แนวเกม ต่อสู้
แพลตฟอร์ม PS5, Xbox Series, PC
เรตเกม ESRB: T เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป
ผลงานแอ็คชั่นต่อสู้ 3D ที่มีทั้งภาพ เสียง ระบบ และลิสต์รายชื่อตัวละครที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในประวัติศาสตร์ "ดราก้อนบอล" ทว่าปัญหาข้อบกพร่องก็พบเยอะเป็นเงาตามตัวด้วยเช่นกัน
DRAGON BALL: Sparking! ZERO นั้นเรียกได้ว่าเป็นเกมภาคหลักลำดับที่ 4 ในซีรีส์ Budokai Tenkaichi ซึ่งจะว่าไปซีรีส์นี้ได้ห่างหายจากพวกเราเป็นระยะเวลานานถึง 17 ปีเลยทีเดียว นับตั้งแต่ที่ตัวเกมภาค Budokai Tenkaichi 3 ออกวางจำหน่ายบนเครื่องเล่น เพลย์สเตชัน 2 แม้ตลอดที่ผ่านมาจะมีเกมดราก้อนบอลที่ให้อารมณ์โบยบินต่อสู้อิสระใกล้เคียงกันอย่างซีรีส์ Xenoverse หรือภาค Kakarot แต่เกมเหล่านั้นเน้นหนักไปทาง RPG ฟาร์มเก็บเลเวล มิใช่ต่อสู้จบเป็นแมตช์ๆเหมือนกับซีรีส์ Budokai Tenkaichi ที่ในภาคล่าสุดนี้ได้ยกระดับเกมเพลย์รวมถึงอัปเกรดภาพกราฟิกให้สมจริงยิ่งกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนด้วยขุมพลัง Unreal Engine 5
ตามสูตรสำเร็จที่มีมาแต่โบราณ ผู้เล่นจะได้บังคับตัวละครนักสู้ในจักรวาลดราก้อนบอลออกหมัดใส่คู่ต่อสู้และพุ่งแดชหลบหลีกเหาะเหินโบยบินกลางอากาศได้อิสระทุกทิศทาง 360 องศาภายในสังเวียนปิดขนาดใหญ่ สามารถกดชาร์จพลังงาน Ki เพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายประจำตัว ซึ่งคำว่า "สปาร์คกิ้ง" ในภาคนี้นั้นมันคือสถานะที่ตัวละครชาร์จพลังงานจนถึงขีดสุด (มีแสงออร่าเปล่งประกายรอบตัว) โดยตัวละครที่อยู่ในสถานะดังกล่าวจะสามารถใช้พลังงาน Ki ได้ไม่จำกัดชั่วขณะหนึ่ง รวมไปถึงสามารถปลดปล่อยท่าไม้ตายอัลติเมทที่มีความรุนแรงสูงสุดได้ นั่นเอง
อย่างไรก็ดี การที่จะสามารถเข้าสู่สถานะสปาร์คกิ้งได้ เราจำเป็นต้องมีตัวเลข "แต้มทักษะ" อย่างน้อยหนึ่งแต้ม ซึ่งตัวเลขสีฟ้าที่ปรากฏอยู่ด้านล่างใบหน้าตัวละครนี้จะค่อยๆเพิ่มพูนอัตโนมัติในระหว่างการต่อสู้ อีกทั้งแต้มทักษะเหล่านี้ก็ยังจำเป็นต่อการเรียกใช้งานสกิลบัฟหรือดีบัฟของตัวละครอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น สกิลหมัดตะวันทำศัตรูตาพร่ามัวของคุริริน, สกิลกินถั่วเซียนฟื้นฟูเลือดของยาจิโรเบ้ หรือสกิลไวด์เซนส์หลบหลีกสวนกลับออโต้ของโกฮัง ล้วนต่างก็ใช้แต้มทักษะแทบทั้งสิ้น ฉะนั้นแล้วระหว่างต่อสู้เราจึงต้องคิดตัดสินใจวางแผนให้รอบคอบว่าเวลาไหนควรระเบิดพลังสปาร์คกิ้งหรือเก็บหอมรอมริบแต้มทักษะเอาไว้เผื่อใช้ยามฉุกเฉิน
