xs
xsm
sm
md
lg

“แกลงบน บาร์เบอร์” ปูเส้นทางสร้างอาชีพเยาวชนแบบหวังผลยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“แกลงบน บาร์เบอร์” เป็นร้านตัดผมที่ถูกออกแบบจากการผสมผสานแนวความคิดและจินตนาการของเด็กๆ ที่มีต่ออาชีพช่างตัดผม รูปแบบของร้านถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย และสามารถใช้งานได้จริงทั้งเป็นห้องเรียน ห้องฝึกปฏิบัติ และเป็นสถานประกอบการเพื่อสร้างรายได้ให้กับโรงเรียนวัดแกลงบน จ.ระยอง ที่นี่เสมือนโรงเรียนนำร่อง และเป็นหนึ่งในกิจกรรมซีเอสอาร์โดดเด่นของ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด
เมื่อไปฟังผลลัพธ์จากผู้ได้รับประโยชน์ คือ โรงเรียน และเด็กๆ ที่มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ ก็จะสัมผัสได้ว่า หลักสูตรแบบนี้เป็นอีกโครงการดีๆ ที่สร้างวิชาชีพให้เยาวชนซึ่งจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีงานรองรับในอนาคต

เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์จริง
ปิยภัทร ทองพรม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดแกลงบน กล่าวว่า “แกลงบนบาร์เบอร์” เป็นการสานต่อความฝันของนักเรียน ชุมนุมช่างตัดผม ซึ่งแต่ก่อนนักเรียนจะมีเพียงแค่ปัตตาเลี่ยนเก่า ๆ 1 อัน และใช้มุมห้องเรียน หน้าห้องเรียนรู้ทักษะการตัดผม เมื่อแฟมิลี่มาร์ทและมูลนิธิรักษ์ไทย ร่วมกันระดมทุน เพื่อสนับสนุนการสร้างห้องตัดผมพร้อมอุปกรณ์ ทำให้นักเรียนมีที่เรียนฝึกทักษะอาชีพและสร้างภาวะผู้นำให้เกิดขึ้นในตัวนักเรียน รวมทั้งเป็นการสร้างแรงบันดาลใจสู่อาชีพช่างตัดผมในอนาคต สู่ความฝันอันยิ่งใหญ่ของนักเรียน ถึงแม้นักเรียนบางส่วนไม่สามารถได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น อย่างน้อยนักเรียนมีทักษะวิชาชีพติดตัวไปซึ่งในอนาคตอาจช่วยนักเรียนได้ และสำหรับโรงเรียนจะพัฒนาห้องตัดผมเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับที่ผู้สนใจต่าง ๆ สามารถศึกษาดูงานได้ต่อไป นอกจากนี้นักเรียนสามารถสร้างรายได้จากการเป็นช่างตัดผม เพราะในทุก ๆ ต้นเดือนนักเรียนทั้งโรงเรียนต้องตัดผมให้เรียบร้อยตามระเบียบของโรงเรียน ดังนั้นเมื่อมีห้องตัดผมในโรงเรียน นักเรียนในโรงเรียนจะใช้บริการห้องตัดผม มีสมาชิกชุมนุมดูแลทำบัญชีรายรับรายจ่าย โดยร้านตัดผมเปิดบริการทุกวันหลังเลิกเรียนและช่วงนี้มีผู้ปกครองนักเรียนให้ความสนใจมาใช้บริการร้านตัดผมเป็นบางส่วน”
ปัจจุบันที่โรงเรียนของเรามีวิชาเลือกอื่นๆ เช่น เบเกอรี่ ดนตรี วาดรูป ซึ่งวิชาเลือกตัดผมเป็นหนึ่งวิชาที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากสามารถนำไปประกอบอาชีพได้เลย อีกทั้งสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจของตัวเองในอนาคตได้ “แกลงบน บาร์เบอร์” จึงเข้ามาเป็นส่วนเสริมและ เติมเต็มการเรียนรู้ของเด็กให้ครบทุกมิติมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมโรงเรียน ครอบครัว และคนชุมชนให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้นผ่านกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นกับ “แกลงบน บาร์เบอร์”ต่อๆ ไป
ด.ช.วัชชิระ จารุณสาร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดแกลงบน เขาเป็นหนึ่งในเด็กที่สนใจมาเรียนรู้ บอกว่า “ รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก ที่ทุกคนจะได้มีโอกาสเรียนตัดผมในห้องเรียนจริง ได้ใช้อุปกรณ์ เหมือนที่ช่างตัดผมมืออาชีพและได้ทดลองเป็นเจ้าของร้านตัดผมเอง ซึ่งผมจะใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากที่นี่พาผมไปตามจุดมุ่งหมายที่ผมตั้งไว้เมื่อจบจากที่นี้แล้ว ขอบคุณทุกโอกาสที่ผู้ใหญ่มอบให้กับผมและนักเรียนทุกคนครับ”
เบื้องหลัง แฟมิลี่มาร์ท หนุนโครงการนี้กว่า 6 เดือน
”แกลงบน บาร์เบอร์” ใช้เวลาในการวางแผน และดำเนินการก่อสร้างกว่า 6 เดือนด้วบงบประมาณการก่อสร้าง และอุปกรณ์รวมกว่า 8 แสนบาท โดยการควบคุมการก่อสร้างและออกแบบโดยบริษัทไทย โพลิคอนส์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งการพัฒนาหลักสูตรช่างตัดผมชาย-หญิง โดยมูลนิธิรักษ์ไทยกับอาจารย์ผู้สอน เพื่อบรรจุเป็นวิชาเลือกให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3
ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวยังได้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในเรื่อง “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในทุกด้าน ในรูปแบบของกิจกรรมเสริมหลักสูตร และการเรียนรู้แบบบูรณาการ
“แฟมิลี่มาร์ท เป็นตัวแทนของลูกค้าที่ได้มาเติมเต็มโอกาสและ ความฝันของน้องๆ กับกิจกรรมในครั้งนี้ โดยทางบริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของเยาวชน เพื่อการมีอาชีพที่มั่นคงและสามารถดูแลครอบครัวและสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม ตามพันธกิจหลักของบริษัทในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป “แกลงบน บาร์เบอร์” จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่บริษัทฯดำเนินการเพื่อคืนกำไรสู่สังคม นอกเหนือจากกิจกรรมอื่นๆ ที่บริษัทในเครือได้ร่วมสร้างให้เกิดความยั่งยืนในสังคมที่ผ่านมา และครั้งนี้ถือเป็นการส่งมอบ “ แกลงบน บาร์เบอร์ “ ให้กับทางโรงเรียนวัดแกลงบน จ.ระยอง” จิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าว

