ปัจจุบันหมู่บ้านเสาหิน จ.สุโขทัย นำมูลสัตว์ เศษอาหารเหลือทิ้ง ผลิตไบโอแก๊สใช้หุงต้มแทนการใช้แก๊สปิโตรเลียม ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้อย่างดี และเป็นหมู่บ้านปลอดแก๊สปิโตรเลียมแห่งแรกของประเทศไทย
ชมัยภรณ์ ชื่นจิตร วัย 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านหญิง บ้านเสาหิน ม.9 ต.ป่าแฝก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ได้ติดตั้งถังหมักไบโอแก๊สจากมูลสัตว์ เพื่อใช้ในการหุงต้ม แทนการใช้แก๊สปิโตรเลียม หรือแก๊สถัง LPG โดยยึดแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังได้เตรียมต่อท่อแจกจ่ายไบโอแก๊ส ไปให้ลูกบ้านทั้ง 44 หลัง ในพื้นที่รับผิดชอบตั้งเป้าหมายเป็นหมู่บ้านปลอดแก๊สปิโตรเลียม 100% แห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
การดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากได้รับคำแนะนำจาก ดร.พิสิษฎ์ มณีโชติ หัวหน้าที่ปรึกษาโครงการพัฒนาพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อมชุมชน มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก รวมถึงการตรวจสอบอุปกรณ์ถังหมักแก๊สชีวภาพจากมูลสัตว์ ซึ่งทดลองติดตั้งไว้บริเวณหลังบ้านมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว พบว่าสามารถผลิตไบโอแก๊ส เพื่อใช้ในการหุงต้มได้อย่างต่อเนื่อง
ชมัยภรณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลูกบ้านส่วนใหญ่ซึ่งมีอาชีพเลี้ยงหมู มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นเหม็นของขี้หมู และของเสียจากฟาร์มเลี้ยงในพื้นที่ จนถึงขั้นมีการร้องเรียนเกิดขึ้น ตนในฐานะผู้นำชุมชนจึงได้นำปัญหาดังกล่าวไปปรึกษากับสนง.พลังงาน จ.สุโขทัย และโครงการหมู่บ้านบริหารจัดการด้านพลังงานทดแทนในฟาร์มเลี้ยงสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของชุมชน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงวิทย์ฯได้แนะนำให้นำขี้หมูที่มีปัญหาเหล่านี้ รวมถึงมูลของสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เช่น วัว ควาย หรือเศษอาหารที่เหลือทิ้งตามครัวเรือนไปทดลองหมักทำแก๊สชีวภาพ ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ก็สามารถผลิตไบโอแก๊ส ต่อท่อใช้สำหรับหุงต้ม ทดแทนการใช้แก๊สปิโตรเลียม หรือแก๊สถัง LPG ได้ สามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 20 บาทต่อครัวเรือน ไม่รวมค่าอุปกรณ์ติดตั้งประมาณ 15,000 บาท จึงเรียกประชุมลูกบ้านทั้งหมดจำนวน 44 หลังคาเรือน เพื่อรณรงค์ให้หันมาใช้ไบโอแก๊สแทน ขณะนี้ได้เดินท่อจากบ่อหมักหลังบ้านของตนไปยังลูกบ้านทุกหลังแล้ว ซึ่งจะถือว่าเป็นหมู่บ้านปลอดแก๊สปิโตรเลียม หรือแก๊สถัง LPG 100% แห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
