับชุมชนได้เป็นอย่างดีในระหว่างที่มีการดำเนินโครงการโดยการขยายงานในส่วนต่างๆ และดูแลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและกำหนดมาตรการป้องกันที่เหมาะสม”

ปัจจัยความสำเร็จอยู่ที่คน

บทสรุปดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิดของอธิคม ผู้บริหารสูงสุดที่กล่าวว่า “บริษัทดำเนินมาถึงปีที่ 57 ไทยออยล์เติบใหญ่จนขึ้นมาเป็นระดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ได้ข้อสรุปว่า “พนักงาน” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเจริญก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้ ด้วยการยึดถือค่านิยมหลัก 8 หัวข้อ ซึ่งรวมอักษรตัวแรกได้คำว่า POSITIVE ซึ่งหมายถึง 1. Professionalism ทำงานอย่างมืออาชีพ 2.Ownership and Commitment มีความรัก ผูกพันและเป็นเจ้าขององค์กร 3.Social Responsibility ความรับผิดชอบต่อสังคม 4.Integrity ความซื่อสัตย์และยึดมั่นในความถูกต้องเป็นธรรม 5.Teamwork and Collaboration ความร่วมมือทำงานเป็นทีม 6.Initiative ความริเริ่มสร้างสรรค์ 7.Vision Focus การมุ่งมั่นในวิสัยทัศน์ และ 8.Excellence Striving การมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ

ค่านิยม Top เสริมแกร่ง

เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา มีการเน้น 3 หัวข้อจากค่านิยมหลัก (Core Value) เป็นอักษร 3 ตัว คือ TOP ซึ่งมาจาก

T-Teamwork and Collaboration การปฏิบัติงานร่วมกันอย่างน่ายกย่องให้เกียรติกันเหมือนเป็นพี่น้อง “เราไม่ต้องการฮีโร่ เราต้องการ Teamwork ทำงานร่วมกันเป็นทีม”

O- Ownership and Commitment มุ่งมั่นในงานที่ทำ ถือประโยชน์ขององค์กรเป็นสำคัญ “ให้ตัดสินใจและทุ่มเทเสมือนว่าเราเป็นเจ้าของกิจการ ไม่ใช่คิดแบบลูกจ้าง”

P- Professionalism ทำงานอย่างมืออาชีพด้วยความมั่นใจว่าทุกอย่างทำได้ “ค่านิยมนี้เป็นเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อผลักดันการทำงานให้ธุรกิจของบริษัทประสบความสำเร็จ”

ด้วยความตระหนักดีว่าการเติบโตอย่างยั่งยืน ความเก่งของคนเดียวไม่พอ แต่ต้องควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานด้วยความดี ซื่อตรง โปร่งใสและถูกต้องชัดเจน ซึ่งพนักงานได้ร่วมมือกันสร้างผลงานจนบริษัทฯ เป็นที่ยอมรับได้

เติมเต็ม เก่ง+ดี

แต่ในปี 2561 ไทยออยล์มีเป้าหมายต่อยอดความสำเร็จเพื่อความยั่งยืนอย่างมั่นคงไปสู่องค์กร 100 ปีในอนาคต ดังนั้น กลยุทธ์การส่งเสริมค่านิยมหลักสำหรับปีนี้จึงเน้นเพิ่มอีก 1 ตัวอักษร คือ I-Integrity เพิ่มจาก 3 ตัวอักษรปีที่แล้วเติมเต็มให้เป็นคนเก่งและดี คือ ITOP ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมส่งให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนอย่างยืนยาว 100 ปี

“อักษร I นอกจากสื่อถึง Integrity คือ ความซื่อสัตย์และความถูกต้อง เป็นธรรมแล้ว ยังแฝงนัยถึง I คือตัวเราทุกคน ที่เป็นกลไกสำคัญขององค์กร การนำ I และ TOP มาผนวกกันเป็น ITOP ผมเชื่อว่าจะเป็นพลังสำคัญที่จะมาเสริมและเติมเต็มทุกศักยภาพในตัวพนักงานทุกคน ให้เราเป็นคนเก่งและคนดีที่ซื่อตรง จริงใจ โปร่งใส ชัดเจน ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเอง และจะส่งผลให้องค์กรของเราเติบโตและมุ่งสู่ความเป็นที่สุดของบริษัทชั้นนำอย่างยั่งยืน” ซีอีโอไทยออยล์กล่าวย้ำถึงการมองเห็น “คุณค่าของพนักงาน”