เลือกเฟ้นเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคม
ขณะที่ ศ.นพ.ดร.กระแส ชนะวงศ์ ประธาน มูลนิธิรักษ์ไทย สมาชิกองค์การแคร์นานาชาติ กล่าวว่า “โครงการพัฒนาศักยภาพภาวะผู้นำเยาวชนด้านอาชีพ (Young Leadership Project) เราจะทำในกลุ่มเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคม ให้มีพื้นฐานและทักษะด้านการประกอบอาชีพ และมีส่วนในการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงงานอาชีพอย่างน้อย 1 โรงเรียน 1 ธุรกิจ ในเน้นการเรียนการสอนในแบบ สะเต็มศึกษา - STEM Education (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ซึ่งเป็นแนวทางการจัดการศึกษาให้เกิดบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรมและคณิตศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยให้ผู้เรียนนำไปใช้ในการเชื่อมโยงและแก้ปัญหา รวมถึงนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ ผ่านประสบการณ์ในการทำกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning) หรือกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ แก้ไข และลงมือทำด้วยตนเอง ปัจจุบันมูลนิธิรักษ์ไทยจะมีภาคีธุรกิจภาคเอกชน อย่างเช่น แฟมิลี่มาร์ท องค์กรภาครัฐระดับท้องถิ่น ภาคประชาสังคม รวมถึงประชาชนในชุมชนนั้นๆ เพื่อที่จะทำให้เกิดพลังการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น