ดูเหมือนเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับผลงานเกมชูตเตอร์รวมพลังฮีโร่ มาร์เวล ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มันจะมาจากความคิดของท่านผู้บริหารใหญ่ชาวจีนนาม "ติง เหล่ย์"
ล่าสุดเว็บไซต์ Bloomberg ได้ออกมาเปิดเผยรายงานน่าสนใจฉบับหนึ่งระบุ Marvel Rivals เกมฮีโร่ชูตเตอร์ขวัญใจใครหลายๆคนครั้งหนึ่งเคยเกือบโดนสั่งพับยกเลิกโปรเจกต์อย่างกะทันหันหรืออาจเปลี่ยนใช้รูปลักษณ์ใบหน้าตัวละครที่ดูแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ อันเนื่องมาจากความต้องการประหยัดต้นทุนของผู้บริหาร NetEase
โดยแหล่งข่าวอ้างว่าคุณ "ติง เหล่ย์" (William Ding) ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอคนปัจจุบันของบริษัท NetEase นั้นเขาไม่ต้องการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ตัวละครมาร์เวลให้กับทางเจ้าของสิทธิ์อย่าง ดิสนีย์ จนถึงขนาดที่ว่าเขาเคยไหว้วานให้ศิลปินช่วยดีไซน์ออกแบบตัวละครของตนเองขึ้นมาทดแทนเหล่าซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลเพื่อประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่สุดท้ายมันกลับทำให้พวกเขาต้องสูญเสียเงินจำนวนหลายล้านในความพยายามดังกล่าวที่เสียทั้งเวลาและแรงกายไปโดยใช่เหตุ
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกตัวแทนของ NetEase ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดด้วยการระบุว่า พวกเขาและมาร์เวลต่างมีความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันที่ดีแน่นแฟ้นมาตั้งแต่ปี 2017 แต่ถึงกระนั้นในมุมมองของผู้เล่นหลายคนล้วนตั้งคำถามว่าทำไมเกมไลฟ์เซอร์วิสติดลมบนอันดับหนึ่งที่มียอดคนเล่นพุ่งทะลุกว่า 40 ล้านรายนี้ ถึงได้ประกาศปลดพนักงานผู้สร้างเกมที่ Seattle Studio รวมถึงหยุดให้เงินทุนสนับสนุนตัดงบฯหลายสตูดิโอทั้งในและนอกแผ่นดินมังกร
จากบทเรียนของเกม Marvel's Avengers ในอดีต จึงไม่น่าแปลกใจที่บิ๊กบอสนายใหญ่ของ NetEase จะระแวงเกมแนวออนไลน์ไลฟ์เซอร์วิสเป็นพิเศษและเห็นความคุ้มค่าอยากโฟกัสลงทุนไปกับเกมมือถือที่ทำเงินได้แน่ๆมากกว่า ซึ่งพวกเราโชคดีตรงที่เขานั้นเกิดเปลี่ยนใจคิดใหม่ได้ทัน ไม่เหมือนกับกรณีของคุณ "แอนดรูว์ วิลสัน" (Andrew Wilson) ประธานบริษัท Electronic Arts ที่โบ้ยความล้มเหลวของเกม Dragon Age: The Veilguard ว่าเป็นเพราะตัวเกมขาดองค์ประกอบไลฟ์เซอร์วิส แทนที่จะโทษความโว้กของตนเอง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
pcgamer
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
