แนวเกม อนิเมะต่อสู้
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, PC
เรตเกม ESRB: T เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป
เกมแอ็คชั่นต่อสู้จากอนิเมะชื่อดังที่พอประทังให้แฟนๆหายคิดถึง แต่อาจยังไม่ใช่เกมไฟท์ติ้งที่ทุกท่านควรใส่ใจและจริงจัง
"บลีช เทพมรณะ" อีกหนึ่งการ์ตูนญี่ปุ่นระดับตำนานที่เคยโด่งดังตีคู่สูสีกันมากับ นารูโตะ และ วันพีซ แต่ด้วยกระแสความนิยมที่ตกหล่นหายไปในช่วงพักหลังๆจึงไม่มีใครอยากลงทุนทำอนิเมะหรือสร้างเกมคอนโซลใหญ่ๆออกมาให้พวกเราได้เล่นกันอีกเลยนับรวมเวลาแล้วนานถึง 14 ปีเลยทีเดียว จนกระทั่งทีวีโตเกียวได้ตัดสินใจดัดแปลงเนื้อหามังงะภาค "สงครามเลือดพันปี" มาสร้างเป็นอนิเมะฉายผ่านโทรทัศน์ กระแสความนิยมของการ์ตูนเรื่องนี้จึงฟื้นตัวกลับคืนมาอีกครั้ง และเป็นทาง บันไดนัมโค ที่สบช่องโอกาสไม่รอช้าจัดเสิร์ฟผลงานเกมภาคใหม่ในชื่อ Bleach Rebirth of Souls ออกสู่ตลาด แถมที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือมันไม่ใช่เกมมือถือ
เกมบลีชภาคล่าสุดนี้จะดำเนินเรื่องราวตามมังงะต้นฉบับ บอกเล่ากล่าวถึง "คุโรซากิ อิจิโกะ" เด็กหนุ่มมัธยมปลายวัยกำลังห้าวผู้มีความสามารถมองเห็นวิญญาณ คืนหนึ่งเขาได้พบกับยมทูตหญิงที่เดินทางมาโลกมนุษย์เพื่อปราบฮอลโลว์ แต่เธอกลับพลาดพลั้งเสียท่าจึงต้องทำพันธสัญญามอบพลังส่วนหนึ่งให้แก่ อิจิโกะ เพื่อให้เขาทำหน้าที่เป็นตัวแทนยมทูตคอยปราบขับไล่เหล่าวิญญาณร้ายในระหว่างที่เธอพักฟื้นกำลัง แล้วเรื่องราวอันยุ่งเหยิงวุ่นวายข้ามภพภูมิจึงได้เริ่มอุบัติขึ้นนับตั้งแต่นั้น
สำหรับโหมด Story เนื้อเรื่องหลักนั้นจะเริ่มเล่าปูตั้งแต่ตอนที่ อิจิโกะ พบกับ ลูเคีย เป็นครั้งแรกแล้วร่ายยาวเรื่อยไปจนกระทั่งบุกโซลโซไซตี้ ต่อด้วยพวกอารันคาร์โผล่มาทักทาย ไปเยือนฮูเอโกมุนโด้ถิ่นของพวกมัน ก่อนปิดท้ายด้วยศึกตัดสินชี้ชะตาท้าดวลกับ ไอเซ็น โซสึเกะ ส่วนภาคเสริมคั่นเวลาหรือภาคต่อสืบเนื่องหลังจากนั้นทั้งการที่ อิจิโกะ สูญเสียพลังยมทูต รวมไปถึงฉากสงครามเลือดพันปีทะเลาะกับ อิชิดะ ที่คอการ์ตูนกำลังอินกัน ณ เวลานี้จะไม่มีการถูกพูดถึงแต่อย่างใด เรียกว่าถูกตัดจบตรงจุดเดียวกันเป๊ะเหมือนกับเกม Bleach: Soul Resurrección