จุดยืนไทยออยล์

เพื่อความชัดเจน บมจ.ไทยออยล์ได้ให้ความหมายไว้ดังนี้ “ความยั่งยืนของกลุ่มไทยออยล์ คือ การเติบโตอย่างยั่งยืนและคงอยู่ในระยะยาว โดยการดำเนินงานที่เป็นเลิศ ตลอดจนให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้มีส่วนได้เสีย”

เป้าหมายและการดำเนินการ ได้ประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืนในมิติของ “คน” หรือ “ทรัพยากรมนุษย์” ไว้ในรายงานความยั่งยืนเล่มล่าสุดประจำปี 2560 ว่า มุ่งหมายในการยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันด้านบุคลากรทั้งในเชิงปริมาณ (Capacity) และคุณภาพ (Capability) เพื่อสนับสนุนขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และเป็นองค์กรต้นแบบในการปฏิบัติด้านแรงงานที่เป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล

ปัจจุบันมีการดำเนินการใน 3 ส่วน คือ

1. โครงการพัฒนาระบบการบริหารสายอาชีพสําหรับบุคลากร ในสายงานธุรกิจใหม่มีแผนการพัฒนาสายอาชีพแบบข้ามสายงานเพื่อรองรับการบริหารงานตามแผนธุรกิจในอนาคต ที่มุ่งเน้นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทางธุรกิจที่หลากหลาย และพัฒนาคุณลักษณะบุคลากรที่ตอบสนองต่อธุรกิจในอนาคต (Future People 4.0)

2. โครงการปลุกพลังและยกระดับศักยภาพบุคลากรผ่านผู้นํา (Mindful Leadership)

3. ตรวจสอบการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน

สำหรับแผนการดําเนินงานที่จะต้องบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ระยะ 3-5 ปี มี 5 เรื่อง ได้แก่ หนึ่ง - ยกระดับกลยุทธ์การสรรหาบุคลากรเชิงรุก เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคลากรคุณภาพสูง สอง - พัฒนาสมรรถนะบุคลากรพร้อมรับแผนการขยายธุรกิจในยุดดิจิทัล ด้วยกลยุทธ์การพัฒนา ‘คนสายพันธุ์ใหม่ (People 4.0) สาม - ดําเนินโครงการ Gen 2 Gen Knowledge Management เพื่อรักษาองค์ความรู้ที่สําคัญไว้กับองค์กรอย่างยั่งยืน โดยจัดให้มีระบบการถ่ายทอดองค์ความรู้จากบุคลากรที่มีประสบการณ์ทํางานสูงสู่บุคลากรรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง สี่ - ดําเนินโครงการ Leader Drive Culture เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรและยกระดับความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร และ ห้า - เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการตรวจประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนให้ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน

สร้างคน-รักษาคน

การเตรียมกำลังคนไทยออยล์ใช้การสร้างพันธมิตรภายนอกทั้งความร่วมมือระหว่างกลุ่มไทยออยล์กับสถาบันการศึกษากลุ่มเป้าหมายที่กําลังศึกษาอยู่ทั้งในระดับปริญญาตรีและสายวิชาชีพผ่านกิจกรรม เช่น Campus Road Show และ Talent Camp ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ และให้นักศึกษาสร้างเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้นการศึกษา รวมถึงแนะแนวการเตรียมตัวเพื่อให้มีความพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน

ส่วนประเด็นการรักษาคนที่มีศักยภาพไว้กับองค์กรก็ได้พิจารณาค่าตอบแทนและสวัสดิการ ให้สามารถแข่งขันกับกลุ่มอุตสาหกรรมใกล้เคียงและบริษัทชั้นนำในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี

สําหรับปีที่ผ่านมา ได้มีการดําเนินการปรับค่าตอบแทนและสวัสดิการให้กับพนักงาน ได้แก่ การปรับเพิ่มเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรพนักงาน และสนับสนุนเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายการศึกษานอกเวลาทำงานปกติของพนักงาน เพื่อยกระดับวิทยฐานะที่มีส่วนช่วยส่งเสริมในลักษณะงานของพนักงาน

