“เอ็นเนอร์ยี่ติงส์” มุ่งเป้าผู้นำด้านนวัตกรรมโครงข่ายการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าสุดล้ำสมัยใหม่แห่งยุค รุกเปิดตัวแบตเตอรี่ไฟฟ้าหน่วยเก็บพลังงานสำรองสำหรับบ้านพักอาศัยที่ออกแบบมาอย่างสวยหรู พร้อมเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนพลังงานสะอาดด้วยบล็อกเชน (Blockchain) และการชำระเงินโดยอัตโนมัติด้วยสกุลเงินบนโลกดิจิทัล (Bitcoin)
ธนชัช โพชนา ประธานกลุ่มบริษัท Enserv Things และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ติงส์กล่าวว่า เอ็นเนอร์ยี่ติงส์คือ บริษัทสตาร์ทอัพที่มีจุดมุ่งหมายในการวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าสมัยใหม่ทั้งภายในบ้านและอาคาร โดยล่าสุดได้นำเสนอหน่วยกักเก็บพลังงานสำรองหรือแบตเตอรี่ไฟฟ้า ในงาน Engineering Expo 2017 ไบเทค บางนา ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อตอบโจทย์การใช้พลังงานยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม
“เราให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดหรือที่เรียกกันว่า Green Energy ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม คือพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม ซึ่งจะมีหน่วยกักเก็บพลังงานภายในบ้านที่ช่วยจัดเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้ และจ่ายพลังงานออกมาในช่วงที่จำเป็นต้องใช้ สำหรับระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นระบบพื้นฐานในการผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน เพราะสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยเอื้ออำนวย และจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยรวมได้เป็นอย่างมาก”
“การติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ นับเป็นการลงทุนระยะยาวและมีข้อดี เพราะสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้า รวมทั้งยังสามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสำรองได้อย่างดี เช่น กรณีฉุกเฉินเมื่อสายไฟเกิดการชำรุดหรือขาด และไม่สามารถรับไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ หากผลิตได้มากกว่าปริมาณที่ใช้ ยังสามารถนำไปขายในราคาที่ค่อนข้างดีได้อีกด้วย”
“แนวทางของโครงการคือ สามารถแลกเปลี่ยนพลังงานสะอาดที่เราผลิตได้อย่างอิสระ โดยไม่ผ่านตัวกลาง และสามารถขายให้กับเพื่อนบ้านหรือสมาชิกในระบบได้โดยตรง เป้าหมายหลักคือการสร้างโครงข่ายผู้ใช้พลังงานสะอาดโดยมีทั้งผู้ใช้ (Consumers) และผู้ผลิต (Prosumers) กระจายอยู่ทั่วไป การแลกเปลี่ยนพลังงานสะอาดยังใช้เทคโนโลยีที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเป็นเครื่องมือ นั่นคือ เทคโนโลยีบล็อกเชน (BlockChain) ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับ Cryptocurrency หรือเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า Bitcoin เมื่อปี 2009 และปัจจุบันมีสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เช่น Bitcoin Ethereum Litecoin เป็นต้น
ธนชัชกล่าวอีกว่า ภายในโครงข่ายสามารถเลือกจำนวนหน่วยไฟฟ้าและเวลาในการซื้อขายได้ตามใจชอบ โดยข้อมูลจะถูกเก็บและแสดงไปยังแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ในรูปแบบ Near real-time โดยข้อมูลจะมีการอัปเดทแบบอัตโนมัติภายในเวลาอันสั้น ผู้ใช้สามารถใช้แอปพลิเคชั่นควบคุมทุกอย่างได้ด้วยปลายนิ้ว
ฉันทกร จำศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็นเนอร์ยี่ติงส์ กล่าวเสริมว่า ในระดับบุคคลโซลูชั่นการบริหารจัดการพลังงานอย่างชาญฉลาด ถือว่าเป็นมันสมองที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการพลังงานภายในบ้าน ในภาพรวมโซลูชั่นดังกล่าวนับเป็นการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของโครงข่ายไฟฟ้าหลัก รองลงมาคือ อุปกรณ์ในส่วนต่างๆ เช่น หน่วยกักเก็บพลังงานหรือเครื่องแปลงผันพลังงานสมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับระยะเวลาคืนทุน
“เอ็นเนอร์ยี่ติงส์ เรียกได้ว่าเป็น กรีนเอ็นเนอร์ยี่ออฟติงส์ (Green Energy of Things) หรือพลังงานสีเขียวในทุกสิ่ง ที่เชื่อมโยงระบบไมโครกริดย่อยๆ ภายในบ้านเข้าสู่โครงข่ายพลังงานของเรา ผู้ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกจะได้รับการติดต่อจากวิศวกรที่ชำนาญการเพื่อนัดหมายการเข้าตรวจสอบ ออกแบบและติดตั้งระบบที่เข้ากับลักษณะของบ้านหรืออาคาร รวมถึงให้ความช่วยเหลือในการนำระบบขึ้นใช้งาน โดยอุปกรณ์ทั้งหมดจะทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติตามรูปแบบของโหมดการทำงานที่เลือกไว้ ข้อมูลที่สำคัญของระบบทุกอย่างจะสามารถเรียกดูและปรับตั้งการใช้งานได้จากแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน รวมถึงปริมาณการแลกเปลี่ยนพลังงานสะอาดจากเพื่อนสมาชิก ซึ่งระบบมีโหมดการทำงานอัตโนมัติที่ปรับเลือกได้ถึง 6 โหมด ตามความต้องการของสมาชิก”
นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบหน่วยกักเก็บพลังงานขนาดเล็กภายในบ้านสองรุ่น ขนาด 3.2kWh และ 4.6kWh ให้มีรูปทรงที่สวยงาม และมีฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงการแสดงผลสถานะของอุปกรณ์ที่เข้าใจได้ง่าย โดยได้เริ่มทดสอบระบบเบื้องต้น ส่วนการเปิดรับสมาชิกใหม่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศคาดว่าจะเริ่มได้ในปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป