ไม่ทันถึงสองปี การใช้เลนจักรยานของ กทม. ก็เปลี่ยนไป รถนานาชนิดเข้ามาใช้บริการอย่างครื้นเครง มอเตอร์ไซค์ใช้เป็นทางสายด่วนในยามรถติด กลายเป็นพื้นที่จอดวินมอเตอร์ไซค์ สามล้อตุ๊กตุ๊ก หรือแม้กระทั่งที่จอดรถยนต์ หรือรถเข็นขายของก็มี



“ทางจักรยานที่ดี จำเป็นต้องสร้างโดยมีความเข้าใจถึงผู้ใช้จักรยาน มิฉะนั้นจะไม่ได้รับการใช้งาน สุดท้ายแล้วจะถูกทิ้งร้าง แบบทางจักรยานย่านบางลำพู หรือถูกใช้งานแบบผิดจุดประสงค์ เช่น กลายเป็นทางวิ่งของจักรยานยนต์ ที่จอดรถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น” ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย กล่าว
อย่างตอนนี้มีโครงการสร้างทางจักรยาน จากรังสิต-ชัยนาท ระยะทาง 184 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 1500 ล้านบาท โดยแยกจากถนนไฮเวย์ ผมอยากจะบอกว่า ชาวบ้านที่ไหนเขาจะขี่จักรยานในเส้นทางยาวขนาดนั้น ถึงผมสามารถขี่ได้แต่ให้ไปขี่บ่อยๆ คงไม่ใช่ แล้วจะสร้างเพื่อใคร คนในชุมชนที่ตัดเส้นทางผ่านหรือ คงไม่ใช่แน่ เพราะทางไม่ได้ตัดผ่านละแวกชุมชน
“อยากให้ลองนึกภาพปิระมิด ยอดแหลมข้างบนที่มีพื้นที่นิดเดียว เปรียบได้กับนักแข่งนักปั่นจักรยานมืออาชีพ ถัดลงมามีคนมากขึ้น คือเหล่านักจักรยานที่ชื่นชอบออกกำลัง ส่วนตรงฐานปิระมิดพื้นที่มาก หมายถึงคนส่วนใหญ่ซึ่งก็คือชาวบ้านในชุมชนที่จะใช้จักรยาน
ชาวบ้านคนส่วนใหญ่เขาต้องการสัญจรโดยใช้จักรยานจริงหรือไม่ ตรงนี้เองต่างหากที่เราควรศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นของเลนจักรยาน กทม. นั่นเพราะเราทำมาตอบสนองนักจักรยาน ไม่ใช่ชาวบ้านผู้ใช้จักรยานสัญจรปกติ”
ดร.ธงชัย กล่าวว่า หากต้องการให้กรุงเทพฯเป็นเมืองจักรยาน ที่ใช้จักรยานเดินทางไปไหนมาไหน ทดแทนการใช้รถยนต์ จะต้องทำทางเพื่อส่งเสริมการใช้จักรยานของกลุ่มชาวบ้านที่ใช้จักรยานเพื่อการเดินทางในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของเมือง ส่วนทางจักรยานริมน้ำของกทม.ก็เช่นเดียวกัน มีรูปแบบที่ส่งเสริมการขี่จักรยานของนักกีฬาเสียมากกว่า ทั้งที่นักกีฬาเป็นคนกลุ่มน้อยในเมือง จึงเป็นการพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการที่จะให้ประชาชนใช้จักรยานในการเดินทางในชีวิตประจำวัน
อย่าไปอ้างเพื่อช่วยแก้ไขปัญหามลพิษ ลดโลกร้อน ถ้าชาวบ้านเขาไม่สนใจมาใช้จักรยานแทนรถยนต์ก็เปล่าประโยชน์ อยากให้สังเกตชาวบ้านชาวเมืองที่เขาใช้จักรยานในต่างประเทศ และกลายเป็นเมืองจักรยาน คนใช้จักรยานส่วนใหญ่เค้าแต่งตัวตามปกติไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมาย ไม่ได้มีหมวก หรือสวมชุดนักจักรยานแต่อย่างใด เมืองไทยหากจะก้าวไปถึงก็ทำนองเดียวกัน

ดร.ธงชัย ยกตัวอย่างกรณีศึกษาประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่สามารถทำให้เมืองเป็นเมืองจักรยานได้ เพราะผู้คนส่วนใหญ่ใช้จักรยานเพื่อเดินทางในชีวิตประจำวัน ซึ่งการที่เมืองกลายเป็นเมืองจักรยานได้นั้น ส่วนใหญ่เป็นผลจากการบังคับใช้กฎจราจร โดยไม่มีความจำเป็นต้องก่อสร้างทางเพิ่มสำหรับจักรยานด้วยซ้ำ จึงเป็นการตั้งคำถามกลายๆ ว่า กทม. กำลังพยายามแก้ปัญหาผิดจุดอยู่หรือไม่ มันเป็นโครงการที่ไม่ต้องทำ EIA แต่ควรต้องทำ EIA
การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ย่อมาจากคำว่า Environmental Impact Assessment หมายถึง การใช้หลักวิชาการในการทำนาย หรือคาดการณ์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งทางบวกและทางลบของการดำเนินโครงการพัฒนา ที่จะมีผลต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งทางทรัพยากรธรรมชาติ ทางเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อจะได้หาทางป้องกันผลกระทบในทางลบที่อาจเกิดขึ้นให้เกิดน้อยที่สุด

ผ่านไปไม่ถึง 2 ปี เลนจักรยานเปลี่ยนไปสิ้น เช่นทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์
ค้นจากข้อมูลย้อนหลัง เวปไซต์ https://rider.in.th/bicycle-news/305-bicycle-path-nearly-400-route.html โพสต์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2558 เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 ปี สภาพเลนจักรยานก็ดูผิดรูปผิดวัตถุประสงค์เสียแล้ว
เนื้อข่าวเวปไซต์ดังกล่าว ระบุว่า
สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้สรุปความคืบหน้าการส่งเสริมการใช้จักรยานในเมือง โดยเพิ่มเส้นทางจักรยานในปี 2558 ดังนี้
สำหรับเส้นทางที่ได้รับงบประมาณดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
•เส้นทางที่ 1. ทางจักรยานถนนสาทรดำเนินการแล้วเสร็จ
•เส้นทางที่ 2. ทางจักรยานถนนบางขุนเทียนชายทะเลดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
•เส้นทางที่3. ทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
•เส้นทางที่ 4.ทางจักรยานถนนลาดพร้าว อยู่ระหว่างประกวดราคาหาผู้รับเหมา
•เส้นทางที่ 5. ทางจักรยานถนนลาดหญ้าและบริเวณโดยรอบวงเวียนใหญ่
อยู่ระหว่างดำเนินการตามสัญญาสำหรับเส้นทางจักรยานที่ยังไม่ได้รับงบประมาณดำเนินการจำนวน 5 เส้นทาง
•เส้นทางที่ 1. ทางจักรยานถนนประดิษฐ์มนูธรรมที่สำนักการโยธา(สนย.)ดำเนินการปรับปรุงสภาพเส้นทางแล้ว
•เส้นทางที่ 2. ทางจักรยานถนนเพชรเกษม อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบและจัดทำรายละเอียด
•เส้นทางที่ 3.ทางจักรยานถนนพุทธมณฑลสาย2อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบและจัดทำรายละเอียด
•เส้นทางที่ 4.ทางจักรยานถนนอุทยาน สำรวจกายภาพพื้นที่แล้ว อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดและขอจัดสรรงบประมาณ
•เส้นทางที่ 5.ทางจักรยานถนนจรัญสนิทวงศ์ อยู่ระหว่าง สำรวจและจัดทำรายละเอียด
เส้นทางจักรยานเพื่อสันทนาการและการท่องเที่ยว ได้ขอความร่วมมือ สำนักงานเขต 50 เขต สำรวจและกำหนดแนวเส้นทางจักรยานในพื้นที่ความรับผิดชอบของแต่ละเขตพร้อมทั้งจัดทำสัญลักษณ์รูปจักรยานเพื่อเป็นการแบ่งปันถนนร่วมกัน โดยให้พิจารณาจากการส่งเสริมการใช้จักรยานภายในชุมชน และสนับสนุนกิจกรรมภายในชุมชนและการท่องเที่ยว ซึ่ง 6กลุ่มเขต ได้รวบรวมเส้นทางที่เหมาะสม จำนวน 359 เส้นทาง ประกอบด้วย
•กลุ่มกรุงเทพใต้ 158 เส้นทาง
•กลุ่มกรุงเทพตะวันออก 49 เส้นทาง
•กลุ่มกรุงเทพกลาง 24เส้นทาง
•กลุ่มกรุงธนเหนือ 44 เส้นทาง
•กลุ่มกรุงธนใต้ 52 เส้นทาง
•กลุ่มกรุงเทพเหนือ 32 เส้นทาง
ซึ่งขณะนั้น ได้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำสัญลักษณ์รูปจักรยานแล้วจำนวน 173 เส้นทางและเส้นทางจักรยานเพื่อการออกกำลังกาย ได้จัดทำเส้นทางจักรยานรอบบึงมะขามเทศและบึงสะแกงาม ระยะทาง 4.2 กม.และบึงหนองบอนระยะทาง 4 กม. เพื่อสนับสนุนประชาชนใช้จักรยานในการออกกำลังกาย เรียบร้อยแล้ว
