ขยะมูลฝอยที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนของประชากร และทุกคนล้วนเป็นผู้ก่อขยะที่อาจจะนึกไม่ถึงว่าบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทในปัจจุบันนั้นมีอัตราการรีไซเคิลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และขยะในหลุมฝังกลบ ยังพบด้วยว่าเหลือวัสดุรีไซเคิลเพียง 19.79% ซึ่งมีปริมาณลดลงจากข้อมูลในอดีตที่เคยอ้างอิงตัวเลขอยู่ที่ 42%
ตัวเลขบรรจุภัณฑ์นำไปรีไซเคิลสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
1.อะลูมิเนียม 99.98%
2.เหล็ก/โลหะ 99.81%
3.กระดาษ 75.22%
4.แก้ว 75.06%
5.พลาสติก 50.53%
เป็นผลการศึกษาอัตราการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ในไทยเป็นครั้งแรก (ในปี 2556) โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำโดยสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) ร่วมกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC)
นับเป็นผลสำเร็จของการพัฒนาระบบการจัดการวัสดุรีไซเคิล ที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมแก่สมาชิกและกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งรณรงค์และร่วมมือกันนำบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วกลับมารีไซเคิล
หากว่าตัวเราเอง (ทั้งที่เป็นองค์กร และครัวเรือน) มีแนวทางจัดการขยะกันตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งเป็นวิธีกำจัดขยะมูลอย่างถูกต้องและเหมาะสม ปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากขยะก็ยิ่งจะลดลงอย่างชัดเจน
