เครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นอัปเกรดกลางเจนฯของฝั่ง โซนี่ ที่จะว่าดีไหมมันก็ดีขึ้นนะ แต่ไม่มากถึงขนาดต้องรีบจับจองเป็นเจ้าของ!
ก่อนอื่นคงต้องพูดเรื่องรูปลักษณ์หน้าตาภายนอกเป็นอันดับแรก สำหรับ เพลย์สเตชัน 5 โปร นั้นมันจะมีดีไซน์ที่ถอดแบบสืบทอดมาจากเครื่อง เพลย์สเตชัน 5 รุ่นสลิม ด้วยแกนกลางสีดำมันวาวที่โค้งเว้าลึกลงไปและฝาครอบสีขาวที่แบ่งออกเป็นสองส่วนชิ้นบนกับชิ้นล่าง ไปจนถึงตำแหน่งพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆบริเวณด้านหลังและด้านหน้าที่กลายเป็น USB-C ทั้งสองช่อง ส่วนความสูงเมื่อวางตั้งจะมีขนาดใกล้เคียงกับ PS5 รุ่นอ้วนปกติ เพียงแต่ความหนาและความลึกจะน้อยกว่ารุ่นอ้วนอย่างเห็นได้ชัดตามภาพประกอบ ซึ่งนั่นก็ส่งผลต่อมวลรวมของมันที่มีน้ำหนักเพียง 3.1 กิโลกรัมเท่านั้น เรียกว่าเบากว่าทั้งรุ่นอ้วนรวมถึงรุ่นสลิมด้วยซ้ำไป ในขณะที่ ร่องสามบั้งด้านข้างที่สร้างความโดดเด่นให้กับตัวเครื่อง มันเป็นเพียงตะแกรงปิดทึบไม่มีรูระบายอากาศที่สามารถทะลุไปถึงพัดลมด้านในได้ ฉะนั้นใครคิดจะเล่นเกมในช่วงหน้าร้อนแบบไม่เปิดแอร์ก็ควรต้องระวังเรื่องความร้อนสะสมจนเครื่องโอเวอร์ฮีทกันนิดนึง
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่อง ประกอบไปด้วยตัวเครื่องคอนโซล PlayStation 5 Pro, คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense, สายเคเบิล USB-C to USB-C เอาไว้ชาร์จหรือซิงค์จอยกับตัวเครื่อง, สายไฟที่มีปลั๊กเป็นหัวกลมสองขา, สายสัญญาณภาพ HDMI 2.1 เอาไว้ต่อเข้ากับทีวี และแง่งพลาสติกใส 2 ชิ้นที่เอาไว้เสียบกับร่องด้านข้างตัวเครื่องเพื่อทำเป็นขาตั้งวางแนวนอน ซึ่ง PS5 Pro ที่วางขาย ณ ปัจจุบันล้วนเป็นเครื่องดิจิตอลทั้งสิ้นไม่มีช่องใส่แผ่นดิสก์ ดังนั้นใครที่เป็นสายสะสมแผ่นหาจำต้องซื้อดิสก์ไดร์ฟแยกมาเสียบเพิ่มกันเอาเอง เช่นเดียวกับแท่นวางเครื่องแนวตั้งสุดหรูหราที่ชาร์จคุณเพิ่มในราคาหลักพัน แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายดาวน์โหลดและชอบวางเครื่องแนวนอนเป็นประจำอย่างกระผม (เพราะเคยวางตั้งแล้วเครื่องพัง) เรื่องเหล่านี้คงไม่ใช่ปัญหา
หลายคนที่เป็นสายดองเกมหรือแม้กระทั่งตัวกระผมเองที่ต้องรีวิวเกมออกใหม่ทุกสัปดาห์ ที่ผ่านมามักประสบปัญหาเนื้อที่ไม่พอต้องคอยหาหน่วยความจำภายนอกมาสำรองเพิ่ม แต่กับเครื่อง PS5 Pro คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องขนาดพื้นที่ติดตั้งเกมอีกต่อไปเพราะว่าทาง โซนี่ ได้ยัดไส้ SSD ขนาดความจุ 2 TB มาให้แล้วเสร็จสรรพตั้งแต่แกะกล่อง โดยหลังจากหักลบพื้นที่เว้นว่างสำหรับซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ เหล่าผู้ใช้งานจะมีพื้นที่ภายในเหลือว่างสำหรับลงเกมต่างๆมากถึง 1.89 TB เรียกว่าเพียงพอต่อความต้องการสามารถลงเกมใหญ่ฟอร์มยักษ์ขนาดไฟล์ 100 GB ได้พร้อมกันเกือบๆ 20 เกมเลยทีเดียว สร้างความสะดวกสบายทำให้เราไม่ต้องคอยลบเกมที่ยังเคลียร์ไม่จบหรือเก็บของยังไม่ครบ ก็สามารถดาวน์โหลดเกมใหม่มาเล่นตามเทรนด์กระแสชาวบ้านได้ทันควัน
