"อยู่บนพื้นฐานของธุรกิจที่ทำ ต่อยอดสู่การอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลและเป็นประโยชน์"
กว่า 2 ทศวรรษ ที่บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนหลักในธุรกิจผลิตไฟฟ้า พร้อมทั้งขยายการลงทุนไปยังธุรกิจด้านพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ครอบคลุมทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพบนหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ
เริ่มต้นจากธุรกิจ ต่อยอดสู่สังคมภายนอก
ด้วยความตั้งใจที่ระบุไว้ชัดเจนในวิสัยทัศน์ขององค์กรที่จะ “ธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” เอ็กโก กรุ๊ป ยึดหลักการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมแบบ inside-out นั่นคือ การทำ CSR ต้องอยู่บนพื้นฐานของธุรกิจที่องค์กรทำอยู่ เริ่มต้นจากภายในองค์กร จากนั้นจึงค่อยต่อยอดและขยายออกไปสู่สังคมภายนอก ครอบคลุมตั้งแต่การประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบ การดูแลพนักงาน ไปจนถึงการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนรอบโรงไฟฟ้า และการเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมในวงกว้าง
“เราให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงาน ซึ่งเปรียบเสมือนคนในบ้าน ต้องให้มีความมั่นคงในอาชีพ ทำงานอย่างมีความสุข รวมทั้งส่งเสริมให้พนักงานทำหน้าที่ของตนเองอย่างรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ สนับสนุนพนักงานให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดี ในส่วนของการดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นเพื่อนบ้าน เราเข้าไปช่วยเหลือ ให้ความรับผิดชอบดูแลชุมชนด้วยความเป็นมิตรและอยู่บนพื้นฐานของความจริงใจต่อกัน ในขณะเดียวกัน เรามุ่งหวังที่จะเป็นประโยชน์และมีคุณค่าต่อสังคมส่วนรวม บนพื้นฐานของศักยภาพและความรู้ความสามารถที่องค์กรมีอยู่” ดร.สกุล พจนารถ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่-สายงานกลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ เอ็กโก กรุ๊ป เล่าถึงหลักคิดในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม
วางแผนแม่บท กำหนดทิศทาง CSR
สำหรับแนวทางการดำเนินงานด้าน CSR เมื่อปีที่แล้ว เอ็กโก กรุ๊ป ได้จัดทำแผนแม่บทด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ประจำปี 2555-2558 ซึ่งจะใช้เป็นแผนงานหลักของการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และจะมีการจัดทำแผนงานระยะสั้นประจำทุกปี สำหรับแผนงานในปี 2556 เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงการเพื่อการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม ตามที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมุ่งเน้นการดำเนินโครงการที่พัฒนารากฐานหรือจุดเริ่มต้นเป็นสำคัญ โดยครอบคลุมการดำเนินงาน 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ การพัฒนา “คุณภาพชีวิตชุมชน” รอบโรงไฟฟ้า การส่งเสริมการเรียนรู้พลังงานและสิ่งแวดล้อมใน “เยาวชน” และการอนุรักษ์ “ป่าต้นน้ำ” และความหลากหลายทางชีวภาพ
ดร.สกุล ยังได้เล่าถึงแนวทางการดำเนินงานด้าน CSR ในปีนี้ว่า “ในส่วนของการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน เอ็กโก กรุ๊ป ได้แต่งตั้งคณะทำงานส่งเสริมการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนขึ้น ประกอบด้วยตัวแทนจากโรงไฟฟ้าต่างๆ ที่จะมาทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน โดยเฉพาะในประเด็นของการมีส่วนร่วมกับชุมชน และการสื่อสารกับชุมชนอย่างใกล้ชิด”
“นอกจากนี้ ด้านการส่งเสริมการเรียนรู้พลังงานและสิ่งแวดล้อม เอ็กโก กรุ๊ป กำลังเดินหน้าเรื่องการให้ความรู้เรื่องพลังงานไฟฟ้าสำหรับครูและเยาวชน ภายใต้แนวคิด “พลังงานเพื่อชีวิต ลดโลกร้อน ด้วยวิถีพอเพียง” ตามที่ได้มีบันทึกความร่วมมือกับ สนพ. สพฐ. และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย โดยมี 62 โรงเรียน ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ ในปีนี้เราคาดว่าน่าจะได้เห็นผลงานของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการในการจัดการเรียนรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซี่งเอ็กโก กรุ๊ป จะมอบแผงโซลาร์เซลล์ให้กับ 6 โรงเรียนที่มีผลงานโดดเด่นในปีนี้ พร้อมกันนี้ เรายังยินดีเปิดให้โรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโกเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานของท้องถิ่น และมีแผนงานที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในทุกภูมิภาคด้วย”
บทพิสูจน์แห่งความมุ่งมั่นในการ “ธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม”
บทพิสูจน์หนึ่งที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม “ธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” ดังที่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนในวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมขององค์กร ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา คือการที่เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับพิจารณาให้ได้รับรางวัลด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ในงาน SET Awards ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร ต่อเนื่อง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2555