ลูกเล่นวาร์ปหายตัวแวบไปแวบมาแอบโผล่ด้านหลังของศัตรูยังคงเป็นเทคนิคสำคัญที่ผู้เล่นต้องศึกษาเรึยนรู้ใช้งานมันให้คล่อง เช่นเดียวกับศาสตร์วิชาป้องกันตัวที่ดูเหมือนภาคใหม่นี้จะโฟกัสให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ โดยนอกเหนือจากการกดปุ่ม R1 เพื่อตั้งการ์ดป้องกันปกติแล้ว ผู้เล่นยังสามารถกดปุ่ม O ค้างเพื่อตั้งท่ารับหมัดฝ่ายตรงข้ามแล้วสวนกลับไปได้ด้วย เท่านั้นไม่พอในระหว่างที่ตัวเรากำลังถูกฝ่ายตรงข้ามกระหน่ำทำคอมโบ หากเราดันหน้าพร้อมกับกดสี่เหลี่ยมโจมตีให้ถูกจังหวะก็จะเป็นการเบรกทำลายคอมโบนั้นทันที นอกจากนี้ยังมีท่าโต้กลับสวนคืน (กดปุ่ม R3) ที่ใช้แต้มทักษะในการขัดคอมโบของคู่ต่อสู้ได้อีก หนำซ้ำถ้าเราเจอศัตรูที่ขยันวาร์ปโจมตีแอบเข้าด้านหลังบ่อยๆ เราก็กด R1 วาร์ปแข่งกับเขาได้เช่นกัน เรียกว่าถ้าประยุกต์ใช้ทุกอย่างจนชำนาญไม่ว่าจะสปาร์คกิ้งหรือท่าไม้ตายอัลติเมท มันก็ไม่มีสิ่งใดภายในเกมที่สามารถทำอะไรคุณได้เลย
สำหรับโหมดเนื้อเรื่องจะถูกแบ่งออกเป็นซาก้าบอกเล่าตามต้นฉบับการ์ตูน สตาร์ทเริ่มต้นตั้งแต่ภาคชาวไซย่าบุกโลก ไปดาวนาเม็ก สู้ศึกมนุษย์ดัดแปลง กำราบจอมมารบู ต่อยตีกับเทพเจ้าจอมทำลายล้าง เผชิญหน้าโกคูแบล็ค ปะทะฟรีสเซอร์ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ แล้วไปสุดหยุดตรงที่ศึกประชันพลังทั้ง 12 จักรวาลในอนิเมะภาค Super
ระหว่างทางอาจมีเนื้อเรื่องแยกปลีกย่อยแบบ What If ให้ได้ตามเก็บ ซึ่งระยะเวลาเคลียร์จบรวมๆแล้วไม่น่าถึง 10 ชั่วโมง ถ้าจะนานก็คงนานตรงที่เราต้องมาเสียเวลาเล่นเนื้อเรื่องเดิมผ่านมุมมองตัวละครอื่นๆอีกอย่าง โกฮัง เบจิต้า หรือพิคโกโร่ กลับกลายเป็นว่าซาก้าเดียวแต่ต้องเล่นวนอยู่หลายรอบ เช่น ศึกเซลเกม ที่ให้โกคูต่อสู้กับเซลและเซลจูเนียร์นิดๆหน่อยๆ พอมาเป็นเนื้อเรื่องของโกฮังค่อยได้สู้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วก็ฉายภาพคัตซีนเดิมซ้ำอีกรอบ อารมณ์เหมือนดูหนังเรื่องเดิมที่ฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเอียนเพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่งที่นั่ง ทำไมเขาไม่มัดรวมตัวละครแล้วดำเนินเรื่องไปพร้อมกันรวดเดียวเลยนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