ที่เคยลงให้กับเครื่อง เพลย์สเตชัน 3 เมื่อสิบสี่ปีก่อน อย่างไรก็ตาม หากใครยังรู้สึกไม่หนำใจตัวเกมก็ยังสอดใส่เรื่องราวไซด์สตอรี่ของเหล่าตัวละครประกอบอื่นๆมาให้เราได้ตามเก็บตามเคลียร์เพื่อรับอรรถรสมุมมองที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เส้นทางการผจญภัยของพวก อิจิโกะ จะถูกหั่นแบ่งออกเป็นช่องๆให้ฟีลอารมณ์เหมือนกำลังรับชมอนิเมะที่ถูกแบ่งฉายออกเป็นตอนๆ มีทั้งช่องเล่าเรื่องที่ให้เรานั่งดูคัตซีนอย่างเดียว และช่องต่อสู้ที่เราจำเป็นต้องปราบโค่นศัตรูลงให้ได้เพื่อเปิดทางไปต่อ ระหว่างเดินอาจมีทางแยกคู่ขนานขึ้นบนลงล่างให้ได้เลือกไป แต่สุดท้ายไม่ว่ายังไงเราก็ต้องไล่เคลียร์มันให้หมดครบทุกเส้นเพื่อเปิดช่องท้ายสุดทางขวามือซึ่งเป็นบทสรุปของแต่ละ Arcs โดยในช่องที่บังคับต่อสู้นั้นจะปรากฏเงื่อนไขต่างๆนานา เช่น กำจัดศัตรูให้ได้ภายในเวลาเท่านี้หรือใช่ท่านั้นปิดจ๊อบศัตรู หากเราทำได้ก็จะได้รับเงินและวัสดุอัปเกรดเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปบัฟเสริมแกร่งให้แก่ตัวละครแบบเกมอาร์พีจี
มาถึงเรื่องสำคัญนั่นคือระบบการต่อสู้ หากเทียบกับซีรีส์เกมไฟท์ติังอนิเมะดังๆทั้งหลายอย่าง นารูโตะ หรือ ดราก้อนบอล ต้องบอกว่าเกมนี้มันเรียบง่ายตื้นเขินกว่ากันเยอะ แค่ฟันๆหลบๆกดใช้ท่าไม้ตายไม่ต้องฝึกฝนทักษะการแคนเซิลแอนิเมชั่นหรือจดจำปุ่มคอมโบอะไรมากมายเพราะทุกตัวละครมีวิธีกดคอมโบที่เหมือนกัน การต่อสู้อาศัยแค่การสังเกตและคาดเดาฝ่ายตรงข้ามล้วนๆคล้ายการละเล่น "เป่ายิ้งฉุบ" ถ้าฝ่ายนั้นโจมตีมา (กรรไกร) เราก็กดบล็อกตั้งการ์ด (ค้อน) แต่ถ้าเขาตั้งการ์ดอยู่เราก็กดจับทลายการป้องกัน (กระดาษ) ง่ายๆแบบนั้นเลย
แต่ที่วุ่นวายชวนน่าปวดขมับจริงๆมันอยู่ตรงระบบหลอดเลือดตัวละครสองฝั่งที่ทำมาเป็นหลอดพลังวิญญาณสีขาวทับซ้อนกันอยู่หลายชั้นหลายแท่ง การจะเอาชนะอีกฝ่ายเราต้องทำให้ตัวเลขจำนวนชั้นของเขาลดลงเหลือศูนย์ให้จงได้ ด้วยการขยันหมั่นตีลดหลอดอณูวิญญาณชั้นปัจจุบันให้กลายเป็นสีแดง แล้วใช้ท่าเผด็จศึก R2 เพื่อหั่นตัวเลขจำนวนชั้นดังกล่าวลง ปกติจะลดแค่สอง แต่บางครั้งก็ลดสาม หรือบางทีอาจพิเศษหน่อยลดได้ถึงสี่ ไม่แน่ไม่นอนแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่า ณ ขณะนั้นเราอยู่ในโหมดปลุกพลังหรือทำให้ศัตรูตกอยู่ในสถานะ Soul Break รึเปล่า? ซึ่งจะให้เขียนอธิบายเป็นตัวหนังสือคงลำบาก ถ้าอยากรู้คงต้องซื้อมาลองสัมผัสด้วยตัวเอง
Bleach Rebirth of Souls เนื้อแท้มันเป็นเกมไฟท์ติ้ง 3D ที่มีสภาพแวดล้อมและการบังคับควบคุมตัวละครแบบเกมแอ็คชั่นสามมิติ ดันอนาล็อกขึ้นตัวเราจะเดินเข้าหาศัตรู อยากขยับปลีกตัวออกด้านข้างก็ดันอนาล็อกไปทางซ้ายหรือทางขวา ซึ่งมันคงไม่เกิดปัญหาถ้าหากมุมมองอยู่ด้านหลังตัวละครตลอดเวลา แต่ทว่ามุมกล้องเจ้ากรรมในเกมนี้นี่สิที่ดันขยันหันแพนให้เรามองเห็นนักสู้สองฟากฝั่งชัดเจนแบบเกมต่อสู้แบนราบ 2D ผู้เล่นจึงเกิดอาการสับสนกดผิดกดถูก จะเดินเข้าหาศัตรูกลายเป็นเบี่ยงขวา จะขยับถอยหลังกลายเป็นเบี่ยงซ้าย เนื่องจากการควบคุมและมุมมองมันไม่สัมพันธ์กัน ส่วนเรื่องภาพกราฟิกแอนิเมชั่นกับคำแปลภาษาไทยนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีแล้ว แค่ติดตรงตัวหนังสือมันมีขนาดไซส์เล็กจิ๋วเกินไปหน่อยต้องนั่งใกล้เอาหัวจ่อทีวีถึงจะอ่านออก แถมภาพก็ยังดูแตกเบลอไม่ค่อยคมชัดสักเท่าไหร่เหมือนไม่น่าจะถึง 1080p ซึ่งถือเป็นปัญหาด้านการแสดงผลความละเอียด Resolution ที่หลายคนบ่นอุบกันทั้งเวอร์ชันคอนโซลและพีซี
ด้านตัวละครนักสู้ที่ขนมาให้เลือกเล่น ณ ปัจจุบันจะมีจำนวนทั้งสิ้น 31 ตัวละคร ซึ่งล้วนเป็นตัวหลักที่ปรากฏเด่นอยู่ตามเนื้อเรื่องนั่นแหละ นำโดยอิจิโกะกับผองเพื่อนร่วมห้อง, พวกของอูราฮาร่า, เหล่ายมทูตทั้งหัวหน้าและรองหัวหน้าจาก 13 หน่วยผู้พิทักษ์, เหล่าอารันคาร์ และพวกลูกสมุนของไอเซ็น จากภาพประกอบด้านล่างจะเห็นได้ว่าลิสต์รายชื่อตัวละครมันไม่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ยังขาดตกหล่นไปเยอะพอสมควร อย่างตัวละครสาวน้อยหนองโพ "อิโนะอุเอะ" ที่ได้แต่ยืนเชียร์อยู่ห่างๆไม่ได้ลงสนามแบทเทิลด้วย, สมาชิกกลุ่มไวเซิร์ดสวมหน้ากากฮอลโลว์ที่แทบหายไปยกแผง แม้กระทั่งฝั่งอารันคาร์เองก็ยังมาไม่ครบหมายเลข (ทั้งที่ในโหมดเนื้อเรื่องยังโผล่มาให้เห็นแวบๆ) ไม่รู้ว่าทีมผู้พัฒนาเขาจงใจข้ามหรือพยายามเก็บกักตุนไว้เป็นตัวละคร DLC เหมือนอย่าง "ยูฮาบัช" และ "อิจิเบย์" ที่มีข้อมูลหลุดมาหรือเปล่านะ?
