xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนรวมธรรมาภิบาล ลงทุนหุ้นคัดได้ดี 2 เด้ง / ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ใครที่กำลังหาช่องทาง “ให้เงินทำงาน” หารายได้ดีกว่าฝากธนาคาร ซึ่งได้ดอกเบี้ยในอัตราต่ำมาก
การจัดตั้งและเตรียมเปิดขาย “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” นับเป็นปรากฏการณ์เด่นในวงการตลาดทุนไทยที่มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) 11 แห่ง ประกอบด้วย บลจ.กรุงไทย บลจ.กรุงศรี บลจ.ทหารไทย
บมจ.ทาลิส บลจ.ทิสโก้ บลจ.ไทยพาณิชย์ บลจ.บัวหลวง บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) บลจ.กสิกรไทย บลจ.เอ็มเอฟซีและบลจ.บางกอกแคปปิตอล โดยทั้งหมดจะเริ่มเปิดขายกองทุนช่วงเดือนสิงหาคมหรือกันยายนเป็นต้นไป

11 บลจ.ชั้นนำซึ่งมีขนาดกองทุนรวมภายใต้การบริหารกว่า 90% ของตลาดพร้อมใจกันจัดตั้ง “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” โดยแบ่งค่าธรรมเนียมการจัดการ 40% เพื่อบริจาคให้หน่อยงานส่งเสริมธรรมาภิบาลและต่อต้านคอร์รัปชัน แถลงเปิดตัวโครงการเมื่อเร็วๆ นี้ ณ หอประชุมอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้ นำขบวนโดย วรวรรณ ธาราภูมิ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย พร้อมด้วยหมวกอีกใบเป็นนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนได้ชี้แจงความน่าสนใจของนโยบายนำเงินที่ระดมได้ไปลงทุนในหุ้นบจ.หรือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอหรือตลาดรองอื่นในตลาดหลักทรัพย์ฯ
(1)การเลือกลงทุนในหุ้นจะต้องเป็นกิจการที่บริหารด้วยหลักธรรมาภิบาลหรือการกำกับดูแลกิจการที่ดีหรือเรียกว่า CG (Corporate Governance) และเป็นหุ้นที่ประเมินจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ได้คะแนน CG ระดับ 4 ดาวขึ้นไป
(2)เป็นบริษัทที่ได้รับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (CAC)
ในเบื้องต้นขณะนี้มีหลักทรัพย์ที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองมีคุณสมบัติหลักว่า มีธรรมาภิบาล (CG) คือบริหารกิจการด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดหลักถูกต้องและคุณค่า มีความเป็นธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งขณะนี้พร้อมร่วมขบวนประมาณกว่า 100 หลักทรัพย์
แต่นโยบายการลงทุนของแต่ละบลจ.อาจแตกต่างกัน ดังนั้น ก็อาจไม่เลือกซื้อหุ้นทั้งหมดที่ผ่านการคัดกรองแล้วก็ได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าได้เลือกลงทุนในหุ้นตัวใดแล้ว เกิดมีปัญหาบิดเบี้ยวไปจนถูกตัดคะแนน CG บลจ.กลุ่มนี้ก็จะประชุมกันภายใน เพื่อตัดสินใจหยุดลงทุนในหุ้นตัวที่มีปัญหาทันที
จุดเด่นที่เข้าหลัก “การลงทุนเพื่อสังคม” ของ “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” ก็คือ มิใช่การมุ่งผลตอบแทนทางการเงินจากการลงทุน ซึ่งบลจ.ย่อมต้องใช้ฝีมือในการบริหารจัดการเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าธรรมเนียมจัดการลงทุนที่บลจ.จะได้ค่าจัดการประมาณ 1.5% นั้น บลจ. 11 บริษัทเหล่านี้จะแบ่งรายได้ค่าธรรมเนียมออกมา 40% เพื่อบริจาคให้กับหน่วยงานที่ส่งเสริมการทำธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาลหรือ CG
ขณะเดียวกัน ก็พร้อมบริจาคให้หน่วยงานที่ส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชัน
ทั้งนี้ โดยมีคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนของกลุ่ม 11 บลจ. รวมกันกำหนดหลักเกณฑ์ในการลงทุน และมีคณะกรรมการอีกชุดพิจารณาหลักเกณฑ์การบริจาคให้กับโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุน รวมทั้งยังมีการติดตามประเมินผลงานอีกด้วย
เรียกว่า “ผู้ลงทุนในหุ้นชั้นดีผ่านกองทุนรวมประเภทนี้” นอกจากส่งเสริมบจ.ใฝ่ดีแล้ว เพื่อผลประกอบการที่ดีและมั่นคงระยะยาว ยังเท่ากับได้ร่วมสนับสนุนบลจ.ในการบริจาคส่งเสริมหน่วยงานธรรมาภิบาลและต่อต้านการโกง

ข้อคิด...
ปรากฏการณ์นี้นับเป็นกระแสที่ดีของสังคมตลาดทุนของไทยที่จะช่วยถ่วงดุลข่าวฉาวในวงการตลาดหุ้น จนก.ล.ต.ยุคนี้ๆได้ออกแรงจัดการลงโทษผู้บริหารบจ. ขาดจริยธรรมให้สังคมธุรกิจได้แยกแยะถูกผิดและเห็นผลของกฎแห่งกรรม
เป็นเรื่องน่าคิดที่รู้กันอยู่ว่านักเล่นหุ้นที่หวังผลรวยลัด รวดเร็ว ก็ต้องเผชิญกับความผันผวน หรือเทคนิคการสร้างข่าว ปั่นราคา จนมีคนบาดเจ็บ ติดดอยกันมาทุกยุค
แต่ ณ พ.ศ.นี้ มีผลการศึกษาของสถาบันไทยพัฒน์ พบว่า ผลตอบแทนการลงทุนที่ยั่งยืนก็สอดคล้องกับแนวทางนี้ โดยพบว่า จากข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี หุ้นในกลุ่ม ESG 100 จะให้ผลตอบแทนถึง 2.36% ขณะที่ดัชนี SET ให้ผลตอบแทน 63% ดัชนี SET ให้ผลตอบแทน 53% และหุ้นในดัชนี SET 50 ให้ผลตอบแทน 48%
คราวนี้มาดูที่ “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” ซึ่งเน้นการเลือกหุ้นที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ CG หรือตัว G ใน ESG และปัจจัยหลัก หากบริหารกิจการด้วยหลักธรรมาภิบาล (G) หรือมี Good Governance ก็จะมีแนวโน้มให้มีหลัก E และS ดีไปด้วย
ยิ่งผู้บริหารบลจ.ใจดี แบ่งธรรมเนียมการจัดการกองทุนให้ 40% ไปบริจาคส่งเสริมการมีธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชัน ผู้ลงทุนจึงเท่ากับสร้างกุศลด้วย
suwatmgr@gmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น