แนวเกม แอ็คชั่นอาร์พีจีโร้กไลต์
แพลตฟอร์ม PS5, Xbox Series, Switch, PC
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
ผลงานโร้กไลต์แอ็คชั่นแฟนตาซีที่ให้เราออกผจญภัยไปกับเพื่อนแบบแพคคู่ คนหนึ่งตี อีกคนร่ายคาถา แต่เล่นไปเล่นมาแอบชักยังไงๆอยู่
เนื้อหาของเกม Towa and the Guardians of the Sacred Tree นั้นจะบอกเล่ากล่าวถึง "โทวะ" ธิดาสาวทายาทของทวยเทพ ผู้คอยปกปักษ์รักษาหมู่บ้าน Shinju Village ให้รอดพ้นจากภัยคุกคามของ Magatsu จอมมารชั่วร้ายผู้หมายมั่นยึดครองโลกใบนี้ผ่านกองทัพลูกสมุนปีศาจ Magaori ซึ่งจากการที่ตัวละครเอกเธอเป็นเทพเจ้าสายอำนวยพรให้โชคมิได้ถนัดบู๊เข้าปะทะต่อสู้ด้วยพละกำลัง ดังนั้นเธอจึงต้องคัดเลือกสรรหาเหล่าลูกหลานวีรชนผู้กล้าทั้ง 8 รายในฐานะ Prayer Children ที่พร้อมจะมาเป็นแขน ขา และอาวุธให้กับเธอในภารกิจพิชิตปราบจอมมารเพื่อนำพาความสงบสุขกลับคืนมา
ทว่าภารกิจโค่นล้มจอมมารในครั้งแรกกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิด เมื่อคณะนักรบของโทวะเกิดพลาดท่าติดกับดักจอมมารเข้าอย่างจัง ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจทำการผูกตัวเองและผองคณะเข้ากับห้วงเวลาวนลูป เพื่อที่เธอและเหล่าองครักษ์ทั้ง 8 จะได้มีโอกาสลองผิดลองถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะเจอลู่ทางเอาชนะจอมมารลงได้สำเร็จ นี่จึงเป็นที่มาของระบบกลไก Roguelite ภายในเกมที่ให้ผู้เล่นอย่างเราพบเจอภาพเหตุการณ์แบบเดิมๆซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเอง
เกมการเล่นจะสลับไปมาระหว่างหมู่บ้านที่เป็นฐานให้เราอัพเกรดเตรียมความพร้อมตัวละคร ก่อนจะออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่ดันเจี้ยนเพื่อไปทำภารกิจ โดยด่านดันเจี้ยนภายในเกมนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นหลายห้องด้วยกันผู้เล่นต้องตะลุยฟันฝ่าทุกอุปสรรคตั้งแต่ห้องแรกไปจนถึงห้องสุดท้ายที่เป็นห้องของบอสใหญ่ แน่นอนในระหว่างการผจญภัยเราสามารถเลือกเส้นทางเดินของตัวเองได้ว่าจะเข้าห้องซ้ายหรือห้องขวา ไปห้องบนหรือห้องล่าง รวมถึงตัดสินใจเลือกรับบัฟที่จะสุ่มปรากฏขึ้นมาให้ไม่เหมือนกันในการเล่นแต่ละรอบ อันเป็นคอนเซปต์หัวใจสำคัญของเกมแนวโร้กไลต์
แม้ว่าสมาชิกภายในทีมจะมีทั้งหมด 8 คน แต่เวลาลงดันเจี้ยนเราจะเลือกส่งไปได้มากสูงสุดแค่จำนวนสองคนเท่านั้นคล้ายกับระบบพาร์ทเนอร์คู่หู ผู้เล่นจึงต้องคิดหนักตัดสินใจให้ดีว่าจะเลือกใครมาจับคู่กับใคร โดยตัวละครแรกที่ถูกเลือกจะรับบทเป็น "ดาบ" (Tsurugi) ตัวทำแดเมจหลัก ส่วนตัวละครที่สองจะรับบทเป็น "คฑา" (Kagura) คอยร่ายเวทย์สนับสนุนอยู่ด้านหลัง ซึ่งทุกตัวละครจะมีทักษะความสามารถเฉพาะทางในแต่ละบทบาทที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าจะเลือกทดลองผสมผสานสร้างทีมคู่หูแบบใดขึ้นมาใช้งาน