อย่างที่ได้อธิบายไปข้างต้น เรื่องราวแคมเปญหลักของเกม Sparking! ZERO มันอาจไม่ได้ครอบคลุมครบทุกเหตุการณ์ในจักรวาล "ดราก้อนบอล" อาจมีเนื้อหาบางภาคที่ถูกหลงลืมมองข้ามหรือมีมูวี่บางภาคที่ไม่ได้ถูกบรรจุใส่เข้ามา ทว่าความละเลยขาดตกบกพร่องเหล่านั้นกลับถูกชดเชยด้วย Custom Battle Mode ฟีเจอร์ไฮไลท์ไม้เด็ดที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสวมวิญญาณผู้กำกับรังสรรค์ฉากต่อสู้ในฝัน เลือกพระเอกและวายร้าย กำหนดบทพูดตัวละคร ลำดับคิวแอ็คชั่นทั้งหมดแบบง่ายๆด้วยตัวเอง เสร็จแล้วก็โพสต์แชร์เพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นๆได้เข้าไปลองต่อสู้ในฉากสถานการณ์ที่เราจำลองสร้างขึ้นมา ซึ่ง ณ ปัจจุบันได้มีคนแห่เข้าไปนำเสนอไอเดียฝากฝังผลงานสุดแปลกใหม่มากมาย ทั้งที่เลียนแบบจากอนิเมะต้นฉบับ เช่น ฉากต่อสู้กับโอเมก้าเชนรอนในภาค GT, ฉากรวมร่างต่อสู้กับโบรลี่แบบที่เห็นในภาพยนตร์, ฉากต่อสู้กับเมทัลคูลเลอร์ในภาคเดอะมูวี่ ลามไปจนถึงฉากปะทะเหนือจินตนาการคิดขึ้นมาใหม่แบบด้นสดหลุดโลกไปเลยก็ยังมี
ทางฝั่งตัวละครต้องยอมรับว่า สปาร์คกิ้ง ซีโร่ เป็นเกมดราก้อนบอลที่ขนเอาเหล่านักสู้มาให้เราเลือกเล่นมากที่สุดในประวัติศาสตร์รวมร่างแปลงต่างๆทั้งหมดแล้วมีจำนวนถึง 182 ตัวละครเลยทีเดียว ขนขบวนมาหมดครบทุกภาค ไม่ว่าจะภาคหลัก ภาคเสริม ตอนเด็ก ตอนโต ไปจนถึงเดอะมูวี่ ขนาดตัวละครร่างยักษ์ก็ยังมา เรียกได้ว่าอัดแน่นครบถ้วนอัปเดตจนถึงอนิเมะซูเปอร์ตอนล่าสุดที่โกคูสามารถบรรลุร่างนำใจกายนำจิตนั่นแหละครับ ขาดเพียงแค่ โกฮังร่างบีสต์ ในหนังภาคซูเปอร์ฮีโร่กับเหล่าตัวละครร่างเด็กในอนิเมะเรื่อง ดราก้อนบอล ไดมะ ที่เพิ่งฉายเท่านั้น ที่ทาง บันไดนัมโค ขอสงวนเก็บไว้เป็นตัวละคร DLC ฟันกำไรหาเงินเข้ากระเป๋าบ้าง ส่วนวิธีการปลดล็อคตัวละครต่างๆภายในเกมนี้มันก็ไม่ได้ยุ่งยาก แค่เล่นเคลียร์โหมดเนื้อเรื่องไปตามปกติหรือหากใครรวยมีเงินเซนีเหลือกินเหลือใช้ก็สามารถแวะเข้าร้านค้าเลือกจิ้มซื้อตัวละครได้ตามใจชอบ นอกจากนี้การขอพรจากเทพเจ้ามังกรก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราสามารถใช้ปลดล็อคตัวละครพิเศษบางตัวได้เช่นกัน
ตัวละครจากอนิเมะภาคใหม่ล่าสุด จะอัปเดตตามหลังในฐานะตัวละคร DLC
เราสามารถสนุกสนานไปกับการแข่งขันต่อสู้ทั้งแบบแบ่งหน้าจอวัดดวลกับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างกันหรือประลองเปิดศึกท้าสู้ชิงชัยกับผู้เล่นออนไลน์คนอื่นๆ การแข่งขันจะเป็นลักษณะ 5v5 แต่ละฝั่งจัดทีมห้าตัวละครลงมาต่อสู้กันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะไม่เหลือใครลงมาสู้ ผู้เล่นสามารถเลือกสมาชิกผสมสร้างทีมในฝันได้อิสระ ทว่าอย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาแข่ง Rank แบบจัดอันดับ มันจะมีการกำหนดแต้มพลังรวมของทั้งทีมเอาไว้ว่าห้ามเกิน 15 แต้มเพื่อความสมดุล โดยตัวละครอ่อนสุดอย่างมิสเตอร์ซาตานจะใช้เพียงแค่ 