อีกภาคส่วนที่ถูกอัปเกรดขึ้นจากเดิม นั่นคือการที่ PS5 Pro เป็นคอนโซลเล่นเกมเครื่องแรกของโลกที่รองรับเทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สายเวอร์ชันล่าสุดอย่าง Wi-Fi 7 ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรกว่าตัวเทคโนโลยี Wi-fi 6 ที่บรรดาเครื่อง PS5 รุ่นเก่าทั้งอ้วนและสลิมเคยใช้กัน อย่างไรก็ดีเรื่องสปีดความเร็วนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเราท์เตอร์และแพคเกจอินเทอร์เน็ตของค่ายผู้ให้บริการ แต่สิ่งที่เกมเมอร์ทุกคนล้วนสัมผัสได้แน่ๆจะเป็นในส่วนของความเสถียรความนิ่งของสัญญาณ โดยจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เคยเล่นเกม Zenless Zone Zero ผ่านไวไฟบนเครื่อง PS5 รุ่นปกติ เวลาเข้าสู่พื้นที่ Hollow Zero ที่ค่อนข้างกินเวลานาน ระหว่างเลื่อนตัวละครไปมาในโหมดทีวีมักเจอกล่องข้อความแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาว่า "Network error. Connection is unstable" อยู่เป็นประจำ แต่ภายหลังย้ายมาเล่นบนเครื่อง PS5 Pro กลับไม่พบข้อความดังกล่าวปรากฏขึ้นมากวนใจอีกเลย แถมยังมีผู้เล่นบางรายกล่าวชื่นชมด้วยว่าเวลาเล่นเกมรีโมตเพลย์ผ่านอุปกรณ์ PlayStation Portal ที่เชื่อมต่อกับ PS5 Pro มันได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลกว่าและแลคน้อยกว่าตอนเชื่อมต่อกับ PS5 ปกติ ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวข้องอะไรกันมั้ย เนื่องด้วยตัวผู้เขียนไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่อง พอร์ทัล จึงไม่กล้ายืนยันฟันธง
ด้านรายชื่อเกมที่ถูกเสริมเติมแต่งประสิทธิภาพให้รองรับกับขุมพลังของเครื่อง PlayStation 5 Pro ณ ปัจจุบันมีอยู่จำนวนกว่า 60 ไตเติ้ลด้วยกัน และส่วนใหญ่ที่เห็นมักเป็นเกมเฟิร์สปาร์ตี้หรือไม่ก็บรรดาเกมเอ็กคลูซีฟทั้งหลายจากค่ายพันธมิตร โดยตัวผู้ใช้งานสามารถสังเกตตรวจสอบได้ง่ายๆด้วยการเข้าไปที่หน้าเมนูออพชั่นกราฟิกหรือการแสดงผลของเกม หากเกมใดถูกปรับแต่งมาให้รองรับคอนโซลรุ่นใหม่ก็จะขึ้นตัวเลือกกราฟิกที่ต่อท้ายด้วยคำว่า "โปร" ซึ่งเป็นโหมดภาพกราฟิกพิเศษที่ถูกสงวนสิทธิ์ให้ใช้งานได้แค่เฉพาะเจ้าของเครื่อง PS5 Pro เท่านั้น และถึงแม้ว่าโหมดภาพกราฟิกโปรดังกล่าวจะถูกแบ่งย่อยออกไปอีกเป็นสองสายระหว่างสายเน้นความละเอียดกับสายเน้นเฟรมเรตเหมือนเช่น PS5 รุ่นธรรมดา แต่ความลื่นไหลกับความคมชัดที่ได้มันจะเหลื่อมๆเหนือกว่าโหมดภาพกราฟิกอันเก่าแบบรู้สึกได้
จากที่เราได้เปิดทดสอบลองเล่นดูหลายๆเกมพบว่า ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมานั้นมันค่อนข้างหลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละเกม บางเกมเปลี่ยนไปเยอะ เช่น Dragon Dogma 2 จากเดิมที่เคยกระตุกจนแทบเล่นไม่ได้บนเครื่องรุ่นธรรมดา พอมาเล่นบนเครื่องรุ่นโปรเฟรมเรตกลับลื่นไหลขึ้นมาแบบผิดหูผิดตา หรือจะเป็น Final Fantasy VII Rebirth ที่เมื่อก่อนภาพจะออกเบลอๆเพราะพึ่งเทคนิคการอัปสเกล