กระทรวงสาธารณสุข เตรียมผนึกกำลังรวมศาสตร์อาเซียน รักษาภูมิปัญญาบรรพบุรุษไม่ให้สูญหาย
ร่วมกับ 9 ประเทศภูมิภาคอาเซียน จัดงานมหกรรมสุขภาพอาเซียน เมื่อวันที่ 14-19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี
ถือได้ว่ารวมหมอยาพื้นบ้านทั่วอาเซียนมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การรักษาดูแลสุขภาพที่หลากหลายเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นประธานเปิดงาน มหกรรมสุขภาพอาเซียน กล่าวว่า "การแพทย์แผนไทยเป็นการแพทย์ประจำชาติของคนไทย ที่มีการสั่งสมความรู้มาอย่างยาวนาน ซึ่งทั่วโลกมีไม่กี่ประเทศที่จะมีศาสตร์การดูแลสุขภาพเป็นของตนเอง และนำทรัพยากรที่มีในท้องถิ่น อย่างเช่น สมุนไพร มาใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาและฟื้นฟูสุขสภาพ ในแต่ละชุมชนจะมีหมอพื้นบ้านที่เป็นศูนย์กลางในการดูแลสุขภาพของชุมชน และนอกจากประเทศไทย ประเทศในภูมิภาคอาเซียนส่วนใหญ่ก็มีการแพทย์ดั้งเดิม ใช้ดูแลสุขภาพมาก่อนการแพทย์แผนตะวันตก โดยการแพทย์ดั้งเดิม ในภูมิภาคอาเซียนล้วนมีที่มาร่วมกัน ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ระหว่างประเทศจีนและอินเดียที่มีวัฒนธรรมการดูแลสุขภาพที่ฝังรากลึกมายาวนาน และมีทรัพยากรทางธรรมชาติร่วมกัน"
ด้าน นายแพทย์สุเทพ วัชรปิยานันทน์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า "การจัดงานในครั้งนี้ สามารถรวบรวมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการแพทย์ดั้งเดิมในประเทศอาเซียน โดยเป็นการระดมหมอยาพื้นบ้านที่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญในการรักษาด้วยศาสตร์เฉพาะของตนจากทั่วภูมิภาคอาเซียน อันจะนำมาใช้ในการพัฒนากาาดูแลสุขภาพของประชาชน พัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้"
อีกทั้งยังจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์การเป็นผู้นำด้านการแพทย์ดั้งเดิมในอาเซียน งานจัดขึ้นระหว่าง โดยได้เชิญเครือข่ายหมอพื้นบ้านอาเซียน 7 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ และไทย และจากเอเชียใต้ ได้แก่ อินเดียศรีลังกา รวมทั้งสิ้น 42 คน และมีผู้สังเกตการณ์ชาวไทย 60 คน
ขณะที่ นายแพทย์จรัญ บุญฤทธิการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวเสริมว่า ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ ในมิติ “ ส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู” นิทรรศการครัวอาเซียน ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมการกิน อาหารเป็นยา โดยในส่วนนี้จะมีการจัดแสดง และให้ชิมอาหารอาเซียนด้วย เช่น เทมเป้ ผักจ๊อก จามู เมี่ยงคำ และยำใบชา เป็นต้น
พร้อมชมการสาธิตเมนูจากสมุนไพรที่ใช้ในอาเซียน เช่น เมนูจากรางจืด-ราชายาแก้พิษ เมนูจากบัวบก-บำรุงสมอง เมนูจากขมิ้นชัน-ป้องกันมะเร็ง เมนูจากเพชรสังฆาต-บำรุงกระดูก นอกจากนี้ยังมีโซนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแพทย์พื้นบ้านอาเซียน เช่น การแพทย์เหนือธรรมชาติ ที่เกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมต่างๆ การแพทย์เชิงระบบ โดยมีการใช้ทฤษฎีธาตุ การดูแลกระดูกและกล้ามเนื้อ การนวดรักษา การแพทย์ประสบการณ์ พบการรักษาของหมอพื้นบ้าน ในหลากหลายรูปแบบ และการดูแลหลังคลอด ของอาเซียน รวมถึงการจัดแสดงสมุนไพรที่ใช้ร่วมกันในสวนสมุนไพรอาเซียน
ทั้งนี้ ยังได้เตรียมหารือร่วมกันในเครือข่ายประเทศอาเซียนถึงการอนุรักษ์ภูมิปัญญา โดยการรวมพลังในการขึ้นทะเบียน สมุนไพร และภูมิปัญญา ร่วมกันเพื่อผนึกกำลังร่วมอนุรักษ์ ไม่ให้ภูมิปัญญาบรรพบุรุษสูญหายไปไหน