เนื่องด้วยเกมเพลย์ที่เน้นผจญภัยไปแบบคู่หูสองคน มันจึงเหมาะมากในการชวนเพื่อนอีกคนมานั่งเล่นข้างกันแบบ Local Co-op คนหนึ่งคอยตี คนหนึ่งคอยซัพ แต่สำหรับใครที่อยู่ลำพังหรือเพื่อนไม่ว่างจะโซโลเล่นคนเดียวมันก็พอได้อยู่นะ เพียงแค่ต้องแยกโสตประสาทกันเล็กน้อยในการบังคับควบคุมสองตัวละครไปพร้อมๆกัน คุมตัวโจมตีด้วยอนาล็อกซ้าย คุมตัวร่ายเวทย์ด้วยอนาล็อกขวา แต่ถ้ามันลำบากเกินไปนักจะให้ AI ช่วยคุมอีกตัวละครคอยเดินตามติดก็ได้ แค่อาจยุ่งยากเล็กน้อยในจังหวะตอนหลบหลีก ถึงตัวละครที่เราบังคับอยู่จะหลบการโจมตีพ้นแล้ว ทว่าหากตัวละคร AI ที่เดินตามหลังหลบไม่ทัน หลอดเลือดรวมของทีมมันก็ลดเช่นกัน ฉะนั้นการเล่นคนเดียวในเกมนี้มันจึงคล้ายเรากำลังสวมใส่ชุดเจ้าสาวกระโปรงยาวลากพื้นต้องคอยห่วงพะวงหลังอยู่ตลอดเวลา (ทำไมทีมพัฒนาเขาถึงไม่ทำให้ตัวละคร AI กลายเป็นอมตะไปเลยเหมือนเกมอื่นๆนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ)
ด้านภาพกราฟิกสไตล์การ์ตูนและบรรยากาศแฟนตาซีญี่ปุ่นโบราณ นับว่ามีความสวยงามน่าประทับใจราวกับกำลังชมผลงานศิลปะชิ้นเอก ทว่าพวกเขากลับมาพลาดท่าตกม้าตายตรงเรื่องเสียงเอฟเฟกต์ยามปะทะต่อสู้ที่ฟังดูเบาหวิวเหมือนจั่วลม อารมณ์มันจะคล้ายกับเวลาเรารับชมฟุตบอลแล้วเจ้าหน้าที่ดันลืมเปิดไมโครโฟนริมขอบสนาม เห็นเพียงภาพลีลาท่วงท่าของนักกีฬาแต่กลับไร้เสียงเตะอัดลูกบอลให้ได้ยิน เฉกเช่นเดียวกันกับเสียงเอฟเฟกต์อันไม่ดุดันหนักแน่นของเกมนี้ที่ทำให้มันกลายเป็นประสบการณ์แอ็คชั่นฟาดฟันมอนสเตอร์ที่แห้งชืดจืดสนิทซะไม่มี
สิ่งที่ทำให้ตัวละครของเราแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆรอบจะอยู่ตรงฟีเจอร์อัพเกรดหัวใจสำคัญที่เรียกว่า "การตีดาบ" ซึ่งเป็นมินิเกมที่ให้ผู้เล่นต้องกดปุ่มตามจังหวะที่ปรากฏบนหน้าจอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นดาบชั้นยอด โดยเราจะต้องสตาร์ทเริ่มต้นตั้งแต่การหลอมขึ้นรูป ตีเหล็กตอนกำลังร้อนๆ ลับใบมีดให้คมกริบ ไปจนถึงใส่โกร่งเลือกฝักเพื่อความสวยงาม รวมๆแล้วมีกระบวนการทั้งสิ้น 10 ขั้นตอนด้วยกัน เรียกว่าจำลองการตีดาบในชีวิตจริงมาได้อย่างละเอียดยิบ ดูพิถีพิถันใส่ใจมากกว่าระบบเกมเพลย์ตอนต่อสู้เสียอีกด้วยซ้ำ เป็นงั้นไป!
"ในปัจจุบันเมื่อได้ยินคำว่า 'โร้กไลต์' คนส่วนใหญ่มักส่ายหน้าเบือนหนีเนื่องจากมันเป็นศัพท์ที่ใช้แทนเกมประเภทเนื้อหาน้อยต้นทุนต่ำเลยต้องวนเล่นด่านเดิมซ้ำๆไปเสียแล้ว อาจพอมีเกมโร้กไลต์อยู่บ้างที่ประสบความสำเร็จ แต่นั่นหมายถึงระบบเกมเพลย์มันต้องว้าวชวนเสพติดจับแล้ววางไม่ลงจริงๆ ซึ่งตัวเกม Towa and the Guardians of the Sacred Tree มันไม่ได้มีอะไรแบบนั้นเลย เป็นแค่เกมตีมอนฯธรรมดาไปเรื่อยเปื่อย นี่ถ้าระบบแอ็คชั่นฟาดฟันมอบอารมณ์ความสนุกได้สักครึ่งหนึ่งของเกม Muramasa: The Demon Blade ผู้เป็นตำนาน เชื่อว่ากระแสของเกมคงไม่เงียบสนิทแบบนี้"
| เกมเพลย์ | 5 |
| กราฟิก | 7 |
| เสียง | 6 |
| เนื้อเรื่อง | 6 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 6 |
| ภาพรวม | 6 |
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท บันไดนัมโค Bandai Namco Entertainment
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*


