แนวเกม แอ็คชั่นผจญภัยซีนีมาติก
แพลตฟอร์ม Xbox Series, PC
เรตเกม ESRB: M เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 17 ปีขึ้นไป
***มีให้เล่นแบบเดย์วันสำหรับสมาชิก Game Pass***
(ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายจากเครื่อง Xbox Series S)
เรื่องราวการผจญภัยจิตวิทยาภาคต่อของหญิงสาวนักสู้หัวใจแกร่ง ผู้ต้องมาเอาชีวิตรอดบนผืนแผ่นดินแห่งใหม่ที่ซุกซ่อนอันตรายขนาดมหึมายิ่งกว่าเคย
เนื้อหาในเกม Hellblade II นั้นจะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากภาคแรก เมื่อตัวละครเอก "เซนัว" (Senua) หญิงสาวผู้เจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ระทมทางจิตใจ ได้ตัดสินใจที่จะยอมให้ชนเผ่าจากแดนเหนือจับเธอไปเป็นเชลยแฝงตัวปะปนอยู่ร่วมกับทาสคนอื่นๆเพื่อหวังปลดแอกช่วยเหลือพวกเขาในตอนที่สบโอกาส แต่ทว่าเรือขนส่งทาสที่เธอโดยสารมานั้นระหว่างทางกลับโดนพายุคลื่นซัดโหมกระหน่ำจนทำให้เธอลอยคอมาเกยตื้นยังชายฝั่งของ ไอซ์แลนด์ ดินแดนทางตอนเหนือที่กำลังประสบมหันตภัยจากพวกยักษ์ไททัน ซึ่งร่ำลือกันว่าไม่มีศาสตราวุธใดบนโลกใบนี้ที่สามารถโค่นล้มพวกมันลง มนุษย์ธรรมดาทำได้เพียงแค่วิ่งหนีหลบซ่อนตัวหรือจับทาสมาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแลกกับความปลอดภัยของตนเอง เพื่อยุติวงจรอุบาทว์นี้ เซนัว และผองมิตรสหายหน้าใหม่จึงต้องพยายามคิดหาหนทางกำจัดยักษ์เหล่านี้ด้วยบางสิ่งที่ทรงพลานุภาพแดเมจรุนแรงยิ่งกว่าอาวุธใดๆในผืนปฐพี
เหมือนเช่นภาคแรก เริ่มต้นมาตัวเกมจะไม่มีโหมด Tutorial คอยสอนวิธีการบังคับควบคุมหน้าจอจะโล่งสะอาดไร้อินเตอร์เฟสบอกกล่าวนำทางใดๆทั้งสิ้น ผู้เล่นต้องคลำหาทดลองกดปุ่มกันเอาเอง จดจำว่าปุ่มไหนใช้วิ่ง ปุ่มไหนใช้ฟาดฟันโจมตี ปุ่มไหนตั้งการ์ด ปุ่มไหนใช้ปฏิสัมพันธ์หยิบจับวัตถุสิ่งของ หรือปุ่มไหนสำหรับเพ่งเล็ง Focus เพื่อใช้ในการแก้ปริศนาพัซเซิลเปิดทางไปต่อ ซึ่งหากเกมเมอร์คนใดที่คุ้นเคยกับระบบเกมเพลย์ของมันเมื่อ 7 ปีก่อนมาแล้ว ก็คงไม่ต้องปรับตัวเรียนรู้อะไรกันมากมาย ส่วนผู้เล่นหน้าใหม่ๆที่เพิ่งหัดลองจับแฟรนไชส์นี้เป็นครั้งแรกก่อนเล่นก็ควรกดเข้าเมนูไปศึกษาดูแผนผังปุ่มควบคุมให้ละเอียดเข้าใจซะตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องยืนงงเป็นไก่ตาแตกตอนปะทะกับศัตรูตัวแรก
พูดถึงระบบคอมแบทในภาคนี้มันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมนัก ผู้เล่นยังต้องคอยสังเกตอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูแล้วหาจังหวะเหมาะๆเพื่อโจมตีสวนกลับไป หากเรากดปัดป้องได้ทันแบบหวุดหวิดก็จะเกิดประกายแสงสีขาววาบขึ้นมาให้ได้รู้ว่านั่นคือ Perfect Parry ยิ่งเราโจมตีเข้าเนื้อหรือปัดป้องได้ถูกจังหวะบ่อยๆ เครื่องรางทรงกลมที่ห้อยอยู่ตรงสะโพกก็จะยิ่งเรืองแสงส่องสว่างเปิดโอกาสให้เรากดใช้สกิล Focus หน่วงเวลาทำให้สิ่งต่างๆรอบข้างรวมถึงศัตรูเคลื่อนไหวช้าลงตีฟันฆ่ามันได้อย่างสบาย โดยเกจสีขาวดังกล่าวเราสามารถเก็บสะสมได้มากสูงสุดสามวง นั่นหมายความว่าเราสามารถชะลอเวลาได้มากสูงสุดสามครั้งติดต่อกันแล้วค่อยชาร์จเก็บสะสมใหม่ เป็นระบบแอ็คชั่นสู้รบที่ดูเบสิคธรรมดาเข้าใจง่ายเพียงแต่ต้องใช้การสังเกตกันเล็กน้อยในช่วงแรกๆเพราะอย่างที่บอกไปตัวเกมมันไม่ได้สอนอะไรเราเลย
