แนวเกม แอ็คชั่นชูตติ้ง
แพลตฟอร์ม PC, PS5, Xbox Series
เรตเกม ESRB: M เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 17 ปีขึ้นไป
ความพยายามครั้งใหม่ในการเข้าถึงกลุ่มตลาดผู้เล่นวงกว้างของซีรีส์เกมวางแผนยุทธการ ที่ต้องบอกว่าทั้งเดือดทั้งมันส์และทุ่มทุนสร้างกว่าภาคแรกเป็นไหนๆ
ต้องขอเกริ่นไว้ก่อนเลยว่า ตัวผู้เขียนไม่ใช่แฟนคลับซีรีส์ Warhammer 40,000 และไม่เคยเห็นแฟรนไชส์นี้อยู่ในสายตามาก่อน ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะแนวเกมที่ไม่ค่อยตรงจริตสักเท่าไหร่ รวมไปถึงเนื้อหาเรื่องราวที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ติดตามซีรีส์นี้มาตลอด ซึ่งจำได้ว่าตอน Space Marine ภาคแรกออกมาใหม่ๆบนเครื่อง PS3 ที่เปลี่ยนมาเป็นเกมแนวแอ็คชั่นลุยยิง ถึงคอนเซปต์ของนั้นจะดูดีย่อยง่ายเหมาะสำหรับมือใหม่ แต่ด้วยเทคโนโลยีเกมเพลย์สมัยนั้นมันจึงยังไม่ว้าวประทับใจเรานัก จนกระทั่งวันเวลาล่วงเลยผ่านมา 13 ปีในที่สุดก็มีกลุ่มนักพัฒนาใจกล้าปลุกชีพซีรีส์บู๊แหลกแจกกระสุนนี้ขึ้นมาจากสุสาน แถมพวกเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสรอบสองนี้ต้องสูญเปล่า
สำหรับเหตุการณ์คร่าวๆในเกม Warhammer 40,000 Space Marine 2 จะบอกเล่าการเดินทางสู้ชีวิตของ "ไททัส" (Titus) ตัวเอกขุนศึกระดับพระกาฬที่ปัจจุบันผันตัวย้ายมาสังกัดหน่วยรบเดนตาย Deathwatch เพื่อชดใช้ความผิด ทว่าหลังสวมชุดเกราะดำแดงมานานนับร้อยปีในที่สุดเขาก็ได้รับมอบโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้กอบกู้ชื่อเสียงของตนคืนมา ด้วยการหวนกลับไปร่วมกองกำลัง Ultramarines หน่วยทหารเกราะฟ้าสังกัดเก่าอันมีเกียรติยศสูงสุดดังเดิมอีกครั้ง และภารกิจหลักของเขาในคราวนี้นั่นคือการนำทัพกวาดล้างบางเผ่าพันธุ์แมลงเอเลี่ยน Tyranid ที่บุกรุกรานและเป็นภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติให้สิ้นซาก
Space Marine 2 มันเป็นเกมแอ็คชั่นแบบเส้นตรงที่มีจุดมุ่งหมายเดียวคือการบุกฝ่าลุยดะไปข้างหน้า ไม่มีการแวะสำรวจข้างทาง ไม่ต้องหาของลับมาเก็บสะสม หรือรับไซด์เควสต์ไร้สาระใดๆมาทำ ตลอดระยะเวลาแคมเปญสิบกว่าชั่วโมงมีแค่เดินหน้าฆ่าฟันกันอย่างเดียวสลับกับช่วงพักเบรคคั่นกลางระหว่างมิชชั่นให้หยุดพักหายใจหายคอเท่านั้น นับว่าเป็นการดีไซน์ออกแบบเกมสไตล์อาร์เขตสุดคลาสสิคเหมือนเราได้ย้อนกลับไปสู่สมัยยุคทองอันรุ่งเรื่องของวิดีโอเกมที่สาระสำคัญของมันอยู่ที่ "ความบันเทิง" แบบเพียวบริสุทธิ์ไร้สิ่งใดมาเจือปน เกมเพลย์มันอาจไม่ได้ลึกซึ้งดูซับซ้อนวุ่นวาย แต่ก็มอบความสุขสะใจในอารมณ์ได้ทุกครั้งที่จับ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบประสบการณ์อะไรแบบนี้ที่ให้เราเข้าถึงเนื้อหาตรงๆ มากกว่าเกมโอเพ่นเวิลด์โลกกว้างอิสระที่มักพาอ้อมถ่วงเวลาเสียอีก