กลยุทธ์สร้างความผูกพัน

ผลสํารวจความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 89 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 83 ขณะที่ผลสํารวจความพึงพอใจของพนักงานต่อองค์กรอยู่ที่ร้อยละ 92 ซึ่งกลุ่มบริษัทไทยออยล์ได้ดําเนินการวิเคราะห์และแจ้งผลการสํารวจข้างต้นให้กับทุกฝ่าย ทุกสายงานได้รับทราบ พร้อมกับมีการจัดทําแผนปรับปรุงและยกระดับความผูกพันจนส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์ยังรักษาระดับคะแนนความผูกพันและความพึงพอใจของพนักงานต่อองค์กรให้อยู่ในบริษัทชั้นนําของธุรกิจนํ้ามันและก๊าซได้

พัฒนาคนต่อเนื่อง

กลุ่มไทยออยล์ยังให้ความสําคัญในการพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาหัวหน้างานให้เห็นความสําคัญของการกําหนดแผนการพัฒนารายบุคคล (IDP setting) เน้นพัฒนาสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับแต่ละบุคคล ตามหลัก 70-20-10 รวมถึงแผนดังกล่าวจะต้องมีจํานวนที่พอเหมาะเพื่อการพัฒนาพนักงานให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งจะเห็นว่าการวางแผนพัฒนารายบุคคลของพนักงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 89 เป็นร้อยละ 97 ในปี 2560

การกําหนดแผนพัฒนารายบุคคลดังกล่าว โดยมีการติดตามและรายงานผลความคืบหน้าการพัฒนาพนักงานให้หัวหน้าทราบโดยตรง เพื่อให้หัวหน้างานตระหนักและพัฒนาพนักงานให้ตรงตามแผนและเวลาที่กําหนดไว้ ส่งผลให้พนักงานของกลุ่มไทยออยล์มีการพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถที่เพียงพอต่อการทํางานร้อยละ 85 เมื่อเทียบกับแผนที่กําหนดไว้ (IDP progress)

เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากระบวนการพัฒนากลุ่มผู้นำสามารถเสริมสร้างทักษะความรู้และความสามารถของผู้นําได้สอดคล้องกับเป้าหมายการดําเนินธุรกิจ จึงได้กําหนดดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพผู้นํา (Leadership Capital Index: LCI) ในการพิจารณาความพร้อมของผู้นําจาก 3 มิติหลัก ประกอบด้วย การกําหนดตําแหน่งงานใหม่ที่รองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต และความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career path) ของตําแหน่งนั้นๆ ในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Dynamic Career Management
ปัจจุบันไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน และมีแผนจะขยายการผลิตเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน

ไทยออยล์คว้า 2 รางวัล “ซีอีโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” และ “นักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย”

ภัทรลดา สง่าแสง (ขวา) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่-ด้านการเงินและบัญชี บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนรับรางวัลซีอีโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย หรือ Asia’s Best CEO (Investor Relations) ที่มอบให้กับคุณอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) จาก Mr. Aldrin Monsod (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการและผู้จัดพิมพ์นิตยสาร Corporate Governance Asia ในงาน 8th Asian Excellence Awards 2018 พิธีดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมเจ ดับบลิว แมริออท ประเทศฮ่องกง เมื่อเร็วๆ นี้

รางวัลนี้พิจารณาจากผู้นำองค์กรที่มีความสามารถในการนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียขององค์กรอย่างเท่าเทียม

ขณะเดียวกัน ยังได้รางวัลสาขานักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย หรือ Best Investor Relations by Company นับเป็นปีที่ 5 ที่ไทยออยล์ได้รับรางวัลดังกล่าว เนื่องจากความโดดเด่นในการยึดมั่นมาตรฐานสูงสุดของการเปิดเผยข้อมูล ความโปร่งใสและเป็นธรรม นอกเหนือจากการรายงานที่เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นแบบอย่างขององค์กรในภาคพื้นเอเชียที่มีความเป็นเลิศด้านการสื่อสารข้อมูลไปยังนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น