ฟีเจอร์ Permadeath ที่หลายคนเคยโดนทีมพัฒนาหลอกให้กลัวตีตนไปก่อนไข้ในภาคที่แล้ว มาคราวนี้ดูเหมือนทาง Ninja Theory จะรู้ดีว่ามุกเดิมของพวกเขาคงข่มขู่ผู้เล่นไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว จึงไม่มีความพยายามเอื้อนเอ่ยถึงมันใดๆทั้งสิ้นภายในผลงานภาคต่อ จากเกมที่ผู้เล่นหวาดกลัวที่จะตายกลายเป็นเกมแอ็คชั่นผจญภัยทั่วไปในท้องตลาด หากพลาดพลั้งทำตัวละครตายคุณก็แค่เริ่มต้นใหม่ที่จุดนั้น ไม่มีหมึกดำกัดกลืนกินแขน ไม่ต้องกังวลเรื่องเซฟไฟล์จะถูกลบ นั่งเล่นไปสบายๆแบบไม่ต้องเครียดอยากเสพเนื้อเรื่องอย่างเดียวก็เลือก Easy ไปหรือหากเป็นคนขี้เบื่อต้องการให้ตัวเกมปรับระดับความยากขึ้นลงตามทักษะของเราก็เลือก Dynamic เรียกว่าเทียบกับภาคแรกแล้ว เกมภาคนี้ดูเข้าถึงง่ายผ่อนคลายกว่ากันเยอะ
Hellblade II เป็นอีกหนึ่งไตเติ้ลเกมที่ถูกสร้างมาเพื่อแสดงศักยภาพขุมพลัง Unreal Engine 5 เอนจิ้นเทพเวอร์ชันล่าสุดที่คอนโซลยุคปัจจุบันเริ่มอกสั่นขวัญแขวนเพราะความสวยงามสมจริงของมันสูงเกินกว่าทรัพยากรของเครื่องคอนโซลจะรับไหว ดังนั้นตัวเกมในเวอร์ชันคอนโซลฝั่ง Xbox จึงต้องมีการปรับลดความละอียดของภาพลงมาและจำกัดเฟรมเรตให้วิ่งอยู่ที่ 30fps อย่างไรก็ดีจากที่ตัวผู้รีวิวได้เปิดเล่นทดสอบมันบนเครื่อง Series S ผลปรากฏว่าเฟรมเรตมันไม่ได้แย่อย่างที่คิดเนื่องจากเป็น 30fps ที่นิ่งคงที่ลื่นไหลตลอดทั้งเกม ไม่มีอาการกระตุกใดๆให้พบเห็นทั้งในฉากเดินสำรวจ ฉากต่อสู้ หรือตอนเจอยักษ์ ติดตรงแค่เพียงเรื่องความละเอียดคมชัดของภาพที่อาจสู้ Series X หรือเครื่องพีซีแรงๆไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง
นอกจากภาพที่มองเห็นด้วยตาเปล่า เสียงที่ได้ยินผ่านหูก็เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่พาจิตใจของผู้เล่นให้ถลำดำดิ่งไปกับเรื่องราวของเกม โดยเฉพาะจังหวะการต่อสู้ที่ตัวเกมได้เลือกใช้เครื่องเล่นตีเป่าสมัยโบราณในการจำลองสร้างดนตรีที่ชวนปลุกเร้าอารมณ์ เสียงกลองที่ตีคล้องเข้ากับจังหวะการเต้นของหัวใจ เสียงบีทที่ดังขึ้นเวลาลาวาภูเขาไฟปะทุ หรือว่าจะเป็นเสียงพูดกระซิบในหัวของ เซนัว ที่มีหลายโทนเสียงดังเบาแหลมทุ้มแตกต่างกันไป ยิ่งถ้าหากเล่นเกมนี้ผ่านหูฟังหรือผ่านเครื่องเสียงลำโพงดีๆที่สามารถแยกเสียงฝั่งซ้าย-ขวาได้อย่างชัดเจนแล้วละก็ บอกเลยว่านี่จะเป็นประสบการณ์สุดตื่นเต้นชวนหลอนขนหัวลุกครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณจะไม่มีวันลืมมันลงเลยทีเดียว