พอเครื่องโปรทำให้ตัวเกมสามารถรันภาพได้ระดับ 4K ทุกอย่างกลับดูคมชัดบาดตาเหมือนเราเพิ่งไปตัดแว่นมาใหม่ยังไงยังงั้น ในขณะเดียวกันมันก็มีบางเกมที่มองด้วยตาเปล่าไม่รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนเนื่องจากต้นฉบับของเดิมถูกขัดเกลามาดีอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เราจึงแอบหวั่นใจเกรงว่าตัวฟีเจอร์ PlayStation Spectral Super Resolution (PSSR) ที่ทาง โซนี่ คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มเฟรมเรตนี้ ในอนาคตมันอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดโดยเฉพาะเหล่านักพัฒนาสันหลังยาวที่เกียจคร้าน Optimize ตัวเกม เหมือนเช่นที่วงการเกมพีซีกำลังเผชิญอยู่จากการมาถึงของฟีเจอร์ DLSS และ FSR นั่นเอง
PS5 Pro เปิดขายด้วยราคาที่แพงสุดเท่าที่ โซนี่ เคยทำตลาดเครื่องคอนโซลมาตีเป็นตัวเลขกลมๆคือสามหมื่นบาทไทย และมันยังไม่จบเพียงแค่นั้นหากคุณเป็นสายเก็บสะสมแผ่นก็ต้องซื้อช่องอ่านแผ่นดิสก์เพิ่ม อยากวางบนโต๊ะสวยๆเท่ๆก็ต้องซื้อแท่นวางแนวตั้ง และ ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือเรื่องโทรทัศน์สมาร์ททีวีของคุณขั้นต่ำต้องรองรับภาพความละเอียด 4K พร้อมมีอัตรารีเฟรชเรต 120Hz ขึ้นไปเพื่อให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนในบางเกม (ใส่เครื่องหมายดอกจัน *ย้ำว่าบางเกม*) ที่เครื่อง PS5 Pro สามารถรีดเฟรมเรตไปได้ถึง 80 หรือ 120fps ซึ่งสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเองแล้วละว่าอยากถอนเงินออกจากบัญชีจำนวนครึ่งแสนเพื่อแลกกับเฟรมเรตที่ได้เพิ่มมาสิบยี่สิบเฟรมฯหรือเปล่า?
"จริงอย่างที่ โซนี่ เคยพูดไว้ PlayStation 5 Pro มันไม่ใช่เครื่องคอนโซลที่ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ผู้เล่นทุกกลุ่ม มันคือคอนโซลรุ่นอัปเกรดเสริมประสิทธิภาพสำหรับเกมเมอร์บางคนที่ต้องการความสุดไม่ต่างจากเครื่องเล่นพกพา PlayStation Portal หรือจอย DualSense Edge ก่อนหน้านี้ ถ้าถามคนธรรมดาที่ใช้เงินเดือนชนเดือนมันคงไม่คุ้มค่า แต่ถ้าไปถามพวกอินฟลูฯหรือคนมีตังค์ กลางวันสั่งกับข้าวของนักปั้นดารามือทองมากิน วันหยุดเที่ยวฟินต่างประเทศ ควักเศษเงินซื้อของแบรนด์เนม มีรถหรูจอดเต็มบ้าน เปิดแอร์ฉ่ำบานให้กระเป๋า มุมมองในเรื่องความคุ้มของพวกเขาก็อาจต่างไปจากพวกเรา แม้เสียงส่วนใหญ่จะไปในทางลบถึงกระนั้นผู้เขียนกลับเชื่อว่า PS5 Pro มันมีอนาคตที่สดใสรออยู่เพราะอย่าลืมว่าเกมที่นำมาทดสอบล้วนเป็นเกมเก่า หากต่อไปในวันข้างหน้ามีเกมใหม่ที่สามารถดึงพลังคอนโซลตัวนี้ออกมาใช้ได้แบบเต็มร้อย ความแตกต่างห่างชั้นกับเครื่องรุ่นเก่ามันคงจะไม่ใช่น้อยๆ เอาเป็นว่าอยากให้ทุกคนอดใจรอดูสถานการณ์เกมมอนฮันฯภาคใหม่หรือ GTA ภาคต่อไปเสียก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าจะสอยหรือเมินข้ามตอนนั้นก็คงไม่สายเกินไป"
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ Sony Interactive Entertainment (SIE)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*