1 แต้มเหลือที่ว่างให้ใส่ตัวละครอื่นๆลงไปในทีมได้อีกหลายตัว กลับกันตัวละครสุดแกร่งอย่างโกจิต้าจะกินโควต้าไปถึง 10 แต้มแทบไม่เหลือสล็อตว่างให้ใครอื่น นั่นจึงทำให้เราต้องคิดวางแผนดีๆเวลาจัดทีม บางครั้งอาจต้องจำใจใส่ตัวละครที่เป็นร่างเบสพื้นฐานไร้พิษสงแล้วค่อยไปแปลงร่างไต่ลำดับขั้นหรือฟิวชั่นเป็นตัวละครสุดแกร่งเอาทีหลังในระหว่างการต่อสู้แทน ซึ่งนี่ดูเหมือนจะเป็นวิธีเล่นที่ถูกต้องที่ทีมพัฒนาอยากให้ทุกคนหันมาทำกัน เพราะการทำฟิวชั่นในระหว่างสู้รบนั้นมันจะช่วยเพิ่มจำนวนเกจเลือดเสมือนเราได้ตัวละครใหม่มาร่วมทีมเพิ่มอีกหนึ่งตัว ผิดกับการส่งตัวละครร่างฟิวชั่นสำเร็จรูปลงสู่สังเวียนตั้งแต่เริ่มที่นอกจากจะทำให้ทีมเรามีโควต้าสมาชิกน้อยลงแล้ว ตัวละครฟิวชั่นดังกล่าวยังมาพร้อมเลือดแค่ 4 หลอดที่เราต้องพยายามรักษาไปตลอดจนจบแมตช์อีกด้วย
แม้รูปลักษณ์ภายนอกของมันจะดูดี เป็นเกมต่อสู้ภาพสวยสุดตื่นตาที่แฟนดราก้อนบอลทุกคนต่างถวิลหา แต่ใช่ว่าเนื้อในมันจะงามเหมือนหน้าตา โดยปัญหาส่วนใหญ่หลักๆที่เราพบมักเป็นเรื่องจุกจิก เช่น เงื่อนไขการต่อสู้ในโหมดเนื้อเรื่องที่ไม่ระบุให้ชัดเจนว่า ไฟต์ไหนบังคับแพ้หรือไฟต์ไหนให้ถ่วงเวลา ทำให้หลายครั้งกำลังสู้กันอย่างเมามันส์ก็ตัดจบลงไปแบบดื้อๆไม่สาแก่ใจ, ตอนอัดศัตรูกะให้ปลิวลอยละลิ่วก็มักติดกำแพงล่องหนสุดเขตของฉาก, ยามกดเปลี่ยนตัวละครบางทีก็เกิดบัคสลับตัวไม่ได้ทั้งที่เกจสวิตช์สีเหลืองส่องแสงพร้อมใช้งาน, AI ศัตรูทั้งในโหมดเนื้อเรื่องรวมถึงโหมดคัสตอมสร้างเองที่โกงเว่อเคาน์เตอร์ผู้เล่นได้หมดทุกท่วงท่าเหมือนเชื่อมจิตรู้ใจเราว่ากดปุ่มใดและกดตอนไหน (ฝรั่งเรียก Input Reading) แต่พอเราขยับตัวถอยออกมาห่างๆพวกมันกลับยืนง่อยทำอะไรไม่เป็นซะอย่างนั้น, ตัวเกมปราศจากฟีเจอร์ Cross-play ไม่สามารถเล่นออนไลน์ร่วมกับผู้เล่นแพลตฟอร์มอื่นได้ ส่งผลให้ใช้เวลานานและยากลำบากในการหาห้อง, ด้วยความที่มันเป็นเกมไฟท์ติ้ง 3D เคลื่อนไหวในฉากได้อิสระ มีตัวแปรทางเลือกมากมายยากต่อการคาดเดาล่วงหน้า เทคโนโลยี Rollback Netcode จึงไม่อาจถูกนำมาใช้กับเกมนี้ได้ นั่นเองจึงส่งผลให้การสู้ออนไลน์กับผู้เล่นที่อยู่ห่างไกลมากๆค่าปิงสูงๆมักเกิดอาการดีเลย์แลคหน่วงแทบเล่นไม่ได้เลยแบบเกมต่อสู้สมัยก่อน และปัญหาคาใจเราเรื่องสุดท้ายนั่นคือ "ยาจิโรเบ้" ตัวละคร ซามูไรร่างท้วมที่ไม่ได้เก่งกาจอะไร แต่ดันมีสกิลกวนใจสามารถควักถั่วเซียนขึ้นมากินได้ไม่จำกัด คือทีมพัฒนาเขาคิดกันจริงๆหรือว่า การที่มีตัวละครฮีลเลือดกลับมาเต็มหลอดได้เรื่อยๆในเกมต่อสู้นั้น มันจะไม่สร้างปัญหาตามมา?
"ถึงอย่างไรเสีย DRAGON BALL: Sparking! ZERO มันก็ยังคงเป็นเกมไฟท์ติ้งในจักรวาลดราก้อนบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด ณ เวลานี้ ด้วยจำนวนตัวละครที่ยกมาทั้งซีรีส์ เอฟเฟกต์สุดตระการตา และระบบการต่อสู้ที่ลุ่มลึกเร้าใจ เพียงแค่ปัจจุบันมันยังไม่ใช่ร่างที่สมบูรณ์ดีนัก จิ้มกดลงไปตรงไหนก็ยุบ โฟกัสตรงจุดใดก็เห็นรอยช้ำช่องโหว่เต็มไปหมด จนอาจพูดเปรียบเปรยได้ว่าทรงของมันช่างดูสง่าน่าเกรงขามราศีจับดุจดั่ง 'ฟรีเซอร์ร่างทอง' แต่ก็ตามที่ โกคู เคยกล่าวไว้ ถ้าพวกเขารู้จักใช้เวลาขัดเกลาตัวเกมให้นานมากกว่านี้ไม่ต้องใจร้อนเร่งรีบขาย มันคงออกมาเป็นร่างเทพที่สมบูรณ์แบบไร้ข้อติใดๆ"
| เกมเพลย์ | 9 |
| กราฟิก | 9 |
| รายชื่อตัวละคร | 9 |
| โหมดแคมเปญ | 7 |
| การเล่นออนไลน์ | 6 |
| ภาพรวม | 8 |
ข้อดี: พลังออร่าสกิลท่าไม้ตายสุดตระการตาโดนใจคอการ์ตูน, ระบบกลไกการต่อสู้ที่ล้ำลึกทั้งรุกทั้งตั้งรับ, มีรายชื่อตัวละครนักสู้เยอะสุดในประวัติศาสตร์ซีรีส์, วิธีปลดล็อคตัวละครไม่ยุ่งยากหากตังค์ถึงเลือกซื้อได้หมด, แต่งองค์ทรงเครื่องเปลี่ยนเสื้อผ้าเสริมศักยภาพตัวละครได้ตามใจ, ทุกตัวล้วนมีบทพูดนิสัยใจคอที่ถอดแบบมาจากอนิเมะเป๊ะๆ, สนุกไม่รู้จบไปกับฉากซีนต่อสู้ในฝันที่ผู้เล่นทั่วโลกสร้างสรรค์แล้วนำมาแชร์ร่วมกัน และปัจจุบันตัวเกมเริ่มทยอยปล่อยแพทช์แก้ไขก็ต้องให้เวลาทีมงานเขาปรับปรุงกันไป
ข้อเสีย: ศัตรูชอบกระเด็นติดกำแพงกลางเวหาบ่อยครั้งสร้างความอึดอัดน่าหงุดหงิด, ปัญหาบัคข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆที่อาจทำให้เราถึงขั้นแพ้ได้, AI คู่ต่อสู้ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่นักไม่เน้นเก่งแต่เน้นโกง, โหมดเนื้อเรื่องที่แบ่งแยกเป็นมุมมองหลายตัวละครต้องทนดูเหตุการณ์เดิมซ้ำๆจนเอียน, การเล่นออนไลน์เสมือนสุ่มวัดดวงบางครั้งลื่นบางครั้งแลค และไม่สามารถเล่นร่วมกันข้ามแพลตฟอร์มได้ทำให้หาห้องนานแทบหลับ
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท บันไดนัมโค Bandai Namco Entertainment
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