ด้วยความที่มันเป็นเกมที่ถูกสร้างมาเพื่อเกาะกระแสอนิเมะเพียงชั่วครั้งชั่วคราว มิได้หวังอยู่ยาวเหมือนแฟรนไชส์เกมต่อสู้ใหญ่ๆ ระบบออนไลน์ของมันจึงดูอ่อนด้อยต้อยต่ำขาดแคลนทุกองค์ประกอบที่เกมต่อสู้ดีๆพึงมี ทำได้แค่เพียงจับคู่ต่อสู้ไปทีละตากับเปิดห้องฟัดกันแบบส่วนตัวเท่านั้น ปราศจากโหมดทัวร์นาเมนท์ ไร้โหมดจัดอันดับแข่งขันแบบจริงจังใดๆทั้งสิ้น ซ้ำร้ายยิ่งไปกว่านั้นตัวเกมยังใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อแบบเก่าแก่โบราณ มิได้ใช้เทคโนโลยี Rollback Netcode แบบเกมสมัยใหม่ ทำให้การเล่นออนไลน์ประสบปัญหาทั้งกระตุกทั้งแลคตามคุณภาพสัญญาณเน็ต แถมยังไม่รองรับซัพพอร์ตการเล่นร่วมกันข้ามแพลตฟอร์มแบบ Cross-play อีกต่างหาก ฉะนั้นคอการ์ตูนคนใดที่อยากซื้อเกมนี้มาเพื่อท้าดวลวัดฝีมือกับผู้เล่นออนไลน์คนอื่นๆ ก็จงคิดดีๆชั่งใจให้หนักเดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือน
"จากใจแฟนคลับคนหนึ่งที่ติดตามการ์ตูนเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยวัยเรียนหัวเกรียนและเฝ้ารอคอยตั้งความหวังกับเกมภาคใหม่นี้เอาไว้สูง Bleach Rebirth of Souls มันเสมือนเป็นการตบหน้าแล้วกระทืบซ้ำสำหรับติ่งยมทูตอย่างเรา จริงอยู่กราฟิกอาจดูสวย เอฟเฟกต์อาจดูเร้าใจ แต่เนื้อในมันช่างกลวงโบ๋เหมือนรูกลมๆบนอกฮอลโลว์ ซึ่งตอนแรกเราเองก็สงสัยทำไมทีมพัฒนาต้องออกแบบเกจหลอดเลือดตัวละครให้มันดูยุ่งยากซับซ้อนด้วย แต่พอเล่นไปสักพักถึงได้เข้าใจว่าถ้าตัดสิ่งนี้ออกไป มันก็คือเกมแอ็คชั่นฟาดฟันธรรมดาบ้านๆที่ไม่มีอะไรโดดเด่นน่าสนใจเลยนี่เอง"
เกมเพลย์ | 6 |
กราฟิก | 8 |
โหมดเนื้อเรื่อง | 6 |
การเล่นออนไลน์ | 5 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 6 |
ภาพรวม | 6.2 |
ข้อดี: ภาพสวยตื่นตาอย่างกับคลานออกมาจากอนิเมะ, ฉากสภาพแวดล้อมสามารถทำลายล้างได้, บอกเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างแบบละเอียดยิบ, ประโยคคำพูดแปลไทยได้อรรถรสโดยเฉพาะชื่อท่าปลดปล่อยสวัสดิกะ, จบแล้วยังมีโหมดชาเลนจ์ท้าทายฝีมือให้ได้เล่นต่อ และนานทีจะมีเกมบลีชตกถึงท้องพวกเราสักที
ข้อเสีย: กติกาหั่นหลอดวิญญาณเดี๋ยวลดน้อยลดมากเข้าใจยาก, การบังคับตัวละครไม่ค่อยอิสระราวกับมีด้ายวิเศษผูกมัดล็อคตัวเรากับศัตรูเอาไว้ (วิชาล่องหนของโทเซ็นจึงไร้ประโยชน์), ระบบต่อสู้ไม่ต้องใช้แทคติกอะไรใครตีไวกว่าก็ชนะไป, คนออกแบบการควบคุมตัวละครกับคนจัดวางมุมกล้องเหมือนไม่ได้พูดคุยกัน, ขาดเพลงตีมประกอบหลักอย่าง Number One ทำเอาฉากเด็ดแห้งจืด, เวลาส่วนใหญ่ในเกมสูญเสียไปกับการนั่งดูคัตซีน, มีปัญหาความละเอียดส่งผลให้ภาพดูไม่คมชัด, โหมดออนไลน์ตามยถากรรมทั้งแลคทั้งเงียบเหงา, บางตัวละครโผล่ให้เราเห็นในสตอรี่แต่ไม่มีให้เลือกเล่นข้างนอก, เรื่องราวที่ยังดำเนินไปไม่ถึงสงครามเลือดพันปี และจากนี้คงเน้นขาย DLC จนกระเป๋าฉีก
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท บันไดนัมโค Bandai Namco Entertainment
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*