แนวเกม แอ็คชั่นผจญภัยแพลตฟอร์ม
แพลตฟอร์ม PS5
เรตเกม ESRB: E เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป
ผลงานเกมภาคใหม่ลำดับที่สามในแฟรนไชส์หุ่นจิ๋วน่ารักหัวใจอิ่มฟู ที่หนนี้เขาไม่ได้มาแค่กู้จักรวาลเท่านั้น แต่ยังช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้กับ โซนี่ อีกด้วย
แอสโตรบ็อต ซีรีส์เกมแอ็คชั่นผจญภัยแพลตฟอร์มที่มีจุดเริ่มต้นจากเกมเทคเดโมสอนเทคนิคลูกเล่นสาธิตวิธีการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆบนอุปกรณ์ เพลย์สเตชัน มาถึงวันนี้เจ้าหุ่นจิ๋วตาฟ้าตัวละครเอกมาสคอตของ โซนี่ นับว่าเดินทางมาไกลเกินกว่าที่ใครๆคาดคิดกัน เพราะตัวเกมภาคล่าสุดที่เราหยิบมารีวิวนี้มันทั้งดูจริงจังและทุ่มทุนสร้างเทียบเท่าเกมระดับ AAA เลยทีเดียว
เรื่องราวของเกมเริ่มต้นขึ้น ณ วันหนึ่งในระหว่างที่ยานอวกาศรูปลักษณ์คอนโซล เพลย์สเตชัน 5 กำลังเดินทางพาลูกเรือหุ่นจิ๋วท่องข้ามจักรวาลอยู่นั้น จู่ๆเจ้าเอเลี่ยนอันธพาลตัวเขียว Nebulax ก็ปรากฏกายฉีกทึ้งยานพร้อมกับขโมยช่วงชิงขุมพลังหัวใจหลักอย่าง CPU ออกไปหน้าตาเฉย นั่นเองจึงทำให้เหล่าลูกเรือทั้งหมดรวมไปถึงชิ้นส่วนตัวยานหลุดล่องลอยกระจัดกระจายไปทั่วกาแลกซี่ หลงเหลือเพียงแค่โครงร่าง PS5 อันเปลือยเปล่าร่วงตกลงสู่พื้นดาวทะเลทราย แม้แทบสูญสิ้นความหวังแต่ตัวเอก แอสโตรบอท ของเราเขายังไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาตัดสินใจแน่วแน่ที่จะขับยานลำเล็ก DualSense ออกตระเวนตามหาพวกพ้องและชิ้นส่วนที่หายไป เพื่อประกอบยานแม่ PS5 ให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์เหมือนใหม่อีกครั้ง!
ผู้เล่นจะได้ท่องเดินทางสำรวจเยี่ยมชมดาวแต่ละดวงในกาแล็กซี่ที่มีดีไซน์การออกแบบสภาพแวดล้อม อุปสรรคขวากหนาม และแมคคานิคกลไกในการผ่านด่านไม่ซ้ำกันเลย หน้าที่หลักของเรานั่นคือการเดินเก็บสะสมเหรียญทอง เพลย์สเตชัน และยื่นมือให้ความช่วยเหลือสมาชิกเพื่อนบ็อตตามรายทางที่หลงติดกับหรือแอบซ่อนตัวอยู่ภายในฉาก ยิ่งตามหาพวกเขาได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะพวกพ้องบ็อตเหล่านี้จะถูกส่งตัวกลับไปที่ยานแม่แล้วเราสามารถสั่งให้พวกมันสามัคคีร่วมใจกันยกหินหรือต่อตัวสร้างสะพานเพื่อปลดล็อคเปิดทางไปสู่โซนพื้นที่ใหม่ๆได้ นอกจากนี้ในการเข้าไปสู้กับบอสใหญ่เจ้าถิ่นก็ยังระบุเงื่อนไขว่าเราต้องเก็บเพื่อนบ็อตให้ครบถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดอีกด้วย ดังนั้นพี่น้องพวกพ้องบ็อตจึงมีความสำคัญยิ่งยวดต่อการเล่น หากเห็นแล้วเรามิอาจมองข้ามปล่อยผ่านได้เลย
