“ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่” รุกโซล่าร์ฟาร์มญี่ปุ่นเต็มตัว ตั้งเป้ากำลังผลิตไฟฟ้าแตะ 100 เมกะวัตต์ภายในปี 2562 จ่อคิว COD อีกหลายโรง พร้อมเดินหน้าคว้าโรงไฟฟ้าโซล่าร์อีกปีละ 40-60 MW
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเน้นเข้าลงทุนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซล่าร์ฟาร์ม ในประเทศญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะเข้าลงทุนโซล่าร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นปีละ 40-60 เมกะวัตต์ โดยในปัจจุบันบริษัทมีใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้า PPA แล้ว 40 เมกะวัตต์ จำนวน 9 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 17 เมกะวัตต์
ภายในปีนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ได้อีก 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 3.24 เมกะวัตต์ จากในปัจจุบันที่ COD ไปแล้ว 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 5.24 เมกะวัตต์ และจะสามารถ COD ได้อีกหนึ่งโครงการในปี 2561 กำลังการผลิต 13.50 เมกะวัตต์ ทำให้คาดว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นจะแตะที่ระดับ 100 เมกะวัตต์ภายในปี 2562
ขณะที่แผนขยายการลงทุนในประเทศบริษัทอยู่ในระหว่างติดตามนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากคณะกรรมการกำกับพลังงาน หรือ กกพ. ซึ่งหากทางกกพ.มีประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมบริษัทก็มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการเพื่อขยายโครงการโซล่าร์ฟาร์มในประเทศเพิ่มเติม จากในปัจจุบันบริษัทมีโครงการโซล่าร์ฟาร์ม และโซล่าร์รูฟท็อปรวมทั้งหมด 26 โครงการ กำลังการผลิตรวมเกือบ 100 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโซล่าร์ฟาร์ม 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 85.5 เมกะวตต์
ทั้งนี้ ล่าสุดได้ COD โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรสวนมะพร้าว อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ได้ทันตามกำหนดเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา และมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา หรือโซล่าร์รูฟท็อป จำนวน 14 โครงการ กำลังการผลิต 14 เมกะวัตต์
“ปีหน้าเราจะเน้นการลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยในประเทศจะมีการลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โรง กำลังการผลิตรวม 22.2 เมกะวัตต์ รวมถึงบริษัทมีความพร้อมที่เข้าลงทุนโซล่าร์ฟาร์เพิ่มเติมทั้งในส่วนของโครงการจากทางภาครัฐที่เราอยู่ในระหว่างติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงโครงการของภาคเอกชนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศ ส่วนการลงทุนในต่างประเทศนั้นบริษัทเน้นการลงทุนโซล่าร์ฟาร์มในญี่ปุ่น โดยเราเห็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหลายโครงการ รวมถึงปัจจุบันก็มีบางโครงการที่อยู่ในระหว่างเจรจาซึ่งก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง” ดร.แคทลีน กล่าว
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเน้นเข้าลงทุนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซล่าร์ฟาร์ม ในประเทศญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะเข้าลงทุนโซล่าร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นปีละ 40-60 เมกะวัตต์ โดยในปัจจุบันบริษัทมีใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้า PPA แล้ว 40 เมกะวัตต์ จำนวน 9 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 17 เมกะวัตต์
ภายในปีนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ได้อีก 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 3.24 เมกะวัตต์ จากในปัจจุบันที่ COD ไปแล้ว 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 5.24 เมกะวัตต์ และจะสามารถ COD ได้อีกหนึ่งโครงการในปี 2561 กำลังการผลิต 13.50 เมกะวัตต์ ทำให้คาดว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นจะแตะที่ระดับ 100 เมกะวัตต์ภายในปี 2562
ขณะที่แผนขยายการลงทุนในประเทศบริษัทอยู่ในระหว่างติดตามนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากคณะกรรมการกำกับพลังงาน หรือ กกพ. ซึ่งหากทางกกพ.มีประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมบริษัทก็มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการเพื่อขยายโครงการโซล่าร์ฟาร์มในประเทศเพิ่มเติม จากในปัจจุบันบริษัทมีโครงการโซล่าร์ฟาร์ม และโซล่าร์รูฟท็อปรวมทั้งหมด 26 โครงการ กำลังการผลิตรวมเกือบ 100 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโซล่าร์ฟาร์ม 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 85.5 เมกะวตต์
ทั้งนี้ ล่าสุดได้ COD โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรสวนมะพร้าว อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ได้ทันตามกำหนดเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา และมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา หรือโซล่าร์รูฟท็อป จำนวน 14 โครงการ กำลังการผลิต 14 เมกะวัตต์
“ปีหน้าเราจะเน้นการลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยในประเทศจะมีการลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โรง กำลังการผลิตรวม 22.2 เมกะวัตต์ รวมถึงบริษัทมีความพร้อมที่เข้าลงทุนโซล่าร์ฟาร์เพิ่มเติมทั้งในส่วนของโครงการจากทางภาครัฐที่เราอยู่ในระหว่างติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงโครงการของภาคเอกชนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศ ส่วนการลงทุนในต่างประเทศนั้นบริษัทเน้นการลงทุนโซล่าร์ฟาร์มในญี่ปุ่น โดยเราเห็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหลายโครงการ รวมถึงปัจจุบันก็มีบางโครงการที่อยู่ในระหว่างเจรจาซึ่งก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง” ดร.แคทลีน กล่าว