xs
xsm
sm
md
lg

น้อมนำ มอบโอกาสทางการศึกษาที่ยั่งยืน มูลนิธิเอสซีจี รวมพลังจิตอาสาสร้างอาคารเรียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สังคมและบ้านเมืองใด ให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วนพอเหมาะกันทุกๆด้าน สังคมและบ้านเมืองนั้น ก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถธำรงรักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้โดยตลอด” พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนที่ได้รับพระราชทานรางวัลฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2524


การออกค่ายอาสาสร้างอาคารเรียน เป็นกิจกรรมที่มูลนิธิเอสซีจีได้ร่วมกับเพื่อนพนักงานเอสซีจี จิตอาสาทั้งชายและหญิงออกเดินทางไปทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ก่อสร้างอาคารเรียนให้แก่น้องๆ ที่ขาดแคลนในถิ่นทุรกันดารเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 หลัง เพื่อขยายโอกาสและสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ให้เด็กๆ ได้เติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไป
เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาให้เด็กๆ ได้มีสถานที่เรียนรู้ที่พอเพียงมากยิ่งขึ้น ในปี 2559 มูลนิธิฯ จึงได้เพิ่มจำนวนการออกค่ายเป็น 2 ครั้ง โดยจุดหมายของการออกค่ายอาสาก่อสร้างอาคารเรียนหลังที่ 36 นี้คือ โรงเรียนบ้านหนองหว้า ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โรงเรียนขนาดกลางที่ซ่อนตัวอยู่กลางไร่อ้อย ถนนหนทางยังเป็นลูกรังดินแดง เปิดสอนในระดับชั้นประถมศึกษา มีจำนวนนักเรียนชายหญิงรวม 120 คน แต่มีอาคารเรียนเพียง 2 หลัง เป็นอาคารชั้นเดียว จึงไม่เพียงพอต่อการการจัดกิจกรรมและจัดการเรียนการสอน มูลนิธิเอสซีจีและจิตอาสาจึงได้ผนึกกำลังก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ขนาด 7 x 36 เมตร จำนวน 4 ห้องเรียน มุ่งหวังให้อาคารหลังนี้เป็นแหล่งศึกษาเล่าเรียน และพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษา เพื่อมอบเป็นของขวัญอันมีค่าให้แก่น้องๆ ได้ใช้ศึกษาความรู้กันต่อไป ทั้งยังสร้างห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะ พร้อมอ่างล้างมือด้านนอกเพื่ออนามัยที่ดี รวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,300,000 บาท
ขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี
ขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี กล่าวในวันมอบอาคารเรียนว่า “ที่ผ่านมา เราได้ส่งมอบอาคารเรียนให้กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อเป็นประโยชน์ทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน โดยได้สร้างและมอบอาคารเรียนไปแล้ว 35 หลัง ห้องน้ำ 10 หลัง สำหรับในปี 2559 นี้ ได้รวมตัวจิตอาสาอีกครั้งเพื่อสร้างอาคารเรียนหลังที่ 2 เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนไทยให้มากขึ้น ด้วยตระหนักว่าการศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนามนุษย์ที่สำคัญยิ่ง เพราะเยาวชนคือกำลังอันยิ่งใหญ่ที่จะพัฒนาชาติไทยให้เจริญก้าวหน้า ผมในฐานะตัวแทนจากมูลนิธิเอสซีจีอยากเห็นเด็ก ๆ ทุกคนที่โรงเรียนบ้านหนองหว้า มีความสุขที่ได้เล่าเรียนในอาคารเรียนหลังใหม่นี้ และอยากเห็นเด็กๆ ที่นี่เติบโตเป็นคนเก่งและดีในวันหน้า
ดังพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ได้พระราชทานไว้ว่า “ความรู้นั้นสำคัญยิ่งใหญ่ เพราะเป็นปัจจัยให้เกิดความฉลาด สามารถ และความเจริญก้าวหน้า”
จากพื้นดินอันรกร้างว่างเปล่า ได้ถูกสรรค์สร้างเป็นอาคารเรียนหลังงาม ด้วยพลังแห่งจิตอาสา แม้สภาพอากาศที่ร้อนจัดในตอนกลางวัน และฝนฟ้าที่จะไม่เอื้ออำนวยต่อการก่อสร้างรวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน แต่ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นไม่ย่อท้อของคนค่าย งานทุกอย่างจึงสำเร็จไปได้ด้วยดี ด้วยความเสียสละอุทิศทุกหยาดเหงื่อ เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับน้องๆ เยาวชน และทุกคนในชุมชนบ้านหนองหว้า