แม้รูปลักษณ์หน้าตาอันสดใสของมันจะเหมือนเป็นเกมสำหรับเด็ก แต่เรื่องคุณภาพกราฟิกต้องบอกว่าสามารถสู้เกมฟอร์มยักษ์ของผู้ใหญ่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นต้นหญ้า เม็ดทราย ท้องทะเล ผืนน้ำ หิมะ แท่งเหล็ก ยันเศษกระจก ทุกอย่างล้วนดูสวยงามสมจริงและที่สำคัญคือมีระบบฟิสิกส์แบบเฉพาะของตัวมันเอง เราสามารถสัมผัสแตะเตะปฏิสัมพันธ์หรือต่อยพุ่งชนทำลายได้เกือบหมดทุกอย่าง ส่วนเรื่องเสียงดนตรีก็ทำได้เข้ากับบรรยากาศดี ถึงแม้ตัวเกมจะเน้นสีหน้าท่าทางการขยับเคลื่อนไหวของตัวละครในการถ่ายทอดบอกเล่าเรื่องราวไม่มีบทให้เจ้าแอสโตรบ็อตพูดสักท่อน แต่เมนูออพชั่นตัวเลือกพวกชื่อดาวต่างๆทางทีมงานก็ยังใจดีอุตส่าห์แปลภาษาไทยมาให้
เมื่อเป็นเกมเรือธงของ โซนี่ ลูกเล่นทั้งหลายบนตัวคอนโทรลเลอร์ DualSense จึงถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันเอียงจอยตรวจจับการเคลื่อนไหวเวลาบังคับยานบิน แรงต้านไกปืน Adaptive Trigger ยามเร่งเครื่องไอพ่นหรือกดใช้สกิลพิเศษต่างๆนานา รวมไปถึงระบบจำลองการสั่น Haptic Feedback ที่ต้องบอกว่ามันคือไฮไลท์จุดขายหลักของเกมเลยทีเดียว เพราะฟีลการสั่นมันช่างเร้าใจเข้าถึงอารมณ์ โดยเฉพาะยามที่เราเดินผ่านสภาพพื้นผิวที่เป็นของแข็งอย่างไม้กระดาน กระจก หรือเหล็กที่มอบความรู้สึกตกกระทบในทุกจังหวะก้าวเดินได้อย่างดีเยี่ยม หรือจะเป็นตอนที่เราไอซ์สเก็ตลื่นไถลไปตามพื้นน้ำแข็ง มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรแหลมคมมากรีดตรงฝ่ามือเราจริงๆ ส่วนพวกสภาพพื้นผิวที่มีความนุ่มนิ่มอย่างน้ำ ทราย หรือหิมะนั้นต้องบอกว่าการสั่นมันยังคงไกลห่างจากความเป็นจริงอยู่พอสมควร (ก็แน่ละมันยังไม่ถึงยุคที่สามารถใส่ของเหลวหรือเม็ดผงลงไปในจอยได้) ฉะนั้นเวลาเล่นจึงต้องใส่จินตนาการของเราลงไปช่วยเสริมด้วยอีกแรง
นอกเหนือจากท่าหมุนตัวต่อยและยิงแสงเลเซอร์ออกมาจากขาทั้งสองข้างเวลากระโดดค้างกลางอากาศที่เป็นท่าประจำของเจ้าหุ่นแอสโตรบ็อตแล้ว ในภาคนี้ทางผู้พัฒนา Team Asobi ยังได้สอดแทรกพลังความสามารถสุดสร้างสรรค์ใหม่ๆมาให้พวกเราได้สนุกกัน โดยมันจะมาในรูปแบบของเป้สะพายหลัง Backpack ที่เมื่อพอเก็บได้แล้วเราจะสามารถกดปุ่ม R2 หรือ L2 เพื่อเรียกใช้พลังพิเศษของมันได้แบบไม่มีขีดจำกัด ซึ่งดาวแต่ละดวงที่เราไปเยือนนั้นมันจะมีเป้พลังให้เก็บต่างชนิดกันออกไปแต่บอกเลยว่าเจ๋งแจ่มแจ๋วทุกอัน ขอหยิบยกมาพูดถึงสักสองสามชิ้นอย่าง เป้บอลลูน ที่ให้เราพองตัวเป็นลูกโป่งทะยานขึ้นสู่ที่สูง, เป้น้องหมาบูลด็อก ที่ใช้พุ่งทำลายข้าวของทุกสิ่งที่ขวางทาง, เป้กำปั้น ที่สามารถยืดหมัดออกไปต่อยศัตรูแบบลูฟี่ หรือ เป้แขนลิง ที่สามารถหยิบจับวัตถุขว้างปาห้อยโหนปีนป่ายเกาะกำแพงได้อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่กิมมิคลูกเล่นบางส่วนของเกมเท่านั้นยังมีพลังมากมายอีกหลายสิบอย่างที่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง
เอาแค่หมู่ดาวตามเนื้อเรื่องหลักมันก็มีให้เล่นเยอะมากพออยู่แล้ว แต่ทีมพัฒนาก็ยังตอกไข่ใส่เนื้อหาความลับเพิ่มเติมลงไปอีกด้วยกาแลกซี่ที่หายสาบสูญปริศนารอให้เราออกตามหา โดยในด่านปกติหากเราสำรวจดีๆมันจะมีประตูมิติพอร์ทัลซุกซ่อนอยู่เพื่อพาเราวาร์ปไปยังกาแลกซี่ลับที่ว่านี้ ถ้าหากรอบแรกเราพลาดหามันไม่เจอ เราสามารถกลับมาเล่นซ้ำด่านเดิมแล้วใช้นกผู้ช่วยบินชี้เป้าระบุตำแหน่งของลับที่ซ่อนอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ็อตที่เราเผลอข้ามไปหรือประตูมิติที่ยังหาไม่เจอ เรียกว่าถึงปริมาณคอนเทนต์มันจะมหาศาลละลานตาแค่ไหน แต่ก็ไม่ชวนให้รู้สึกว่ามันทรมาน สามารถนั่งเล่นข้ามวันข้ามคืนไปได้แบบชิลๆสบายๆไม่ต้องเครียด
"Astro Bot มันมิใช่แค่เกมแอ็คชั่นแพลตฟอร์มชั้นเลิศ แต่มันคือตัวแทนอารยธรรมของฝั่ง เพลย์สเตชัน เพราะนอกจากเกมเพลย์จะสนุกสร้างสรรค์แบบสุดๆแล้ว ภายในยังเต็มไปด้วยกิมมิคและเหล่าตัวละครโปรดที่สาวกต่างคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดี หากเรายกย่องให้ มาริโอ คือภาพจำของนินเทนโด แอสโตรบ็อต ก็คงจะเป็นหน้าต่างดวงใจของ โซนี่ ไปเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน"
เกมเพลย์ | 10 |
กราฟิก | 10 |
เสียง | 10 |
เนื้อเรื่อง | 7 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
ภาพรวม | 9.4 |
ข้อดี: ภาพสวยสดใสชวนหัวใจพองโต, สภาพแวดล้อมเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดปฏิสัมพันธ์ได้ทุกสิ่ง, ลูกเล่นจอยจัดเต็มโดยเฉพาะระบบสั่นที่ฟินมาก, หลากดวงดาวหลายกาแลกซี่ที่รอให้สำรวจแบบจุกๆ, สกิลพาวเวอร์อัพสุดสร้างสรรค์มีประโยชน์ทั้งตอนสู้-เดินทาง, สารพัดวิธีปราบบอสแต่ละตัวที่ล้วนสนุกสนาน, พลังสามัคคีของผองเพื่อนบ็อตทำให้การตามเก็บสะสมพวกเขามีความหมาย, เมนูคำบรรยายแปลไทยให้ครบแถมชื่อดาวยังฟังดูกิ๊บเก๋ และเป็นเกมรวมอารยธรรม เพลย์สเตชัน ที่แฟนบอยไม่ควรพลาด
ข้อเสีย: หากปูเรื่องราวดีๆอาจช่วยให้รู้สึกผูกพันกับตัวละครมากกว่านี้ และการเล่นเคลียร์ดาวไปทีละดวงที่ค่อนข้างวนลูปไปสักหน่อย
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ Sony Interactive Entertainment (SIE)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*