อย่างที่ทุกคนทราบกันดี ทักษะการต่อสู้ของหน่วยทหารสเปซมารีนนั้น พวกเขามิได้ถนัดช่ำชองแค่การชักอาวุธปืนออกมายิงระยะไกล ระยะใกล้เขาก็สามารถควักดาบเลื่อยยนต์ขึ้นมาเฉือนฟาดฟันศัตรูได้เช่นกัน ดังนั้นรูปแบบเกมการเล่นจะสลับไปมาระหว่างฟันใกล้และยิงไกลโดยที่เราสามารถนำทั้งสองอย่างมาผสมผสานทำเป็นคอมโบ เช่น กดปุ่มฟันค้างเพื่อกระแทกมอนฯให้กระเด็นออกไปแล้วกดยิงตามเพื่อใช้ปืนพกกระหน่ำซ้ำ เป็นต้น แถมในภาคนี้ยังเพิ่มเติมระบบปัดป้องเข้ามา ถ้าหากเรากดปุ่มเคาน์เตอร์ได้ทันตอนที่เห็นประกายแสงสีฟ้า ตัวละครก็จะจับมอนฯตัวนั้นมาทุ่มฟาดฉีกอวัยวะหรือสตันมอนฯระดับสูงได้ เรียกว่าเมื่อนำทุกสิ่งมาผสมรวมกันทั้งระบบปัดป้อง, ระบบเกราะฟื้นฟูอัตโนมัติแบบเฮโล และโหมดอมตะร่างทองชั่วขณะแล้ว ศัตรูในระดับ Normal แทบไม่มีสิทธิ์ทะลวงเข้ามาสร้างความเสียหายให้แก่หลอดเลือดของไททัสได้เลย
เกมนี้ทางทีมผู้พัฒนาได้เจาะจงเลือกใช้งาน Swarm Engine เอนจิ้นที่มีจุดเด่นเรื่องการเรนเดอร์ยูนิตศัตรูปริมาณมากๆพร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งที่ผ่านมามันเคยโชว์ศักยภาพจำลองซอมบี้จำนวนมหาศาลมาให้พวกเราเห็นกันแล้วในเกม World War Z และการดัดแปลงมาปรับใช้กับเกม Space Marine 2 มันก็ดูเหมาะสมเข้ากันดี เพราะศัตรูของเราคือฝูงแมลงเอเลี่ยนที่ชอบยกพวกบุกมากันเป็นโขยงท่วมจอ ดังนั้นกราฟิกของเกมจึงเน้นหนักไปในทางให้ความสะใจ โยนระเบิดลงใส่กลางวงฝูงแมลงทีก็เห็นเศษชิ้นเนื้อกระจุยกระจายเลือดนองเต็มพื้น ส่วนเรื่อง คุณภาพความสวยงาม รายละเอียดพื้นผิวหรือแสงเงาต่างๆมันก็อยู่ในเกณฑ์ดีพอใช้ได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ได้ดีเลิศขั้นสุดเหมือนอย่าง Unreal Engine ที่พวกเราชินตา
สำหรับสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ในการทดสอบ ต้องขอบคุณทางบริษัท AMD ที่ให้ความอนุเคราะห์อัพเกรดจัดการ์ดจอตัวแรง AMD Radeon RX 7800 XT 16GB มาให้เราได้ใช้ในการเล่นและรีวิวเกมนี้ โดยที่ตัวซีพียูนั้นยังคงเป็น AMD RYZEN 5 5500, แรม G.SKILL SNIPER-X 16GB BUS3600 และติดตั้งลงบนเมนบอร์ด ASUS TUF GAMING A520M-PLUS
จากการทดสอบเลือกปรับภาพกราฟิกระดับ Ultra สูงสุดที่ความละเอียดอัลตร้าไวด์ 3440 x 1440p ร่วมด้วยฟีเจอร์ AMD FSR และ Frame Generation ค่าเฟรมเรตที่ได้จะวิ่งอยู่ที่ราวๆ 100 - 130fps เรียกว่าเล่นได้ลื่นๆผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้ว แต่ถ้าคุณอยากได้เฟรมเรตที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่านี้ เราก็ขอแนะนำให้เหล่าคนที่ใช้การ์ดจอค่ายแดงไปเปิดใช้งานฟีเจอร์ AMD Fluid Motion Frames 2 ที่หน้าซอฟต์แวร์อะดรีนาลีน ง่ายๆเพียงคลิกเดียวเท่านี้เฟรมเรตก็จะขยับพุ่งขึ้นมาแตะ 200 - 260fps แล้ว อีกทั้งไม่ต้องกังวลว่าภาพที่ออกมาจะมีอาการ Ghosting หรือเห็นเงาซ้อนเวลาเคลื่อนไหวตัวละคร เพราะฟีเจอร์เวอร์ชันใหม่นี้ทาง AMD เขาปรับจูนมาดีจนปัญหาต่างๆเหล่านั้นแทบจะหมดไปแล้วนั่นเอง
ตลอดเส้นทางล้างบางฝูงแมลงทีรานิด ตัวเอกไททัสของเราเขาจะมีสหายร่วมรบคอยต่อสู้เคียงข้างกายไปด้วยกันอีกสองคน ได้แก่ Chairon และ Gadriel โดยปกติแล้วหากเรานั่งเล่นคนเดียวตัวละครทั้งสองนี้จะถูกควบคุมโดยสมองกล AI ที่จะช่วยยิงทุกสิ่งที่ขยับไปตามประสาของมัน (เรากำหนดสั่งแผนอะไรให้พวกมันไม่ได้เลย) ตรงจุดนี้หากใครไม่ชอบใจประมาณว่าฉันมีเพื่อนเยอะ คุณสามารถเชิญเพื่อนออนไลน์ที่สนิทมาทดแทนลงไปในตำแหน่งของ AI เพื่อเล่นร่วมกันได้มากสูงสุด 3 คนพร้อมกัน ซึ่งวิธีนี้ก็ใช้ได้ผลกับโหมด Operations โหมดภารกิจพิเศษแบบ Online Co-op PvE ที่จะถูกปลดล็อคมาให้ได้เลือกเล่นหลังเคลียร์จบมิชชั่นแรก เช่นเดียวกัน
มาถึงเนื้อหาส่วนสุดท้ายกับ Eternal War โหมด PvP มัลติเพลเยอร์ในรูปแบบ 6 ปะทะ 6 แบ่งผู้เล่นออกเป็นสองทีมแข่งขันกันในกฏกติกาพื้นฐานอย่างทีมเดธแมตช์และยึดจุดยุทธศาสตร์ แต่แฟนๆเกียร์ออฟวอร์อย่าได้คาดหวังว่าประสบการณ์มันจะใกล้เคียงกัน เนื่องด้วยระบบคลาสนักรบของเหล่าสเปซมารีนที่มีความแตกต่างกันมากเหมือนอยู่คนละโลก บางคลาสอาจใช้ปืนยืนยิงธรรมดาแบบที่พวกเราคุ้นเคย ในขณะที่บางคลาสมีเจ็ตแพคติดหลังเหาะขึ้นไปบนอากาศได้ หรือแม้กระทั่งคลาสถือดาบโล่ที่ไม่ใช้ปืนเลยก็มี นี่ยังไม่นับรวมเรื่องขนาดความหนา-บางของเกราะและพวกสกิลพิเศษติดตัวของแต่ละคลาสอีกนะ คิดง่ายๆว่ามันคือเกมฮีโร่ชูตเตอร์เกมหนึ่งที่จำต้องอาศัยทีมเวิร์คของเพื่อนร่วมทีมเป็นสำคัญ สกิลทักษะความแม่นยำส่วนตัวนั้นอาจช่วยคุณได้แต่ก็ช่วยให้คุณเอาตัวรอดได้แค่บางจังหวะ เรียกว่าหากตกอยู่ในสถานการณ์โดนรุมหนึ่งต่อสอง เกมนี้จะให้คุณได้มีสิทธิ์นอนเฝ้ารากมะม่วงสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
"Warhammer 40,000 Space Marine 2 ว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว มันไม่ได้เป็นเกมที่เกิดมาเพื่อพลิกวงการหรือยกระดับอุตสาหกรรมให้สูงขึ้นเลย คอนเทนต์ภายในล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนเคยสัมผัสจากเกมอื่นกันมาหมดแล้วทั้งสิ้น เพียงแค่สิ่งต่างๆเหล่านี้มันได้ห่างหายจากพวกเราไปนานจนหลงลืมว่าเมื่อก่อนเราเคยเติบโตมากับความบันเทิงแบบใด ซึ่งการได้มาสัมผัสเกมนี้ มันเหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปพบเพื่อนรู้ใจสมัยวัยเด็กอีกครั้ง เพื่อนที่รู้ดีว่าอะไรคือแก่นแท้ของความสนุกและอะไรที่มันไม่ใช่ก็ไม่จำเป็นต้องยัดเยียดใส่สิ่งนั้นเข้ามา"
| เกมเพลย์ | 8 |
| เนื้อเรื่อง | 8 |
| กราฟิก | 8 |
| โหมดออนไลน์ | 10 |
| Performance | 9 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
| ภาพรวม | 8.3 |
ข้อดี: แอ็คชั่นยิงฟันดุดันมันส์เลือดสาดสะใจวัยรุ่น, ภาพสวยบรรยากาศดีโดยเฉพาะแสงเงาที่สะท้อนชุดเกราะ, เอฟเฟกต์ตูมตามระเบิดภูเขาเผากระท่อมกันแบบไม่กั๊ก, ปริมาณยูนิตศัตรูที่โผล่มาเป็นกองทัพท่วมจอ, ไม่มีเควสต์หรือกิจกรรมถ่วงเวลาไร้สาระ, แปลภาษาไทยให้ครบถ้วนร้อยเปอร์เซนต์, เล่นร่วมกันกับเพื่อนได้ทั้งโหมดแคมเปญ-ภารกิจเสริม และศึกออนไลน์ PvP ที่โคตรเด็ดชวนเสพติดหากคุณยอมใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจ
ข้อเสีย: เล่นผ่านไปซักสองสามมิชชั่นภารกิจจะเริ่มดูซ้ำจำเจ, ไร้ความลับไม่มีอะไรให้เราเดินสำรวจออกตามหา, ขาดระบบอัปเกรดเสริมแกร่งที่เป็นชิ้นเป็นอัน, เนื้อหาแคมเปญสั้นจบไวเล่นไม่จุใจ และสหาย AI ที่อาจสร้างความปวดหัวได้ในบางสถานการณ์
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท AMD
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
