ในขณะนี้ อพท. กำลังเดินหน้าเพื่อปลุกปั้นเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยง สู่แหล่งท่องเที่ยวสีเขียวระดับเวิล์คคลาส พร้อมตั้งเป้าเติบโตอย่างยั่งยืน มีหลายโครงการฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นให้เป็นเมืองสีเขียวที่ได้มาตรฐานระดับ Green Leaf
ตามแผนปฏิบัติงานในแผนแม่บทพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง ซึ่ง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ตั้งเป้าหมายให้พื้นที่แห่งนี้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวนวัตกรรมสีเขียวระดับสากล หรือ The World Class Greenovative Tourism City เนื่องจากเมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวรู้จักมานาน ทำให้เมืองมีความเจริญรุดหน้าไปมากกว่าเดสติเนชั่นท่องเที่ยวอื่นๆ
“หากต้องมีการพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน ในที่นี้รวมถึงการพัฒนา เกาะล้าน จากที่เคยเติบโตอย่างไร้ทิศทาง ให้กลับมาสู่การฟื้นฟู และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสีเขียวที่มีมาตรฐานระดับ EarthCheck หรือ Green Leaf เราก็จำเป็นจะต้องนำนวัตกรรมมาช่วยสร้างสรรค์ให้เกิดความยั่งยืน หรือเรียกว่าใช้นวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยบำบัด หรือพัฒนาพื้นที่พิเศษแห่งนี้ให้ยกระดับขึ้นเพื่อความยั่งยืน” พันเอก ดร. นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) กล่าว
อพท.จึงกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนวัตกรรมสีเขียวระดับสากล เน้นการฟื้นฟู ดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ปกป้องสภาพสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตชุมชน ขนบธรรมเนียมท้องถิ่น เรียกว่าควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม
โดยแบ่งเป็นหลายโครงการย่อย ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ระยะ 8 ปี (พ.ศ. 2555-2562) รวมทั้งหมด 76 โครงการ เพื่อให้เมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงอีก 9 แห่ง ประกอบด้วยเทศบาลเมืองหนองปรือ เทศบาลบางละมุง เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย เทศบาลตำบลโป่ง เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน เขาชีจรรย์ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาไหล และองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว บรรลุวัตถุประสงค์ของการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Greenovative Tourism City ซึ่งกำหนดวิสัยทัศน์ “พัทยา เมืองน่าอยู่น่าท่องเที่ยวระดับโลกด้วยภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะเมืองแห่งนวัตกรรมสีเขียว”
ผู้อำนวยการ อพท. บอกว่าภาพลักษณ์ใหม่ของเมืองพัทยาที่จะเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมสีเขียว ย่อมจะต้องมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ มีการวางระบบการบริหารจัดการ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงข่ายเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงจากเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างเมืองพัทยาสู่เมืองท่องเที่ยวรองใน 9 พื้นที่ การนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวใหม่เพื่อเจาะนักท่องเที่ยวคุณภาพ เช่น กลุ่มครอบครัว และคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน
เมื่อเร็วๆ นี้ เทศบาลเมืองหนองปรือ 1 ใน 9 พื้นที่เชื่อมโยงเมืองพัทยา อพท. และชุมชนมุสลิม ได้ร่วมมือกันจัดสร้างมัสยิดนูรุ้ลยากีน บ้านเนินพลับหวาน จังหวัดชลบุรี โดยมี ฯพณฯ จุฬาราชมนตรี ดร. อาศิส พิทักษ์คุมพล มาเป็นประธานในพิธีวางศิลารากฐานอาคารมัสยิดแห่งนี้ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างพร้อมด้วยอาคารเอนกประสงค์ ที่นี่นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ อพท. บรรจุไว้ในแผนแม่บทพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง ใช้งบประมาณออกแบบและก่อสร้างประจำปีงบประมาณ 2556 ไว้ 60 ล้านบาท
ความสำคัญของมัสยิดนูรุ้ลยากีน ที่ทำให้ต้องสร้างอาคารขึ้นใหม่ เพราะเป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่ใกล้ชุมชน มีนักท่องเที่ยวมุสลิมต่างชาติ เช่น ชาวตะวันออกกลาง และชาวมุสลิมในชุมชน ได้ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ และยังเป็นที่ประกอบและจำหน่ายอาหารฮาลาล อพท. และ ชุมชน จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุง ฟื้นฟู มัสยิดนูรุ้ลยากีน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม รวมถึงเป็นที่ประกอบศาสนกิจ และศูนย์รวมอาหารฮาลาล เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มุ่งพัฒนา ในรูปแบบของการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะพี่น้องชาวมุสลิมบ้านเนินพลับหวาน
ถ้าเป็นผลสำเร็จของการพัฒนาตามยุทธศาสตร์นี้ก็จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้เมืองพัทยาสามารถรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 13 ล้านคน ซึ่งรองรับต่อการขยายตัวภายหลังเปิด AEC จากปัจจุบัน ขีดความสามารถของเมืองนี้รองรับได้ 10 ล้านคน โดยปี 2555 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเมืองพัทยาที่ 8.9 ล้านคน
ขณะที่ อิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เชื่อมั่นว่า จะช่วยเพิ่มศักยภาพการรองรับนักท่องเที่ยวให้เป็นปีละ 13 ล้านคน เพิ่มสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ขยายออกไปอีกใน 9 พื้นที่เชื่อมโยง ตอกย้ำความหลากหลายทางด้านสินค้าและบริการ รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นภายหลังเปิดประชาคมอาเซียน
อย่างไรก็ตาม การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในอีก 2 ปีข้างหน้า จะช่วยเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามายังเมืองพัทยาเพิ่มขึ้น เนื่องจากเมืองพัทยาจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวลำดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเลือกเดินทางมา ดังนั้น การเพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายถือเป็นเรื่องที่ดี