xs
xsm
sm
md
lg

พลิกความท้าทายเป็นโอกาส สู่ความสำเร็จอย่างถูกต้องและยั่งยืน /พรวุฒิ สารสิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร่วมกับคนในชุมชนสร้างฝาย ส่วนหนึ่งในกิจกรรม โครงการรักน้ำ
ทุกย่างก้าวของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันมีทั้งโอกาสและความท้าทาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภคโดยตรง
ความท้าทายคือ ผู้บริโภคมองหาสิ่งใหม่ๆ และมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ยังไม่รวมถึงการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น แม้การผลิตสินค้าหรือบริการที่สามารถมัดใจผู้บริโภคได้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของธุรกิจ แต่ปัจจัยการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องมองถึงบทบาทการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมด้วย ซึ่งองค์กรควรมองว่านี่คือ “โอกาส”
ตลอดระยะเวลากว่า 58 ปี ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โคคา-โคลามุ่งมั่นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่นอกเหนือจากการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ยังมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมไทย ผ่านการทำงานด้านความยั่งยืนต่างๆ
เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจจะอยู่ได้อย่างยั่งยืนนั้น การมี product license เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แม้ผลิตภัณฑ์จะได้รับความนิยมมากเพียงใด แต่หากไปสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสังคมก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม หรือ license to operate อันจะนำไปสู่ license to grow คือการสร้างการเติบโตทางธุรกิจและความยั่งยืนในสังคม เพื่อ shared value อันเป็นประโยชน์ร่วมกันของทุกคนในสังคม
หนึ่งในการทำงานด้านความยั่งยืนที่เราดำเนินการมาเป็นเวลานานคือ เรื่องของน้ำ จากจุดเริ่มต้นที่ว่า “น้ำ” เป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องใช้น้ำอย่างรับผิดชอบ และลดผลกระทบแก่สังคมและสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
จึงเป็นที่มาของกรอบการทำงาน 3 R’s ประกอบไปด้วย Reduce ลดปริมาณการใช้น้ำในการผลิตและโรงงานทุกแห่งให้ได้ร้อยละ 25 ภายในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2553 Recycle บำบัดน้ำจากกระบวนการผลิตจนได้น้ำสะอาดในระดับที่สัตว์น้ำสามารถอาศัยอยู่ได้ และนำน้ำส่วนหนึ่งกลับมาใช้ในกิจกรรมอื่นๆ ในโรงงานที่ไม่ได้เกี่ยวกับการผลิต ซึ่งกิจกรรมสองส่วนนี้เป็นกิจกรรมภายในองค์กรที่ผู้บริหารและพนักงานทุกคนมีส่วนร่วม โดยไทยน้ำทิพย์ได้ปลูกฝังจิตสำนึกการดำเนินธุรกิจและอยู่ในสังคมอย่างรับผิดชอบแก่พนักงานทุกคน ด้วยความคิดที่ว่าบริษัทฯ จะคำนึงถึงความสำเร็จทางตัวเลขเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะชุมชนคือผู้ที่จะตัดสินและยอมรับในบริษัทฯ
นอกเหนือจากการลดการใช้น้ำและนำน้ำกลับมาใช้แล้ว ไทยน้ำทิพย์ ร่วมกับโคคา-โคลา ประเทศไทย และหาดทิพย์ คืนน้ำกลับสู่ชุมชนและธรรมชาติ ในปริมาณที่เทียบเท่ากับที่ใช้ในการผลิตเครื่องดื่ม หรือ Replenish ภายใต้โครงการ “รักน้ำ” โดยร่วมกับองค์กรไม่แสวงผลกำไร เข้าไปช่วยชุมชนต่างๆ บริหารจัดการน้ำ ซึ่งมีพื้นที่ดำเนินการในบริเวณที่เรานำน้ำจากแหล่งธรรมชาติมาใช้ในการผลิตเครื่องดื่ม ใน 6 จังหวัด คือ ลำปาง ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครสวรรค์ ปทุมธานี และสุราษฎร์ธานี โดยการแก้ปัญหาน้ำจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เน้นความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชน และให้พวกเขาเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ระบุปัญหา หาแนวทางแก้ไขร่วมกัน โดยอาศัยองค์ความรู้การแก้ปัญหาน้ำจากองค์กรที่มีความชำนาญ ไปจนถึงลงมือทำ และติดตามผลร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
ในวันนี้ที่โครงการรักน้ำเข้าสู่ปีที่ 10 ชุมชนต่างๆ ภายใต้โครงการรักน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เดินหน้าไปสู่ความยั่งยืน คือมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และแม้จะมีความท้าทายเข้ามา เช่น ปัญหาน้ำแล้งและน้ำหลากที่ในระยะหลังเกิดขึ้นทุกปี แต่ชุมชนเหล่านั้นก็สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ได้อย่างพอเพียง
โครงการรักน้ำเป็นหนึ่งในตัวอย่างการทำงานที่มีความเชื่อมโยงระหว่าง product license, license to operate และ license to grow ภายใต้สามเหลี่ยมความร่วมมือสู่ความยั่งยืน เพื่อใช้ความชำนาญที่ไม่มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งมีครบและสมบูรณ์ แต่เมื่อนำมาผสานกัน ก็สามารถร่วมกันแก้ปัญหาได้
หากว่าองค์กรต่างๆ รู้จุดแข็งที่จะสามารถนำไปช่วยเปลี่ยนปัญหาหรือความท้าทายในสังคมให้เป็นโอกาสได้ สังคมไทยก็จะพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนด้วยจิ๊กซอว์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง
พรวุฒิ สารสิน  ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด
“เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจจะอยู่ได้อย่างยั่งยืนนั้น การมี product license เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แม้ผลิตภัณฑ์จะได้รับความนิยมมากเพียงใด”
กำลังโหลดความคิดเห็น