เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ปั้นนักออกแบบรุ่นใหม่ ตอบโจทย์เชิงพาณิชย์ ใช้-ขายได้จริง

เพราะบรรจุภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้มีประโยชน์เพียงเพื่อรองรับการบรรจุ หรือขนส่งผลิตภัณฑ์ไปถึงมือผู้บริโภคอย่างปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังต้องเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสม มีความสวยงามที่ดึงดูดใจลูกค้า และสื่อถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ดังนั้น การออกแบบที่ดี จึงเป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ที่ไม่อาจมองข้ามไปได้


กิจกรรมประกวดออกแบบบรรจุภัณฑ์รอบชิงชนะเลิศของโครงการ“SCG Packaging x Wallpaper* The Challenge 2017”ภายใต้แนวคิด “ความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นจริง” โดยคัดสรรผลงานที่ดีที่สุด 12 ผลงาน จากกว่า 326 ผลงานของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศที่เข้าร่วมประกวดมาตัดสินกัน (เมื่อวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2560) ณ อาคารอเนกประสงค์ เอสซีจี สำนักงานใหญ่บางซื่อ
และผลการประกวดสุดยอดนักออกแบบบรรจุภัณฑ์รุ่นใหม่ในโครงการ “SCG Packaging x Wallpaper The Challenge 2017” ซึ่งตอบโจทย์ผู้ผลิตสินค้าจริง 4 โจทย์ ได้แก่ การออกแบบบรรจุภัณฑ์บรรจุสินค้าและบรรจุภัณฑ์สำหรับขนส่งที่ปรับเป็น Display ได้ ให้กับซอสภูเขาทอง (ฝาเขียว) และซอสพริกตราศรีราชาพานิช การออกแบบโลโก้ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้กับข้าวและน้ำแกงสำเร็จรูปตรารอยไทย เรดี้ สุดท้าย คือการตั้งชื่อแบรนด์ ออกแบบโลโก้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์กล่อง UHT ให้กับเครื่องดื่มน้ำหัวปลี
รางวัล The Best of The Challenge ประจำปี 2017
โจทย์ที่ 1 ซอสภูเขาทอง (ฝาเขียว) ผลงาน : Mountain of Tastes โดยนายนิธิธัช พันธุรังษี จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
โจทย์ที่ 2 ซอสพริกตราศรีราชาพานิช จากผลงาน : พลิกพริกกะกระเทียม โดยนางสาวพิมพ์มาดา นิยมรัก
โจทย์ที่ 3 รอยไทย เรดี้ จากผลงาน : Originality โดยนางสาวภัทราวิญญ์ วิญญพงศ์พันธ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โจทย์ที่ 4 เครื่องดื่มน้ำนมหัวปลี ผลงาน : Enmilk For Mom โดยนางสาวธนาภรณ์ กุศลมโนมัย จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนรางวัล The Popular Challenge ผลงาน : Roi Thai Ready โดยนายจักรกฤษ บูรณคุณามณี จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม

ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศ The Best of The Challenge จากแต่ละโจทย์ จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ50,000 บาท และโอกาสในการเดินทางไปร่วมงาน Dutch Design Week ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเปิดประสบการณ์ด้านการออกแบบ พร้อมโล่และเกียรติบัตร ส่วนผู้ที่ได้คะแนนรองลงมาของแต่ละโจทย์ รับทุนการศึกษารางวัลละ 30,000 บาท นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเพิ่มรางวัลพิเศษจากผู้ผลิตสินค้าเป็นทุนการศึกษารางวัลละ 15,000 บาทให้กับผู้ที่ได้คะแนนลำดับที่ 3 ของแต่ละโจทย์ รวมทั้งยังมอบรางวัล The Popular Challenge เป็นทุนการศึกษา 10,000 บาทอีกด้วย สรุปมูลค่ารางวัลทั้งสิ้นกว่า 1,000,000 บาท
ผู้ชนะบอกเป็นเสียงเดียว: ได้โอกาสและประสบการณ์
สำหรับบรรยากาศสุดประทับใจในช่วงของการประกาศผล น้องๆ ผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย รวมทั้งเพื่อนๆ ที่เข้ารอบ 24 คนสุดท้ายที่มาร่วมเอาใจช่วย และผู้เข้าร่วมงานต่างได้ลุ้นไปพร้อม ๆ กัน จนเมื่อการประกาศผลเสร็จสิ้น ก็ได้มีการถ่ายภาพหมู่แห่งความประทับใจของน้องๆ ร่วมกับเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้วยบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขมาลองฟัง 2 ใน 4 ของผู้ชนะเลิศที่ได้รับรางวัล The Best of Challenge พูดถึงประสบการณ์ในการเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้
นิธิธัช พันธุรังษี จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้ชนะเลิศจากโจทย์ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้กับซอสภูเขาทอง(ฝาเขียว) เผยความรู้สึกหลังได้รับรางวัลว่า“ดีใจอย่างคาดไม่ถึงเลยครับเพราะเหตุผลที่ผลมาสมัครเข้าประกวดงานนี้ แค่อยากจะนำความรู้ที่ได้เรียนมาใช้จริงกับงานของบริษัทใหญ่ และอยากเจอเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ได้รับกลับเหนือความคาดหมายไปมาก นอกจากรางวัลที่ได้แล้ว การเข้าร่วมประกวดครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับผม เพราะเหมือนได้มาเติมความรู้เรื่องการตลาดกลับไปทำให้งานดีขึ้นและทำให้ผมได้ชัดเจนกับตัวเองมากขึ้นว่าในอนาคตอยากจะเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างแน่นอน”
สำหรับผลงานการออกแบบของนิธิธัช มาในแนวคิด “Mountain of Tastes” หรือภูเขาแห่งความอร่อย เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ทำอาหารเองน้อยลง และลบภาพเก่าของผลิตภัณฑ์ที่คนส่วนใหญ่คิดว่าสามารถใช้ทำได้แค่การผัดอาหาร ด้วยการปรับโฉมขวดให้เทใช้งานได้ง่ายมี QR code ข้างขวดให้สามารถติดตามเมนูอาหารหรือแชร์ภาพร่วมสนุกได้ส่วนรูปลักษณ์ของการออกแบบก็สื่อสารได้เป็นอย่างดีว่าภูเขาแห่งความอร่อยนั้นมาจากนานาเมนูที่ซอสนี้สามารถเพิ่มรสชาติให้ได้ ต่อเนื่องจนถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ร้านค้าสามารถใช้สื่อสารกับลูกค้าไปในทางเดียวกัน และเพิ่มโอกาสทางการขายได้เป็นอย่างดี

ในอีกมุม ธนาภรณ์ กุศลมโนมัย จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของรางวัลชนะเลิศจากโจทย์ตั้งชื่อแบรนด์ ออกแบบโลโก้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้กับเครื่องดื่มน้ำหัวปลี เครื่องดื่มบำรุงสำหรับสตรีเพื่อผลิตน้ำนมให้กับบุตรซึ่งจะถูกพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของกลุ่มบริษัทอำพลฟูดส์นั้นเธอตั้งชื่อผลิตภัณฑ์นี้ว่า ENMILK for MOM (เอ็นมิลค์ ฟอร์ มัม) ที่สื่อถึงการบำรุงร่างกายของคุณแม่ให้พร้อมกับการให้นมบุตร ขณะเดียวกันบุตรก็จะได้รับสารอาหารที่ดีจากนมแม่เช่นกัน ผสานกับโลโก้ที่พัฒนารูปทรงของหัวปลี อ้อมอกแม่ และหยดน้ำนมเข้าด้วยกันในโทนสีชมพู ขาว ที่มีความสวยงาม แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า เพราะเธอได้ทำการสืบค้นข้อมูลก่อนการออกแบบว่าคุณแม่สมัยใหม่นิยมศึกษาหาข้อมูลของสินค้าที่ตนจะซื้อใช้อย่างละเอียด และต้องการสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือนั่นเอง
ธนาภรณ์ บอกว่าที่เลือกทำโจทย์นี้เพราะเป็นงานเชิงเร้าอารมณ์ (emotional) ที่ตนถนัด และมีความท้าทาย ก่อนกล่าวปิดท้ายว่า “ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่สร้างเวทีนี้ขึ้นมา ถือเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากสำหรับหนูเพราะในเมืองไทยยังไม่ค่อยมีเวทีที่เปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่อย่างเราได้ลองออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับการขายได้จริงและการเปิดโอกาสให้ได้นำเสนอผลงานบนเวทีที่เสมือนการฝึกให้เราได้โน้มน้าวใจนักลงทุนแบบนี้ก็ตรงกับความสนใจในธุรกิจแนวสตาร์ตอัพของหนูอยู่ด้วยค่ะ”