ด้านปริมาณเนื้อหามันจะมีความยาวพอๆกันกับตัวเกมภาคแรก คุณสามารถใช้ช่วงเวลาวันหยุดพักผ่อนเล่นเคลียร์มันจบได้ภายในวันเดียวเพราะมันกินเวลาเพียงแค่ 6-7 ชั่วโมงเท่านั้นมากน้อยขึ้นอยู่กับความเร็วในการแก้ปริศนาของแต่ละคน เกมนี้ไม่มีทั้งระบบอัปเกรดตัวละคร ไม่มีระบบฟาร์มของ ไม่มีบอสลับใดๆให้ออกตามหา กิจกรรมข้างทางมีเพียงแค่การจ้องมองแท่นเสา Lorestangir เก็บตัวอักขระสีแดงให้ครบเพื่อเปลี่ยนเสียงพูดบรรยายประกอบกับตามหาหินรูปใบหน้าคน Hidden Faces เพื่อเปิดทางไปสำรวจต้นไม้อิกดราซิลที่อยู่ด้านหลัง สิ่งต่างๆเหล่านี้แค่ช่วยให้เราเข้าใจมุมมองที่หลากหลายและรู้จักโลกภายในเกมมากขึ้น มิได้ส่งผลกระทบโดยตรงใดๆต่อเกมเพลย์ ฉะนั้นแล้วความน่าดึงดูดชวนให้กลับมาเล่นซ้ำจึงแทบเป็นศูนย์ จบแล้วจบเลยเหมือนเช่นภาพยนตร์ในโรงหนังที่หากเราตั้งใจดูจริงๆเก็บหมดทุกรายละเอียดตั้งแต่รอบแรก มันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตีตั๋วซ้ำกลับไปดูรอบสอง
ถ้าลองสังเกตจากสกรีนช็อตที่เราถ่ายมา จะเห็นได้ว่าทุกภาพล้วนมีแถบดำด้านบน-ด้านล่างปิดหัวปิดท้ายเอาไว้อยู่ ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าตัวเกมถูกจงใจสร้างมาเพื่อสัดส่วนหน้าจอแบบ Ultrawide โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นขนาดอัตราส่วนที่เครื่องคอนโซลเอ็กบ็อกซ์ไม่ซัพพอร์ตรองรับ จึงแสดงแถบดำปรากฏขึ้นมาให้หงุดหงิดสายตาต้องทนเล่นไปแบบไม่เต็มจอตลอดทั้งเกม สำหรับวิธีแก้มันมีแค่ทางเดียวเท่านั้นคือคุณต้องเปิดเล่นมันบนเครื่องพีซีที่ต่อเข้ากับจอมอนิเตอร์อัลตร้าไวด์ เพื่อเสพสัมผัสประสบการณ์แบบเต็มอิ่มสมตามความปรารถนาของทีมผู้พัฒนา ทว่าอย่างไรก็ตาม การเล่นบนจออัลตร้าไวด์ให้ได้แบบลื่นๆนั้น สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมันก็ต้องแรงเอาเรื่อง เช่นเดียวกัน
"หากจะตัดสินเกม Senua's Saga: Hellblade II ว่ามันดีหรือแย่ เราคงตอบได้ยากเพราะขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคลว่าตัวคุณต้องการอะไรจากมัน ถ้าสิ่งที่คุณต้องการคือเกมที่เล่นได้นานๆมีอะไรให้ทำเยอะๆและมีระบบเกมเพลย์ที่สนุกลึกซึ้ง เกมนี้มันคงสนองให้ไม่ได้ แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายเสพเนื้อเรื่องอยากได้ประสบการณ์แบบในโรงภาพยนตร์ คุณก็ไม่ต้องเสียเวลามองหาเกมไหนที่จะมอบความฟินได้ดีไปมากกว่านี้ และยิ่งหากคุณเป็นสมาชิกเกมพาสด้วยแล้ว ไม่ว่าคอเกมสายใดหรือมองจากมุมไหนยังไงมันก็คุ้ม"
| เกมเพลย์ | 7 |
| เนื้อเรื่อง | 9 |
| กราฟิก | 9 |
| เสียง | 9 |
| ปริมาณเนื้อหา | 6 |
| ภาพรวม | 8 |
ข้อดี: สีหน้าอารมณ์ตัวละครเอกโคตรเรียลราวกับคนเป็นๆ, บรรยากาศแสงสีโดดเด่นงามตาล้ำจินตนาการ, เรื่องราวของสาวน้อยลำพังสู่ผู้นำชุมชนสุดเข้มข้นแถมมีหักมุม, ดนตรีดังขึ้นมาแต่ละทีทำเอาใจเต้นรัวสั่นสะท้าน, เสียงกระซิบกระซาบข้างหูที่ชวนขนหัวลุก, เล่นสนุกเข้าถึงง่ายผ่อนคลายกว่าภาคแรก, เฟรมเรตบนคอนโซลอย่างนิ่งถึงแม้จะรันแค่ 30fps และเป็นหนึ่งในเกมที่ไม่ควรพลาดสำหรับสมาชิกเกมพาส
ข้อเสีย: หากอยากสัมผัสประสบการณ์แบบสมบูรณ์จำต้องมีจออัลตร้าไวด์พร้อมพีซีสเปคสูงระดับหนึ่ง, ระบบต่อสู้ดูธรรมดาไม่ได้ลึกซึ้งหรือแปลกใหม่อะไรจากภาคก่อน, เนื้อหาค่อนข้างสั้นสามารถเล่นจบได้ในรวดเดียว และขาดแรงจูงใจเชื้อชวนให้กลับไปเล่นซ้ำ
สนับสนุนบทความรีวิวโดย เอ็กบ็อกซ์
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