“ทางจักรยานที่ดี จำเป็นต้องสร้างโดยมีความเข้าใจถึงผู้ใช้จักรยาน มิฉะนั้นจะไม่ได้รับการใช้งาน สุดท้ายแล้วจะถูกทิ้งร้าง แบบทางจักรยานย่านบางลำพู หรือถูกใช้งานแบบผิดจุดประสงค์ เช่น กลายเป็นทางวิ่งของจักรยานยนต์ ที่จอดรถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น” ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย กล่าว
อย่างตอนนี้มีโครงการสร้างทางจักรยาน จากรังสิต-ชัยนาท ระยะทาง 184 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 1500 ล้านบาท โดยแยกจากถนนไฮเวย์ ผมอยากจะบอกว่า ชาวบ้านที่ไหนเขาจะขี่จักรยานในเส้นทางยาวขนาดนั้น ถึงผมสามารถขี่ได้แต่ให้ไปขี่บ่อยๆ คงไม่ใช่ แล้วจะสร้างเพื่อใคร คนในชุมชนที่ตัดเส้นทางผ่านหรือ คงไม่ใช่แน่ เพราะทางไม่ได้ตัดผ่านละแวกชุมชน
“อยากให้ลองนึกภาพปิระมิด ยอดแหลมข้างบนที่มีพื้นที่นิดเดียว เปรียบได้กับนักแข่งนักปั่นจักรยานมืออาชีพ ถัดลงมามีคนมากขึ้น คือเหล่านักจักรยานที่ชื่นชอบออกกำลัง ส่วนตรงฐานปิระมิดพื้นที่มาก หมายถึงคนส่วนใหญ่ซึ่งก็คือชาวบ้านในชุมชนที่จะใช้จักรยาน
ชาวบ้านคนส่วนใหญ่เขาต้องการสัญจรโดยใช้จักรยานจริงหรือไม่ ตรงนี้เองต่างหากที่เราควรศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นของเลนจักรยาน กทม. นั่นเพราะเราทำมาตอบสนองนักจักรยาน ไม่ใช่ชาวบ้านผู้ใช้จักรยานสัญจรปกติ”
ดร.ธงชัย กล่าวว่า หากต้องการให้กรุงเทพฯเป็นเมืองจักรยาน ที่ใช้จักรยานเดินทางไปไหนมาไหน ทดแทนการใช้รถยนต์ จะต้องทำทางเพื่อส่งเสริมการใช้จักรยานของกลุ่มชาวบ้านที่ใช้จักรยานเพื่อการเดินทางในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของเมือง ส่วนทางจักรยานริมน้ำของกทม.ก็เช่นเดียวกัน มีรูปแบบที่ส่งเสริมการขี่จักรยานของนักกีฬาเสียมากกว่า ทั้งที่นักกีฬาเป็นคนกลุ่มน้อยในเมือง จึงเป็นการพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการที่จะให้ประชาชนใช้จักรยานในการเดินทางในชีวิตประจำวัน
อย่าไปอ้างเพื่อช่วยแก้ไขปัญหามลพิษ ลดโลกร้อน ถ้าชาวบ้านเขาไม่สนใจมาใช้จักรยานแทนรถยนต์ก็เปล่าประโยชน์ อยากให้สังเกตชาวบ้านชาวเมืองที่เขาใช้จักรยานในต่างประเทศ และกลายเป็นเมืองจักรยาน คนใช้จักรยานส่วนใหญ่เค้าแต่งตัวตามปกติไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมาย ไม่ได้มีหมวก หรือสวมชุดนักจักรยานแต่อย่างใด เมืองไทยหากจะก้าวไปถึงก็ทำนองเดียวกัน
ดร.ธงชัย ยกตัวอย่างกรณีศึกษาประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่สามารถทำให้เมืองเป็นเมืองจักรยานได้ เพราะผู้คนส่วนใหญ่ใช้จักรยานเพื่อเดินทางในชีวิตประจำวัน ซึ่งการที่เมืองกลายเป็นเมืองจักรยานได้นั้น ส่วนใหญ่เป็นผลจากการบังคับใช้กฎจราจร โดยไม่มีความจำเป็นต้องก่อสร้างทางเพิ่มสำหรับจักรยานด้วยซ้ำ จึงเป็นการตั้งคำถามกลายๆ ว่า กทม. กำลังพยายามแก้ปัญหาผิดจุดอยู่หรือไม่ มันเป็นโครงการที่ไม่ต้องทำ EIA แต่ควรต้องทำ EIA
การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ย่อมาจากคำว่า Environmental Impact Assessment หมายถึง การใช้หลักวิชาการในการทำนาย หรือคาดการณ์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งทางบวกและทางลบของการดำเนินโครงการพัฒนา ที่จะมีผลต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งทางทรัพยากรธรรมชาติ ทางเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อจะได้หาทางป้องกันผลกระทบในทางลบที่อาจเกิดขึ้นให้เกิดน้อยที่สุด
ผ่านไปไม่ถึง 2 ปี เลนจักรยานเปลี่ยนไปสิ้น เช่นทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์
ค้นจากข้อมูลย้อนหลัง เวปไซต์ https://rider.in.th/bicycle-news/305-bicycle-path-nearly-400-route.html โพสต์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2558 เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 ปี สภาพเลนจักรยานก็ดูผิดรูปผิดวัตถุประสงค์เสียแล้ว
เนื้อข่าวเวปไซต์ดังกล่าว ระบุว่า
สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้สรุปความคืบหน้าการส่งเสริมการใช้จักรยานในเมือง โดยเพิ่มเส้นทางจักรยานในปี 2558 ดังนี้
สำหรับเส้นทางที่ได้รับงบประมาณดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
•เส้นทางที่ 1. ทางจักรยานถนนสาทรดำเนินการแล้วเสร็จ
•เส้นทางที่ 2. ทางจักรยานถนนบางขุนเทียนชายทะเลดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
•เส้นทางที่3. ทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
•เส้นทางที่ 4.ทางจักรยานถนนลาดพร้าว อยู่ระหว่างประกวดราคาหาผู้รับเหมา
•เส้นทางที่ 5. ทางจักรยานถนนลาดหญ้าและบริเวณโดยรอบวงเวียนใหญ่
อยู่ระหว่างดำเนินการตามสัญญาสำหรับเส้นทางจักรยานที่ยังไม่ได้รับงบประมาณดำเนินการจำนวน 5 เส้นทาง
•เส้นทางที่ 1. ทางจักรยานถนนประดิษฐ์มนูธรรมที่สำนักการโยธา(สนย.)ดำเนินการปรับปรุงสภาพเส้นทางแล้ว
•เส้นทางที่ 2. ทางจักรยานถนนเพชรเกษม อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบและจัดทำรายละเอียด
•เส้นทางที่ 3.ทางจักรยานถนนพุทธมณฑลสาย2อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบและจัดทำรายละเอียด
•เส้นทางที่ 4.ทางจักรยานถนนอุทยาน สำรวจกายภาพพื้นที่แล้ว อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดและขอจัดสรรงบประมาณ
•เส้นทางที่ 5.ทางจักรยานถนนจรัญสนิทวงศ์ อยู่ระหว่าง สำรวจและจัดทำรายละเอียด
เส้นทางจักรยานเพื่อสันทนาการและการท่องเที่ยว ได้ขอความร่วมมือ สำนักงานเขต 50 เขต สำรวจและกำหนดแนวเส้นทางจักรยานในพื้นที่ความรับผิดชอบของแต่ละเขตพร้อมทั้งจัดทำสัญลักษณ์รูปจักรยานเพื่อเป็นการแบ่งปันถนนร่วมกัน โดยให้พิจารณาจากการส่งเสริมการใช้จักรยานภายในชุมชน และสนับสนุนกิจกรรมภายในชุมชนและการท่องเที่ยว ซึ่ง 6กลุ่มเขต ได้รวบรวมเส้นทางที่เหมาะสม จำนวน 359 เส้นทาง ประกอบด้วย
•กลุ่มกรุงเทพใต้ 158 เส้นทาง
•กลุ่มกรุงเทพตะวันออก 49 เส้นทาง
•กลุ่มกรุงเทพกลาง 24เส้นทาง
•กลุ่มกรุงธนเหนือ 44 เส้นทาง
•กลุ่มกรุงธนใต้ 52 เส้นทาง
•กลุ่มกรุงเทพเหนือ 32 เส้นทาง
ซึ่งขณะนั้น ได้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำสัญลักษณ์รูปจักรยานแล้วจำนวน 173 เส้นทางและเส้นทางจักรยานเพื่อการออกกำลังกาย ได้จัดทำเส้นทางจักรยานรอบบึงมะขามเทศและบึงสะแกงาม ระยะทาง 4.2 กม.และบึงหนองบอนระยะทาง 4 กม. เพื่อสนับสนุนประชาชนใช้จักรยานในการออกกำลังกาย เรียบร้อยแล้ว