เหตุทั่วโลกตื่นตัว-ตอบรับการเปลี่ยนแปลง แนวความคิดการเลือกวิชาชีพเพื่อหาเลี้ยงชีพในศตวรรษที่ 21 จึงมีแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น มีรายงานผลการศึกษาล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า อาชีพรองรับระบบเศรษฐกิจและธุรกิจสะอาด หรือกรีน จ๊อบ ยังเป็นสาขาอาชีพที่มีอัตราการเติบโตของการจ้างงานและการสมัครงานเพิ่มขึ้น
ที่เป็นเช่นนี้มีเหตุผลรองรับที่สำคัญมาจาก
ประการแรก ผู้ประกอบการในสาขาธุรกิจต่างๆ ได้หันมาใช้มาตรการประหยัดพลังงานเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจมากขึ้น จึงต้องการลูกจ้างที่มารองรับภาระงานในด้านนี้
ประการที่สอง ผู้บริโภคและครัวเรือนหันมาเป็นผู้ซื้อที่ใช้พลังงานโซลาร์มากขึ้น ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และต้องการผู้ให้บริการรองรับสินค้าแนวกรีนเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น
ประการที่สาม ภาครัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจมาเป็นการใช้พลังงานสะอาด โดยให้แรงจูงใจและการชดเชยอาชีพที่ออกมารองรับรับสมัครคนงานตามการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มใหม่ในตลาด ได้แก่ อาชีพที่รองรับการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เป็นพลังงานโซลาร์เซลล์และพลังงานลม วิศวกรสำหรับรองรับโรงงานผลิตและงานบริการรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด รวมทั้งงานวิศวกรก่อสร้างอาคารแนวกรีน
การวิเคราะห์ของนักวิชาการเกี่ยวกับแนวโน้มของกรีน จ๊อบ ตั้งประเด็นการวิเคราะห์ว่าแนวโน้มของอาชีพ
กรีน จ๊อบจะยังคงยั่งยืนในอนาคต หรือเป็นเพียงกระแสในระยะสั้น และแรงงานในอนาคตจะหวังพึ่งพาแนวโน้มนี้ได้อย่างมั่นใจเพียงใด
รายงานผลการวิเคราะห์ของนักวิชาการ ชื่อ Bob Keefe กรรมการบริหารของ E2 ที่ทำการวิจัยร่วมกับผู้ประกอบการภาคธุรกิจในการเสนอแนะนโยบายในอนาคต เพื่อเพิ่มพูนประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ออกมาในทางที่เป็นบวก ตามข้อมูลของกรมการจัดหางานในหมวดพลังงานทดแทนในสหรัฐเป็นตัวแทนของแนวโน้มของโลกได้ทางหนึ่ง คือ
ประการแรก มีแนวโน้มของการส่งเสริมและกระตือรือร้นในทางบวกในตลาดแรงงานส่วนของกรีน จ๊อบ จากสถิติในอดีตที่สนับสนุนแนวโน้มในอนาคต ต่อเนื่องจากทศวรรษที่ประสบความสำเร็จของอัตราการเติบโตของกรีนจ๊อบมาอย่างน่าพอใจในอดีต สำหรับอีก 10 ปีที่จะถึงนี้
ประการที่สอง สถิติสำคัญระบุว่า ในระหว่างปี 2015 ถึง 2016 สัดส่วนของแรงงานกลุ่ม กรีน จ๊อบอยู่ในราว 18% มีจำนวนประมาณ 3.2 ล้านคนในสหรัฐในปัจจุบัน หรือเท่ากับ 2.5 เท่าของอัตราการเติบโตของการจ้างงานในกลุ่มที่รองรับการใช้พลังงานฟอสซิล
ผู้บริหารนโยบายกรีนจ๊อบจากกรมการจัดหางานในหมวดพลังงานทดแทนดังกล่าว ที่รับผิดชอบมาตรการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพลังงานและดูแลบรรยากาศโลกเพิ่มเติมความเห็นในรายงานของ Environmental and Energy Study Institute (EESI ที่จัดทำรายงานเสนอให้แก่สภาคองเกรสว่าภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการผลักดันมาตรการต่างๆที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น
ประการที่สาม ประสบการณ์ในการดำเนินงานที่ผ่านมาชี้ว่า การหันมาใช้พลังงานทดแทนในการดำเนินงาน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ได้พัฒนามาถึงจุดที่พบว่ามีการกระจายพื้นที่และสาขาการใช้ออกไปอย่างกว้างขวาง จนมีลักษณะแนวโน้มที่ยั่งยืนอย่างชัดเจน
ภาคธุรกิจหรือสาขาธุรกิจที่มีการพัฒนาแนวโน้มในด้านพลังงานทดแทนอย่างมากเป็นพิเศษ คือ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงานโซลาร์และพลังงานลมเช่นกัน และมีอัตราการเติบโต 17 เท่าของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และยังมีภาคธุรกิจที่รอการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจสู่พลังงานทดแทนอีก ซึ่งเมื่อรวมตัวเลขนี้แล้ว คาดว่าอัตราการเติบโตของการใช้พลังงานทดแทนเติบโตในอัตรา 41% ในระหว่างไตรมาสที่สองของปี 2016 ถึง 2017
ประการที่สี่ นักวิชาการเชื่อว่าอัตราการเติบโตที่เกิดขึ้นมาแล้ว เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่สำหรับกรีน จ๊อบเท่านั้น ทำให้เห็นว่าโอกาสทางการจ้างงานในพลังงานทดแทนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนที่มาจากความต้องการของผู้ประกอบการ ของเจ้าของบ้าน ภาคการศึกษา สังคมและชุมชนและหน่วยงานรัฐ อย่างเช่นในแคลิฟอร์เนียมีการติดตั้งพลังงานจากโซลาร์มากกว่าจำนวนเหมืองแร่ถ่านหินที่มีการประกอบการ60,000 ราย อยู่ในประเทศสหรัฐ
ประการที่ห้า กระนั้นก็ตาม อัตราการเติบโตของแนวโน้มในด้านพลังงานทดแทนดังกล่าวไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงต่อการเติบโตของอาชีพกรีน จ๊อบอย่างยั่งยืน แต่เป็นการสนับสนุนทางอ้อมต่องานกลุ่มนี้เท่านั้น และการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานถ่านหิน ทำให้เกิดความสงสัยแก่ภาคธุรกิจว่ารัฐบาลต้องการให้ภาคธุรกิจไปในส่วนของพลังงานสะอาดจริงจังหรือไม่ เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงว่าต้องการพลิกฟื้นอุตสาหกรรมถ่านหินในสหรัฐที่เป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 19
แต่โดยภาพรวมระยะยาวแล้ว แนวโน้มของกรีน จ๊อบในภาคพลังงานทดแทนมีแนวโน้มที่ชัดเจนกว่าระยะสั้น จากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นสำคัญ