มุ่งมั่นพัฒนาวงการการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของไทย
ธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง กล่าวว่า “เอสซีจี แพคเกจจิ้ง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มคุณค่าสินค้าด้วยบรรจุภัณฑ์ที่มีการออกแบบ ทั้งรูปทรง ฟังก์ชั่น และกราฟฟิกสวยงามและสร้างความผูกผันเป็นที่จดจำในลูกค้าให้มีความโดดเด่นและแตกต่าง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำตลาดและแข่งขันในเชิงธุรกิจ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดโครงการ “SCG Packaging x Wallpaper The Challenge 2017” ขึ้น เพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการออกแบบ อีกทั้งยังได้รับการเพิ่มพูนความรู้ทางด้านการตลาด การผลิตในเชิงอุตสาหกรรม และเข้าใจหลักการออกแบบเชิงพาณิชย์ที่จับต้องได้ ผลิตได้ และขายได้จริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีเยาวชนสนใจส่งผลงานที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์เข้าร่วมการประกวดครั้งนี้อย่างคับคั่ง โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้วงการบรรจุภัณฑ์ของไทยมีศักยภาพเทียบเท่าระดับโลก ตลอดจนนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการประกวดกลับมาพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าและอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของประเทศเราต่อไป”
“เอสซีจี แพคเกจจิ้ง มุ่งมั่นจัดกิจกรรมเพิ่อสร้างคุณค่าและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของไทย ให้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมของบรรจุภัณฑ์ให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ นำมาซึ่งการยกระดับเศรษฐกิจตลอดจนสังคมให้แข็งแรงอย่างยั่งยืนต่อไป”
ด้าน เรวัติ ชำนาญ บรรณาธิการบริหารนิตยสารวอลเปเปอร์ ฉบับภาษาไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดโครงการ SCG Packaging x Wallpaper The Challenge 2017 ผ่านโจทย์การออกแบบสุดท้าทาย 4 โจทย์ จากผู้ประกอบการชั้นนำอย่าง บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัทอำพลฟูดส์ ที่พร้อมจะนำแนวคิดบรรจุภัณฑ์ที่ได้จากการประกวดไปผลิตออกสู่ตลาดจริง ในครั้งนี้มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดกว่า 326 ผลงาน จาก 18 สถาบันการศึกษา ทำให้คณะกรรมการซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ต้องร่วมกันคัดเลือกผลงานกันอย่างเข้มข้นจนได้ผลผู้ชนะเลิส The Best of The Challenge 4 รางวัล รับทุนการศึกษารางวัลละ 50,000 บาท และโอกาสในการเดินทางไปร่วมงาน Dutch Design Week ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมโล่และเกียรติบัตร ส่วนรางวัล Runner - 4 รางวัล ซึ่งเป็นผู้ได้คะแนนรองลงมาของแต่ละโจทย์ รับทุนการศึกษารางวัลละ 30,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร รวมทั้งยังมอบรางวัล The Popular Challenge อีก 1 รางวัล เป็นทุนการศึกษา 10,000 บาท ด้วย ซึ่งรางวัลมีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท”