แนว แอ็คชั่นอาร์เขตไซด์สโครล
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Switch, PC
เรตเกม ESRB: T เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป
การกลับมาของเกมแอ็คชั่นนินจาในดวงใจของเหล่าวัยรุ่นยุค 90 ที่ยกระดับทั้งภาพกราฟิกและความยากที่ทวีขึ้นเป็นเท่าตัว
สำหรับ Shadow of the Ninja นับเป็นอีกหนึ่งตำนานเกมเก่าแก่คลาสสิคที่มีมานานนมตั้งแต่สมัยยุคเครื่องเล่นเกมฟามิคอม โดยมันเป็นเกมแนวแอ็คชั่นนินจาไซด์สโครลตะลุยด่านไปด้านข้างที่ค่อนข้างดูล้ำนำสมัยในช่วง ณ เวลานั้น จนกระทั่งในวันนี้มนต์เสน่ห์และบรรยากาศเก่าๆเหล่านั้นมันได้ถูกนำกลับมาปัดฝุ่นให้เกมเมอร์รุ่นใหม่ได้ลิ้มลองสัมผัสกันแล้ว ในผลงานเกมเวอร์ชันรีเมคที่พ่วงคำต่อท้ายชื่อเสริมลงไปว่า "รีบอร์น" หรือก็คือการหวนคืนชีพใหม่ของตำนาน นั่นเอง
เรื่องราวในภาครีเมคจะยังคงเล่าเนื้อหาตามต้นฉบับทุกประการ เมื่อแผ่นดินสหรัฐอเมริกาในยุคอนาคตปี 2029 ได้ถูกจักรพรรดิจอมวายร้าย Garuda ใช้กำลังบุกเข้ายึดครองสำเร็จ เพื่อปลดแอกประเทศและแก้แค้นให้เหล่าผู้คนบริสุทธิ์ที่ถูกฆ่า สองปรมาจารย์นักรบในเงามืดอย่างท่านชาย Hayate และแม่หญิง Kaede จึงถูกส่งตัวไปยังฐานทัพใหญ่ของฝ่ายศัตรูเพื่อปฏิบัติภารกิจปลิดชีพลอบสังหารผู้นำเผด็จการจอมโฉดรายนี้ให้จงได้!
เกมเพลย์จะเหมือนแนวแอ็คชั่นไซด์สโครลทั่วไป ที่ผู้เล่นต้องบุกฝ่าฟันอุปสรรค กำจัดกองทัพศัตรูลูกสมุนตามรายทาง เพื่อไปให้ถึงบอสใหญ่ท้ายฉาก เพียงแค่เสริมลูกเล่นกายกรรมผาดโผนให้สมกับเป็นนินจาเข้ามา ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถห้อยโหนปีนขึ้น-ปีนลงระหว่างชั้นแพลตฟอร์ม ยึดเกาะตัวติดกับกำแพง วิ่งไต่ผนังขึ้นไปในแนวตั้ง อีกทั้งยังสามารถปล่อยพลังคาถาวิชานินจาเรียกสายฟ้าลงมาโจมตีศัตรูภายในฉากได้อีกด้วย
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้น ตัวเกมจะมีสองตัวละครเอกให้ได้เลือกเล่นระหว่าง "ฮายาเตะ" หนุ่มนินจาในชุดสีฟ้า กับ "คาเอเดะ" สาวน้อยคุโนอิจิในชุดชมพูหัวเขียว ซึ่งจากที่ลองมาฟีลความรู้สึกและสไตล์การเล่นของทั้งคู่แทบไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าตัวละครเพศหญิงหรือเพศชายต่างก็เลือกใช้อาวุธหลักเป็นดาบ "คาตานะ" เอาไว้โจมตีระยะประชิด ส่วนระยะไกลก็เป็นหน้าที่ของ "คุซาริกามะ" หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า "เคียวติดโซ่" ขว้างใส่ศัตรูแล้วดึงกลับเข้าหาตัวจากระยะปลอดภัย ฉะนั้นใครชอบตัวไหนก็เลือกเล่นตัวนั้นไปเถอะ มันไม่มีผลใดๆ
ตามภาพที่ได้เห็น ภาพกราฟิกจะได้รับการปรับปรุงแบบก้าวกระโดด โมเดลตัวละครทั้งฝ่ายเราฝ่ายศัตรู ฉากหลังแบคกราวน์ ไปจนถึงแผนผังโครงสร้างของด่าน ล้วนถูกยกเครื่องรื้อสร้างขึ้นมาใหม่หมดจด เมื่อลองไปเปรียบเทียบกับเกมเวอร์ชัน NES ต้นฉบับที่ทำเป็นด่านเรียบๆง่ายๆแล้ว รายละเอียดของเกมเวอร์ชันรีเมคนี้แลดูจัดเต็มมีมิติดีเทลสีสันจัดจ้านกว่ากันเยอะ แต่อย่างไรเสียมันก็ยังคงเป็นเม็ดพิกเซล 16 บิตให้บรรยากาศคลาสสิคชวนรำลึกความหลัง ซึ่งเป็นสไตล์ภาพที่หลายเกมรีเมค ณ ปัจจุบันนิยมใช้กัน
คลิปวิดีโอเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเวอร์ชันต้นฉบับกับรีเมค
ตัวเกมนั้นเปิดโอกาสให้คุณสามารถเลือกโซโลเล่นคนเดียวหรือว่าจะชักชวนเพื่อนอีกคนมานั่งเล่นข้างๆไปด้วยกันแบบ Co-op ได้ ซึ่งต้องบอกว่าอย่างหลังมันสนุกกว่ากันมาก หากคุณเลือกเล่นเป็นตัวละคร Hayate เพื่อนอีกคนก็จะได้บังคับเป็น Kaede ต่อสู้ฟันฝ่าเคียงบ่าเคียงไหล่กันไปแบบคู่หู คนหนึ่งคุมซ้าย คนหนึ่งคุมขวา คนหนึ่งอยู่ล่าง อีกคนอยู่บน แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องการจัดสรรแบ่งปันทรัพยากร เมื่อเพื่อนบาดเจ็บเราก็อย่าเผลอเดินไปเก็บไอเทมฟื้นฟูตัดหน้าเขาและเวลาเดินก็ต้องอยู่ใกล้ๆเกาะกลุ่มกันไว้เพื่อมิให้คนใดคนหนึ่งตกหล่นหายไปจากจอภาพ ซึ่งถ้าสื่อสารเล่นเข้าขากันดีๆเรื่องนี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหา
อีกหนึ่งเหตุผลที่อยากให้ทุกคนหันมาเล่นแบบ Co-op กัน นั่นก็เพราะระดับความยากที่เพิ่มสูงขึ้นจากจำนวนข้าศึกที่โผล่กันมาเยอะกว่าต้นฉบับ จากที่ผู้เขียนได้ลองไปค้นหาคลิปวิดีโอเก่าๆสมัยเครื่อง NES พบว่าศัตรูมักทยอยเดินมาหาเรื่องเราทีละตัวสองตัว มิได้กรูกันมาเป็นฝูงทุกทิศทุกทางเหมือนอย่างในเกมเวอร์ชันรีเมคใหม่นี้ จริงอยู่หากเล่นร่วมกันสองคนมันจะพอดี แต่คนที่ชอบเล่นคนเดียวแบบกระผมและใครอีกหลายๆคนที่ไม่อยากรอให้เพื่อนว่าง ปริมาณศัตรูขนาดนี้มันมากเกินเบอร์ที่เกมเมอร์ธรรมดาคนหนึ่งจะแบกรับไหว แค่ด่านแรกกว่าจะผ่านไปได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกท่วมหลัง นี่ถ้าทีมพัฒนาปรับสเกลจำนวนศัตรูให้สมดุลบาลานซ์กับจำนวนผู้เล่นหรือใส่ออพชั่นตัวช่วยเหลือเข้ามาเพิ่มเติม มันก็น่าจะทำให้ตัวเกมสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นได้กว้างขึ้น มิใช่ยากจนรู้สึกท้อแท้แบบนี้
"ด้วยความที่ Shadow of the Ninja มันเป็นเกมเก่าสมัยโบราณ เนื้อหาความยาวของมันจึงอาจดูสั้นเทียบไม่ได้กับเกมในยุคปัจจุบัน ถ้าเป็นเซียนเล่นเก่งๆไม่ตายซ้ำตายซากก็สามารถเคลียร์จบเกมได้ในระยะเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ฟังดูก็คุ้มค่าอยู่นะถ้าพิจารณาจากราคาขายเพียงไม่กี่ร้อยของมันบนสตีม แต่อย่างที่บอกไปตัวเกมน่าซื้อหาหรือไม่ ปัจจัยอะไรๆมันก็ไม่สำคัญเท่ากับที่บ้านคุณมีเพื่อนมีพี่มีน้องที่พร้อมสแตนด์บายถือจอยสองร่วมผจญภัยไปกับคุณหรือเปล่า?"
| เกมเพลย์ | 7 |
| กราฟิก | 8 |
| เสียง | 8 |
| ปริมาณเนื้อหา | 5 |
| ความคุ้มค่า | 7 |
| ภาพรวม | 7 |
ข้อดี: ภาพสวยทันสมัยขึ้นแต่ยังคงให้อารมณ์คลาสสิค, ตัวด่านฉากหลังถูกปรับปรุงเปลี่ยนใหม่หมดยกแผง, ซาวด์เอฟเฟกต์ดนตรีประกอบชวนรำลึกความหลังได้ดี, มีให้เลือกถึงสองตัวละครเอกแม้สกิลไม่แตกต่างกัน, นั่งเล่น Co-op กับเพื่อนเป็นอะไรที่บันเทิงสนุกมาก และราคาน่าคบหาโดยเฉพาะเวอร์ชันพีซี
ข้อเสีย: เนื้อหาไม่ยาวนักด่านสั้นจบไวในไม่กี่ชั่วโมง, ปราศจากโหมดเสริมขาดฟีเจอร์อะไรใหม่ๆให้อยากเล่นต่อ, ออพชั่นปรับแต่งเกมเพลย์ไม่มีทำให้คนเล่นบางกลุ่มเข้าถึงยาก และจำนวนศัตรูที่ไม่สมดุลสอดรับกับจำนวนผู้เล่น
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท SEGA
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
