ทีเอ็มบี แนะนำเว็บไซต์ “ปันบุญ” www.punboon.org ซึ่งรวบรวมหลากหลายองค์กรสาธารณกุศลและโครงการเพื่อสังคมทั่วประเทศจบครบในที่เดียว
เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน เพิ่มช่องทางการรับบริจาคขององค์กรสาธารณกุศล อีกทั้งอำนวยความสะดวกและง่ายแก่ผู้บริจาคในการขอหักลดหย่อนภาษีตามโครงการ e-Donation เชื่อมต่อการใช้ชีวิตออนไลน์ ก้าวสู่สังคมไร้เงินสด โดยองค์กรสาธารณกุศลที่สนใจเข้าร่วมเว็บไซต์ปันบุญ ติดต่อได้ที่ TMB Corporate Call Center 0-2643-7000 สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ที่ www.punboon.org
เสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่า “ภายใต้ปรัชญา Make THE Difference ทีเอ็มบีมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการที่มากกว่า จึงได้ต่อยอดระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Donation ของภาครัฐ ด้วยการสร้างเครือข่ายองค์กรสาธารณกุศลและโครงการเพื่อสังคมในประเทศเข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน www.punboon.org เป็นศูนย์รวมองค์กรสาธารณกุศลที่จบครบในที่เดียว ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้บริจาคได้มากขึ้น และยังช่วยสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์กรให้เป็นที่รู้จักในขอบข่ายที่กว้างขึ้น
เว็บไซต์ปันบุญ ได้เชื่อมต่อองค์กรสาธารณกุศลเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการจะบริจาค อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้องค์กรสาธารณกุศลนำเสนอข้อมูลผ่านเว็บไซต์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนในการบริหารเงินสดขององค์กร ลดขั้นตอนการออกใบเสร็จ รักษาฐานผู้บริจาค พร้อมขยายสู่ผู้บริจาครายใหม่ มีความโปร่งใสและตรวจสอบง่าย นอกจากนี้ ยังช่วยส่งต่อบุญ ด้วยการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประสงค์จะบริจาคที่ไม่มีเวลาหรือไม่สะดวก สามารถบริจาคเงินผ่านโมบายล์ แบงก์กิ้ง ด้วยการสแกน QR Code เลือกชำระเงินผ่านการหักบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต / เดบิต หรือ Rabbit LINE Pay พร้อมสร้างความมั่นใจส่งเงินตรงถึงองค์กรผู้รับบริจาค อีกทั้ง ยังอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริจาคในการลดหย่อนภาษี เนื่องจากข้อมูลผู้บริจาคจะได้รับการบันทึกและส่งตรง ไปยังกรมสรรพากรแบบอัตโนมัติ”
องค์กรที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งบนเว็บไซต์ปันบุญได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ โดย จันทิรา สมบุญเกิด ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาทุนและการสื่อสาร มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า “ในสังคมยุคดิจิทัล มูลนิธิอย่างเราต้องปรับตัวเข้าหาผู้บริจาคที่มีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป เว็บไซต์ปันบุญ จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงผู้บริจาครุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น ทีเอ็มบี ทำให้เราเห็นว่า เขาตั้งใจที่จะทำจริงๆ เขาช่วยแก้ปัญหา ช่วยในทุกๆ ส่วนที่เราต้องการ และต้องการสร้างให้ “ปันบุญ” เป็นเครือข่ายองค์กรการกุศลที่ครบวงจรและทำได้จริงค่ะ”
สุดาวัลย์ คมธรรม ผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่เข้าร่วมเว็บไซต์ปันบุญอีกหนึ่งองค์กร เผยว่า “เราเห็นถึงความมีประสิทธิภาพของการบริหารจัดการเรื่องธุรกรรมการเงินที่โครงการออกฯ แบบไว้ ซึ่งมีรายงานข้อมูล ผู้บริจาคให้ดูได้แบบรายวันที่ครบถ้วนและตรวจสอบง่าย อีกทั้งลดปริมาณการใช้กระดาษและลดขั้นตอน การทำงานที่ซ้ำซ้อนเสียเวลา”
ในขณะที่ผู้บริหารองค์กรสาธารณกุศล ที่ร่วมงานปันบุญ เวิร์คช้อป ได้แสดงความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจ อย่าง ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ เผยว่า “เป็นเรื่องที่ดี ที่มีธนาคารหรือองค์กรให้ความสำคัญและเข้ามาช่วยเหลือในการที่จะช่วยระดมคนในสังคมให้เข้ามาช่วยเหลือมูลนิธิฯ ด้วยโครงการต่างๆ เช่น โครงการปันบุญ ซึ่งมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์เป็นมูลนิธิฯ ที่ปลูกไม้ยืนต้น สร้างป่าต้นน้ำ แทนคุณแผ่นดิน ตลอดระยะเวลา 30 ปี มูลนิธิฯ ได้ปลูกต้นไม้ไม่น้อยกว่า 20 ล้านต้น เพราะเชื่อว่า ต้นไม้เหล่านี้จะคืนสมดุลของระบบนิเวศนำพาความอุดมสมบูรณ์และเอื้อประโยชน์ให้ทุกคนอย่างถ้วนหน้า เว็บไซต์ปันบุญ จึงเหมือนเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะทำให้คนในสังคมได้รู้จักมูลนิธิฯ มากขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดิน”
ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ บอกเช่นกันว่า “เมื่อโลกเปลี่ยน เงินสดจะหายไป ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นทุนสำคัญ ที่ชัดเจนเลย คือ เรื่องของการลดหย่อนภาษี โดยข้อมูลจะส่งตรง ไปยังกรมสรรพากร ปัจจุบันนี้มูลนิธิฯ ใช้เงินกว่า 100 ล้านต่อปีจากเงินบริจาค 20% และอีก 80% ได้รับ การสนับสนุนจากภาครัฐ งานหลัก คือ พัฒนาศักยภาพของผู้พิการและขจัดอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะความเชื่อของคนไทยที่ว่า ผู้พิการเป็นภาระ โดยเราดำเนินการตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การศึกษาไปจนถึงมีอาชีพพึ่งพา ตนเองได้ และขับเคลื่อนให้สังคมไทยเปิดโอกาสผู้พิการ คิดว่า เว็บไซต์ปันบุญจะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยกระตุ้น ให้คนไทยไม่ทิ้งกัน เพราะขั้นตอนบริจาคง่าย ให้คนพิการช่วยตัวเองและสามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้”