ร่วมกันสร้างอาคารเรียนอย่างแข็งขัน
เด็กๆ ทดลองใช้ห้องน้ำ
ณัชชา ตัณฑชน พนักงานจิตอาสา
เด็กหญิงสุภัทรตรา บุญตะนัย ตัวแทนนักเรียนกล่าวแสดงความรู้สึก
นพรัตน์ ปิกหทัยวรนุช พนักงาน SCL Siam Cellulose co. Ltd คนหนุ่มหัวใจอาสาพูดถึงความรู้สึกที่มาร่วมออกค่ายว่า “ผมเรียนจบชั้นประถมจากโรงเรียนวัดธรรมดา นั่งเรียนในอาคารเรียนหลังเก่าที่มีสภาพทรุดโทรม โต๊ะเก้าอี้ชำรุด เป็นความทรงจำในวัยเรียนที่ไม่ดีนัก ผมจึงอยากมาออกค่ายอาสาร่วมสร้างอาคารเรียนให้น้องๆ เพื่อพวกเด็กๆ มีห้องเรียนใหม่ โต๊ะเรียนใหม่ ของเล่นใหม่ๆ เชื่อว่าน้องๆ จะมีแรงกระตุ้นในการอยากมาเรียน และเป็นการสร้างความทรงจำอันดีให้แก่พวกเขา แค่เห็นน้องมีความสุขกับสิ่งที่เราทำให้แค่นี้ ผมก็ดีใจมากแล้ว เพราะผมเชื่อว่าการสร้างโรงเรียนเท่ากับการสร้างคน ถึงแม้จะเป็นส่วนเล็กๆ ในการสร้างแต่เราก็ดีใจนะที่ได้มีส่วนร่วม เพราะอาคารเรียนหลังนี้จะเป็นสถานที่บ่มเพาะการศึกษาให้น้องๆเยาวชนในตำบลนี้ได้อีกหลายชั่วอายุคน”
เช่นเดียวกับ ณัชชา ตัณฑชน พนักงาน บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด จิตอาสาสาวได้กล่าวเสริมว่า “ค่ายนี้เราต้องลงแรงเยอะมาก ลงมือทำจริงเลย ต่างจากค่ายที่เคยทำที่มหาวิทยาลัย งานที่รับผิดชอบคือ งานสี ทาสีผนังและฝ้า ยากมากเพราะไม่เคยทำมาก่อน แต่เพื่อนๆ พี่ๆ ในค่ายทุกคนน่ารักมาก คอยสอนอย่างใจเย็น สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่คนพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ร้อน เหนื่อยแต่มีความสุข พอเห็นอาคารเรียนสร้างเสร็จตั้งตระหง่าน เราก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจเพราะมันมาจากน้ำพักน้ำแรงของเราเอง อยากให้น้องๆ ที่นี้ตั้งใจเรียนให้ความสำคัญกับการศึกษาให้สมกับความทุ่มเทของพวกเรา”
ในการมอบอาคารเรียนและห้องน้ำนี้ มูลนิธิฯ ยังมอบชุดครุภัณฑ์ ชั้นหนังสือ อุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียน และร่วมกับ เอสซีจี เคมิคอลส์ มอบสนามเด็กเล่นเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีทางด้านร่างกาย บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม (สระบุรี) จำกัด มอบธนาคารขยะให้แก่โรงเรียน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
ด้าน เด็กหญิง สุภัทรตรา บุญตะนัย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองหว้า กล่าวถึงความรู้สึกตื้นตันใจหลังจากเห็นอาคารเรียนหลังใหม่ว่า “หนูรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของมูลนิธิเอสซีจี และพี่ๆ จิตอาสาทุกคนที่เห็นความสำคัญเรื่องการศึกษาของเด็กต่างจังหวัดอย่างพวกหนู โดยการมาสร้างอาคารเรียน ห้องน้ำ รวมทั้งสนามเด็กเล่น และอาคารธนาคารขยะ ต้องบอกว่าดีใจมากที่พี่ๆ มามอบสิ่งดีๆ ให้พวกหนูมีโอกาสได้มีอาคารเรียนหลังสวยงามนี้ มีโต๊ะเรียนใหม่ หนูสัญญาว่าจะน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในด้านเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ให้คุ้มค่าที่สุด ให้สมกับความเหน็ดเนื่อยของพี่ๆ และจะดูแลรักษาสิ่งที่พี่ๆ มอบให้เป็นอย่างดี ขอบคุณมากค่ะ”
การให้โอกาสทางการศึกษา เป็นรากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน มูลนิธิเอสซีจีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาคารเรียนแห่งนี้จะเป็นสถานที่บ่มเพาะเด็กๆ ให้มีโอกาสได้พัฒนาเป็นเยาวชนที่รักการเรียนรู้ และเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของชุมชม สังคม และประเทศในอนาคตต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น