ดร.สกุล ได้สะท้อนมุมมองต่อการที่เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับรางวัลดังกล่าวว่า สร้างผลดีต่อองค์กรใน 3 ด้าน คือ สร้างความภาคภูมิใจให้กับพนักงาน สร้างความเข้าใจกับสังคม และสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนาการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น
“การได้รับรางวัลต่างๆ ซึ่งแสดงถึงการยอมรับจากหน่วยงานภายนอก เป็นอีกหนึ่งกำลังใจและความภาคภูมิใจที่ช่วยตอกย้ำให้พนักงานได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานดังกล่าว และช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้พนักงานได้สนับสนุนและมีส่วนร่วมกับกิจกรรม CSR มากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดความเข้าใจอย่างเป็นรูปธรรมถึงการดำเนินการให้บรรุลผลตามวิสัยทัศน์ของเอ็กโก กรุ๊ป
นอกจากนี้ ยังนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจให้กับคนในสังคมถึงความมุ่งมั่นและพยายามของเอ็กโก กรุ๊ป ที่จะดำเนินกิจการด้านพลังงานอย่างสมดุลกับสิ่งแวดล้อมและสังคม และท้ายที่สุด ทำให้เอ็กโก กรุ๊ป เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทที่ให้ความสำคัญกับ CSR ส่งผลให้สามารถขยายเครือข่ายพันธมิตรและความร่วมมือ เพื่อพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้น เพราะมีการเผยแพร่ผลการดำเนินงานสู่สังคมในวงกว้าง ทำให้เครือข่ายต่างๆ รับทราบว่าบริษัทกำลังดำเนินการในเรื่องใดและจะสามารถร่วมมือกันในด้านใดได้บ้าง”
รางวัลต่างๆ เป็นเพียงกำลังใจและแรงผลักดันของการขับเคลื่อนให้องค์กรทำความดี หากแต่การพัฒนาอย่างยั่นยืนนั้น องค์กรต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เป็น CSR ในหน้าที่ทุกวัน ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ นำเสนอแนวปฎิบัติด้าน CSR ระหว่างบริษัทอื่นๆ และเครือข่ายหลากหลาย เพื่อนำไปพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นและขยายขอบเขตการทำงานไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น อันจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อส่วนรวมและประเทศชาติในที่สุด
ตัวอย่างโครงการ CSR ที่เอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินการในปัจจุบัน
ด้านการพัฒนา “คุณภาพชีวิตชุมชน” รอบโรงไฟฟ้า ได้แก่
โครงการ “สร้างบ้านใหม่ใต้ทะเล” ดำเนินการโดยโรงไฟฟ้าขนอม ในกลุ่มเอ็กโก นับเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา จนถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างแนวปะการังเทียมสำหรับฝูงปลานานาพันธุ์ โดยได้หย่อนตู้คอนเทนเนอร์ รวมทั้งสิ้น 119 ตู้ บริเวณชายฝั่งตำบลขนอม และตำบลท้องเนียน จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมกันนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังได้ร่วมมือกับภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประเมินผลสำเร็จของการสร้างบ้านปลาด้วยตู้คอนเทนเนอร์ โดยใช้ดัชนีชี้วัดทางระบบนิเวศและการใช้ประโยชน์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาการดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายในระยะต่อไป
ด้านการส่งเสริมการเรียนรู้พลังงานและสิ่งแวดล้อมใน “เยาวชน” ได้แก่
โครงการ “พลังงานเพื่อชีวิต ลดโลกร้อน ด้วยวิถีพอเพียง” เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “พลังงานเพื่อชีวิต ลดโลกร้อน ด้วยวิถีพอเพียง” โดยบูรณาการในแผนการเรียนรู้ของโรงเรียน เพื่อสร้างพลังแห่งการเรียนรู้ให้กับครู ให้เกิดเป็นเครือข่ายครูพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นพลังในการถ่ายทอดสู่เพื่อนครูด้วยกัน และที่สำคัญคือถ่ายทอดสู่เยาวชนทั้งในและนอกโรงเรียน ให้เป็นพลังสร้างสรรค์เกิดเยาวชนที่มีความรับผิดชอบและตระหนักรู้ในความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า มีวิถีชีวิตแบบพอเพียงและใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยมีโรงเรียน 62 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2555-2558
ด้านการอนุรักษ์ “ป่าต้นน้ำ” และความหลากหลายทางชีวภาพ :
โครงการ “หนึ่งป่าต้นน้ำ หนึ่งต้นกำเนิดพลังงาน” เป็นการสนับสนุนชุมชนที่มีจิตอนุรักษ์ให้อยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน และพึ่งพาตนเองได้ในเรื่องพลังงาน โดยเอ็กโก กรุ๊ป และเครือข่าย ได้ร่วมกันพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานต้นน้ำขนาดเล็กมาก สำหรับชุมชนในพื้นที่ป่า เพื่อเป็นการขอบคุณชุมชนที่ดูแลรักษาป่า เพราะเมื่อชุมชนดูแลป่า ป่าก็จะมีน้ำ และน้ำก็จะทำให้มีไฟฟ้า เกิดเป็นวัฏจักรของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและพอเพียง โดยปัจจุบันได้ดำเนินการแล้ว 3 หมู่บ้าน ในพื้นที่ป่าต้นน้ำภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ หมู่บ้านสันดินแดง หมู่บ้านโป่งสะแยน และหมู่บ้านห้วยวอก และกำลังดำเนินการแห่งที่ 4 ที่หมู่บ้านฮากเกี้ยะ
พร้อมกันนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังได้ก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานของ “มูลนิธิไทยรักษ์ป่า” เพื่อให้ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน โดยดำเนินงานตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา
