ไม่เพียงแต่ภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เองก็เล็งเห็นการลงทุนที่เริ่มจะคุ้มค่าเมื่อติดโซลาร์เซลล์ เพราะก่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ตั้งแต่ลูกค้าผู้ใช้บริการ กิจการผู้ประกอบการโซลาร์เซลล์ และก่อให้เกิดแรงงานด้านกรีนมากขึ้นเช่นเดียวกับอารยประเทศ ขณะเดียวกันเป็นวิธีการช่วยเปลี่ยนโลกสู่สีเขียวเมื่อใช้พลังงานทดแทน
ตัวอย่างเช่นโครงการของเสนา ดีเวลอปเมนต์ หันมาโปรโมทขายบ้านที่ติดโซลาร์เซลล์ควบคู่ไปด้วยอย่างจริงจัง
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านของเสนาที่เริ่มขายตั้งแต่ปี 2559 มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปทั้งหมด เราได้แรงบันดาลใจมาตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งมีเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งพบว่า บ้านที่ติดตั้งโซลาร์รูฟทอปจ่ายค่าไฟฟ้าต่ำกว่า เพียงแต่ยังมีความไม่แน่นอนของความต้องการใช้ที่อาจไม่เท่ากันในแต่ละเดือน ตัวเลขนั้นจะเห็นชัดเจนสำหรับบ้านที่เป็นลักษณะของ Home Office มากกว่า แต่ก็เห็นแนวโน้มว่า เมื่อโซลาร์มีราคาถูกลง ภาคครัวเรือนก็มีโอกาสใช้โซลาร์รูฟทอปมากขึ้นแน่นอน
ก่อนหน้านั้นยังไม่เคยศึกษาเรื่องนี้เลย พอศึกษาลึกๆ เรามองเห็นถึงเทรนด์และความเป็นไปได้จริง โซลาร์เซลล์เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะมากกับการทำเป็นที่อยู่อาศัย และยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีโอกาสขยายตัวสูง ซึ่งน่าจะเหมาะกับเมืองไทย เราเลยทำทั้ง 2 อย่าง คือทำธุรกิจโซลาร์เซลล์ และนำโซลาร์มาติดตั้งในบ้านของเสนาฯ คือเราประเมินผลลัพธ์จนแน่ใจก่อนแล้วว่า Make sure ลูกค้าได้ประโยชน์มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่สำคัญมากสำหรับการติดตั้งโซลาร์รูฟทอปใช้เองที่บ้านเรือน คือ การที่ให้ธนาคารปล่อยกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำให้กับผู้ซื้อบ้านที่ติดโซลาร์รูฟทอป เนื่องจากเป็นการลงทุนล่วงหน้าที่มีการคืนทุนในระยะยาว ทว่าการซื้อโซลาร์รูฟทอปพร้อมกับบ้านมีความคุ้มค่าในเชิงการลงทุนมากกว่าการติดตั้งโซลาร์รูปทอปในภายหลัง
ปัจจุบัน เสนาฯ ถือว่าเป็นบริษัทที่ทำโครงการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยไม่กี่บริษัทที่สนใจในเรื่องของพลังงานแสงอาทิตย์ หลังจากปักหมุดโครงการแรกที่เสนาปาร์คแกรนด์ ซึ่งแรกๆ เหมือนชิมลางนำร่อง ยังไม่ได้ทำทั้งหมู่บ้าน ผลตอบกลับมาว่าดีต่อลูกค้า ต่อมาอีกไม่นานตัดสินใจทำเสนาพาร์ควิว ทั้งหมู่บ้าน และต่อจากนั้นก็มาทำในคอนโดมิเนียม จนถึงปัจจุบัน เราทำไปแล้ว 24 โครงการ มีทั้งบ้านจัดสรร และคอนโดมีเนียม แม้กระทั่งพื้นที่ส่วนกลาง ชอปเฮาส์ก็ใช้โซลาร์เซลล์ด้วย
“โซลาร์เซลล์ สามารถตอบโจทย์ที่ได้ประโยชน์ทั้ง 3 ฝ่าย ที่สำคัญ ส่วนแรก คือลูกค้าผู้บริโภค ถ้าเราตอบโจทย์นี้ไม่ได้ก็คงทำได้ไม่ยาวแน่ๆ ส่วนที่ 2 คือบริษัทเอง โซลาร์เซลล์ตอนนี้ถือว่าสร้างจุดขายที่ดีในขณะที่มีการแข่งขันสูง และส่วนที่ 3 นี่เป็นอีกแนวทางสร้างสรรค์ จรรโลงให้กับโลกใบนี้ และทำให้วิถีการอยู่อาศัยของผู้คนในสังคมดีขึ้น เพราะการใช้พลังงานทดแทน ทำให้คาร์บอนลดลง โลกก็ร้อนน้อยลง”
“เสนาฯ นำโซลาร์รูฟมาใส่ในคอนเทนท์ของการขาย และถ้าเป็นลูกบ้านเสนาก็จะมีแอพพลิเคชั่น ซึ่งเป็นบริการหลังการขาย แจกแจงทุกอย่าง แอพจะมีบอกว่าการใช้ไฟฟ้าในบ้านวันนี้ประหยัดไฟกี่บาท เปรียบเทียบให้เห็นว่าลูกบ้านช่วยปลูกต้นไม้ได้กี่ต้น เรียลไทม์อยู่ในแอพ การทำแบบนี้ทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาใส่ใจในการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และได้เรียนรู้การตระหนักรักษ์โลก” ผศ.ดร.เกษรา กล่าวในที่สุด
