เห็นแล้วเป็นต้องทึ่ง! กับตัวอย่างเทคเดโมแรกของเกมแอ็คชั่นล่าอสูรภาคต่อจากขุมพลัง Unreal Engine 5 ที่ไม่รู้ว่าของจริงจะได้ขนาดนี้หรือเปล่า?
ล่าสุดในงาน State of Unreal 2025 ที่ผ่านมา ตัวแทนสตูดิโอ CD Projekt RED ได้ขึ้นเวทีเพื่อแสดงตัวอย่างสาธิตเทคโนโลยีหรือเทคเดโมแรกสำหรับเกม The Witcher IV โดยเป็นการรันบนเครื่องเล่นเกมคอนโซล เพลย์สเตชัน 5 รุ่นปกติมาตรฐาน พร้อมกับมีการเปิดใช้งานฟีเจอร์จำลองแสงเงาสมจริงอย่าง Ray-tracing ควบคู่ไปด้วย
เทคเดโมดังกล่าวเป็นการนำเสนอดินแดน Kovir โซนพื้นที่แห่งใหม่ที่จะมาปรากฏให้เห็นครั้งแรกในเกมภาคใหม่นี้ ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองของตัวละครเอกสาว Ciri ผู้ขี่ม้าคู่ใจอย่างเจ้า Kelpie ตะลอนสำรวจฉากภูมิทัศน์ป่าเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ โดยตลอดเส้นทางจะโชว์แอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของม้ากับผู้ขี่ที่สอดคล้องกัน รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ละเอียดยันพิกเซลใบไม้แต่ละใบเลยทีเดียว
ตัวแทน CDPR ระบุว่าพวกเขาได้จับมือทำงานร่วมกับทาง Epic Games มานานตั้งแต่ปี 2022 เพื่อขยายศักยภาพขอบเขตของ Unreal Engine 5 ในการรังสรรค์โลกโอเพ่นเวิลด์ โดยตัวอย่างเดโมนี้เขาได้เลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Unreal Animation Framework, Nanite Foliage Rendering, MetaHuman Technology, Mass AI Crowd Scaling และอื่นๆอีกมากมาย ในขณะที่ยังคงรักษาความลื่นไหลของภาพได้ในระดับ 60 เฟรมต่อวินาที โดยปราศจากกระบวนการลดทอนคุณภาพใดๆ
เกม "The Witcher IV" เตรียมแผนพัฒนาลงบนเครื่อง PlayStation 5, Xbox Series และ PC ส่วนกำหนดวันวางจำหน่ายยังไม่ได้ระบุ ซึ่งถึงแม้เทคเดโมที่นำมาโชว์นั้นมันจะดูว้าวน่าสนใจสักเพียงใด แต่พวกเราจงอย่าลืมว่านี่คือ CD Projekt RED มิใช่ทีมงาน Rockstar Games ภาพที่เห็นในเดโมอาจถูกดาวน์เกรดได้เมื่อถึงคราววางจำหน่ายจริง เหมือนกับที่พวกเขาเคยทำมาแล้วกับเกม The Witcher 3: Wild Hunt นั่นเอง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gematsu
press.cdprojektred.com
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
