xs
xsm
sm
md
lg

จุฬาฯ คว้ามหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ 2 ของไทย / รั้งเบอร์ 1 ด้านขนส่ง และจัดการขยะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากการจัดอันดับโดย UI GreenMetric Ranking of World Universities 2017 ที่มีมหาวิทยาลัยต่างๆเข้าร่วมการจัดอันดับทั้งสิ้น 619 สถาบัน จาก 76 ประเทศ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคว้ามหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ 2 ของประเทศไทย โดย ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัยไทยใน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการขนส่ง และการจัดการขยะ และเป็นอันดับ 90 ของโลก

รศ.ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม รองอธิการบดีจุฬาฯ เปิดเผยว่า การจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวในปี 2017 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้คะแนนรวมทั้งสิ้น 5,754 คะแนน โดยใช้เกณฑ์การพิจารณา 6 กลุ่ม และสัดส่วนของคะแนนในแต่ละกลุ่มเช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา สิ่งที่แตกต่างจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวปีที่แล้ว คือ ในปีนี้คะแนนที่มหาวิทยาลัยได้นั้นยากขึ้นเนื่องจากมีการให้คะแนนที่ลงรายละเอียดในเชิงปริมาณมากขึ้นในทุกกลุ่ม เช่น ในด้านพลังงานทดแทน ต้องให้ข้อมูลว่าพลังงาน solar cell สามารถผลิตไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนเท่าใดของพลังงานที่ใช้ไป
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของคะแนนที่จุฬาฯได้รับในปี 2017 ดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า (ปี 2016) โดยจุฬาฯได้คะแนนสูงขึ้นในเกณฑ์การพิจารณา 4 กลุ่ม ได้แก่ Energy and Climate Change, Waste, Water และ Transportation โดยในด้าน Transportation (การขนส่ง) จุฬาฯ ได้คะแนนอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัยไทย อันดับที่ 25 ของโลก
“เนื่องจากจุฬาฯมีระบบการขนส่งสาธารณะในมหาวิทยาลัย ทั้งจักรยาน CU Bike และ รถ Shuttle Bus ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ารองรับการใช้บริการของนิสิต คณาจารย์และบุคลากรจำนวนมาก ส่วนในด้าน Waste (การจัดการขยะ) จุฬาฯ ได้คะแนนอันดับ 1 ของประเทศไทย อันดับ 121 ของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการ Chula Zero Waste ซึ่งมีการจัดกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง อาทิ การรณรงค์ในเรื่องการลดใช้ถุงพลาสติก ช่วยทำให้ขยะลดลง เป็นต้น”

Waste (การจัดการขยะ) จุฬาฯ ได้คะแนนอันดับ 1 ของประเทศไทย  เพราะโครงการ Chula Zero Waste ซึ่งเอาจริงเอาจังอย่างต่อเนื่อง

Transportation (การขนส่ง) จุฬาฯ ได้คะแนนอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัยไทย เพราะมีระบบการขนส่งสาธารณะในมหาวิทยาลัย ทั้งจักรยาน CU Bike และรถ Shuttle Bus ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาด รองรับนิสิต คณาจารย์และบุคลากรจำนวนมาก
รศ.ดร.บุญไชย กล่าวว่า จุฬาฯ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คะแนนในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวมากไปกว่านี้เนื่องจากในหลายตัวชี้วัด จุฬาฯไม่สามารถแข่งขันกับมหาวิทยาลัยอื่นๆได้ เช่น ในด้าน Setting and Infrastructure (ที่ตั้งและโครงสร้างพื้นฐาน) จุฬาฯเป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งการจะได้คะแนนในส่วนนี้มากขึ้นอีกหนึ่งขั้น เท่ากับว่าจุฬาฯจะต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียวอีก 1 % ซึ่งเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการพลังงาน ส่วนในด้าน Education ซึ่งรวมถึงการเรียนการสอนและการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น จุฬาฯ มีรายวิชาและโครงการวิจัยต่างๆ ที่สอดแทรกในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ชื่อรายวิชาหรือชื่อโครงการวิจัยไม่ได้บ่งบอกว่าเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในอนาคตน่าจะมีกระบวนการการรวบรวมข้อมูลเหล่านี้จากอาจารย์ผู้สอนหรือผู้ทำวิจัยเป็นผู้ให้ข้อมูล ซึ่งจะทำให้คะแนนของจุฬาฯในส่วนนี้เพิ่มขึ้น
“ตามผังแม่บทจุฬาฯ 100 ปี ได้มีการดำเนินการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยสีเขียว และการเป็นมหาวิทยาลัยที่ยั่งยืนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการจัดการพื้นที่สีเขียว การจัดหาพลังงานทดแทน การจัดการพลังงาน การจัดการขยะ การจัดการน้ำ การขนส่ง ฯลฯ เป็นการตอบสนองพันธกิจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ได้ทำเพื่อมุ่งไปที่ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวเป็นสำคัญ” รศ.ดร.บุญไชย กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวเพิ่มเติมได้ที่ http://greenmetric.ui.ac.id/overall-ranking-2017


กำลังโหลดความคิดเห็น